ฟิลิปส์ นำเสนอนวัตกรรมด้านรังสีวินิจฉัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบข้อมูลสารสนเทศบนคลาวด์ในงาน RSNA 2024

ฟิลิปส์พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านรังสีวินิจฉัยที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อการดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยโซลูชันในการวินิจฉัยและการรักษาโรคอันชาญฉลาด และเทคโนโลยีสารสนเทศด้านเฮลท์แคร์

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพระดับโลก เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวนวัตกรรมด้านรังสีวินิจฉัยใหม่ล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่แม่นยำ รวดเร็ว สะดวกง่ายดาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในงาน Radiological Society of North America (RSNA) 2024 งานแสดงนวัตกรรมด้านรังสีวินิจฉัยระดับโลกที่จัดขึ้น ณ เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

นวัตกรรมใหม่นี้ของฟิลิปส์ นำเสนอเทคโนโลยีเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่รังสีแพทย์ต้องเผชิญ มาพร้อมการจัดการข้อมูลบนคลาวด์ การประมวลผลขั้นสูงและแบบอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยี AI ที่ทำงานร่วมกัน  เพื่อลดภาระงานด้านเอกสารให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวบรวมและแสดงผลข้อมูลเชิงลึกให้กับเจ้าหน้าที่ทางคลีนิก เพื่อช่วยส่งมอบการดูแลรักษาที่ดีกว่าให้กับผู้คนได้มากขึ้น

มร.เบิร์ท ฟาน เมอร์ส ประธานกลุ่มธุรกิจด้านการวินิจฉัยและการรักษา และผู้บริหารระดับสูง รอยัล ฟิลิปส์ กล่าวว่า “ปัจจุบันวงการเฮลท์แคร์กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านรังสีวิทยา ด้วยจำนวนผู้ป่วย การศึกษาด้านรังสีวินิจฉัย และข้อมูลดาต้าด้านรังสีวินิจฉัยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น ดังนั้น ฟิลิปส์ จึงพร้อมนำเสนอโซลูชั่นส์ด้านรังสีวินิจฉัยอันชาญฉลาดที่ทำงานร่วมกับระบบข้อมูลสารสนเทศระดับเวิลด์คลาส เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขในการเพิ่มประสิทธิภาพใน การทำงานและการให้บริการ ลดภาระงานด้านเอกสาร และช่วยให้แพทย์รังสีสามารถโฟกัสที่การดูแลและตัวผู้ป่วยได้มากขึ้น”

จากผลสำรวจ Philips Future Health Index 2024 Report ชี้ให้เห็นว่า 99% ของผู้บริหารด้านรังสีวิทยาต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยกว่า 4 ใน 5 ยังมีปัญหาทางด้านการเงิน และ 45% มีภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) นอกจากนี้ รังสีแพทย์ยังพบว่ามีผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนของโรคเพิ่มขึ้นกว่า 40% [1] โดยเฉพาะทางด้านโรคหัวใจและสมอง ส่งผลให้ความต้องการตรวจด้านรังสีวินิจฉัยเพิ่มมากขึ้น และข้อมูลด้านรังสีวินิจฉัยเพิ่มขึ้น 60% [2] ในงาน RSNA ปีนี้ ฟิลิปส์ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนวัตกรรมและโซลูชั่นส์ของเรา ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยยกระดับด้านรังสีวินิจฉัยสำหรับผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อด้านรังสีวินิจฉัยเข้ากับระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ

ผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่อง MRI ที่ลดการใช้ฮีเลียม

ฟิลิปส์เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่เปิดตัวเครื่อง MRI ที่ลดการใช้ฮีเลียมด้วยเครื่องที่มีขนาดกว้างพิเศษและประสิทธิภาพสูง มาพร้อมการเชื่อมต่อกับคลาวด์, เทคโนโลยี AI, การรายงานผลเชิงปริมาณแบบอัตโนมัติ สำหรับบางโรคโดยเฉพาะโรคทางระบบประสาทและสมอง และโรคมะเร็ง นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การวางแผน การถ่ายภาพ ไปจนถึงการรายงานผล ยังทำให้เครื่อง MRI  BlueSeal 1.5T รุ่นใหม่จากฟิลิปส์ นี้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น สะดวกในการใช้งาน และสามารถเข้าถึงการวินิจฉัยที่แม่นยำได้ ในขณะเดียวกันยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เทคโนโลยี BlueSeal  ในเครื่อง MRI ฟิลิปส์เข้ามาปฏิวัติวงการและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่อง MRI โดยเป็นระบบขนาด 70 ซม. ที่เบาที่สุด [5] มีต้นทุนในการบำรุงรักษาที่น้อยลง ติดตั้งได้ง่ายดายขึ้น สามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตามสถานที่ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่

พลิกโฉมนวัตกรรมด้านการวินิจฉัยและรักษาโรค

ในงาน RSNA ฟิลิปส์ได้เปิดตัวเครื่อง CT 5300 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ครั้งแรก ซึ่งมาพร้อมด้วยซอฟต์แวร์ Precise Image AI-based เพื่อช่วยในทุกกระบวนการทำงานของครื่อง CT และยังช่วยลดปริมาณรังสีที่ใช้ และปรับปรุงคุณภาพของภาพที่ได้จากการสแกนอวัยวะที่ซับซ้อนอย่างหัวใจ นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังได้อัพเดทโซลูชั่นส์ของเครื่อง Spectral CT 7500 ที่สามารถตรวจได้หลากหลายแขนงทางคลินิก ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคทางระบบประสาทและสมอง กล้ามเนื้อและกระดูก รวมถึงโรคในเด็ก จากการตรวจด้วยเทคโนโลยี Spectral กว่า 24 ล้านครั้ง พบว่า Spectral CT 7500 มีความไวในการตรวจถึง 97% เมื่อเทียบกับ CT แบบเดิมที่ทำได้เพียง 55% [6] ความแม่นยำในการแยกซีสต์กับเนื้องอกสูงถึง 96% เมื่อเทียบกับการใช้ CT แบบเดิมที่ทำได้เพียง 30% [7] และช่วยลดการสแกนซ้ำได้ 26% [8]

นอกจากนี้ ภายในงานฯ ฟิลิปส์ยังได้แนะนำอัลตร้าซาวด์รุ่นใหม่ล่าสุด EPIQ  Elite และ Affiniti ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และระบบอัตโนมัติในการทำงาน เพื่อช่วยให้การตรวจรวดเร็วขึ้นและทำซ้ำได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการวินิจฉัยให้กับแพทย์มากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการตั้งค่าได้มากกว่า 100 รูปแบบสำหรับการใช้งานทางคลินิก อัลตราซาวด์รุ่นล่าสุดของฟิลิปส์นี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตรวจและลดความผันแปรของผลลัพธ์ได้ ทำให้ลดเวลาที่ใช้ในการปรับภาพสำหรับการตรวจช่องท้องและการตรวจทางสูตินรีเวชลงได้กว่า 50%  [9] และยังมีการโชว์นวัตกรรมเครื่องตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด Azurion 7 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดเวลาในการทำหัตถการได้ถึง 17% และลดเวลาในการเตรียมผู้ป่วยได้ถึง 12% ทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นต่อวัน [10]

ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุด พร้อมขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AWS

ภายในงาน RSNA ฟิลิปส์ได้จัดแสดงเทคโนโลยีชั้นนำด้านข้อมูลสารสนเทศทางการแพทย์ (Healthcare Informatics) ทั้งในด้านการจัดการข้อมูล, การประมวลผลภาพตรวจขั้นสูง, ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยลดภาระงานให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมมอบข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้ ซึ่งฟิลิปส์ได้ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Amazon Web Services (AWS) เพื่อให้บริการโซลูชันส์สารสนเทศด้านการตรวจวินิจฉัยบนระบบคลาวด์ ครอบคลุมทั้งด้านรังสีวิทยา พยาธิวิทยาดิจิทัล การตรวจรักษาโรคหัวใจ [11] และโซลูชันส์การประมวลผลขั้นสูงด้วย AI [11] ภายใต้ความร่วมมือนี้ ฟิลิปส์ตั้งเป้าในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Generative AI ที่รองรับการทำงานในอนาคตโดยใช้โมเดลพื้นฐานที่ล้ำสมัยจาก Amazon Bedrock เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับกระบวนการทำงานทางคลินิกได้อย่างราบรื่น

Loading