ASUS ProArt PZ13(HT5306) คือโน้ตบุ๊กแบบ 2-in-1 ขนาดหน้าจอ 13.3″ ความละเอียด 3K ที่แสดงผลได้คมชัด สีสันสวยงาม รองรับการทัชสกรีนและขีดเขียนผ่านปากกา ASUS PEN 2.0 และยังสามารถถอดหน้าจอออกไปใช้งานได้อย่างอิสระ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP-52 และผ่านการทดสอบระดับกองทัพสหรัฐ US Military Grade เหมาะกับการพกพาออกไปใช้งานนอกบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือฝุ่นอีกต่อไป
ตัวเครื่องมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Snapdragon X Plus ที่มี NPU แยกสูงถึง 45 TOPS ช่วยให้การประมวลผล AI ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังใช้พลังงานต่ำช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 11 Home และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 พร้อมใช้งาน การรับประกันมาตรฐาน On-Site Service 3 ปี, International warranty 2 ปีและ Perfect warranty 1 ปีแรก กับค่าตัว 45,990 บาท
SPEC ASUS ProArt PZ13(HT5306)
- ซีพียู Qualcomm Snapdragon X Plus ด้วยการประมวลผล AI ที่รวดเร็ว 45 TOPS
- GPU Qualcomm® Adreno
- RAM 16GB LPDDR5X on board
- 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
- หน้าจอแสดงผล 13.3″ พาแนลแบบ OLED ความละเอียด 3K 2880 x 1800พิกเซล
- Wi-Fi 7(802.11be)
- Bluetooth 5.4
- แบตเตอรี่ 70WHrs
- ราคา 45,990 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่องที่มีมาให้
- ชุดหน้าจอ
- คีบอร์ด
- เคสฝาหลังที่ใช้งานเป้นขาตั้งได้
- Backpack อย่างดี
- Micro SD adapter
- ปากกา ASUS PEN 2.0
- Adapter
วัสดุและการออกแบบ
หน้าจอแบบ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 3K 2880 x 1800พิกเซล 60Hz ค่าความสว่าง 500nits, ขอบเขตสี 100% DCI-P3 และค่าความเพี้ยนของสีต่ำมากๆ Delta-E < 1 ถือว่าเป้นหน้าจอที่เหมาะกับสายงาน content creator ที่ต้องการหน้าจอที่มีความเที่ยงตรงของสีมากที่สุด
ด้านบนของขอบจอติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด 5MP พร้อมฟังกืชั่น IR Camera, รุ่นนี้จะติดตั้งไมค์สนทนามาให้ทั้งหมด 3 ตัว พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างช่วยให้การสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น
หน้าจอแสดงผลสามารถถอดออกจากชุดคีบอร์ดได้ รองรับการทัชสกรีน สามารถขีดเขียนผ่านปากกกา ASUS PEN 2.0 ที่รองรับแรงกด 4096 ระดับ
เฉพาะชุดหน้าจอและอุปกรณ์ภายในต้องบอกว่ามีความบางมากๆ บางเพียง 9 มม. น้ำหนัก 0.85 กก. ทึ่งไปเลยครับอัดมาได้ไง เฉพาะแบตเตอรี่ก็ให้มาเยอะมากถึง 70Wh แล้ว และตัวเครื่องยังผ่านการทดสอบมาตราฐานกันฝุ่นกันน้ำ IP52
ตัวเครื่องวัสดุอย่างดีพร้อมเคลือบผิวแบบอโนไดซ์ช่วยลดการกัดกร่อนของผิวโลหะ ขึ้นรูปแบบ UNI BODY สี Nono Black ออกไปทางดำด้าน ด้านหลังแบบเรียบจะมีโลโก้ใหม่ของ ProArt , ช่องลมระบายความร้อน สำหรับดูดลมเย็นเข้าตัวเครื่องนะครับ ลมร้อนจะถูกเป่าออกด้านบนภายในจะติดตั้งพัดลมระบายความร้อนมาให้หนึ่งตัว, และกล้องหลังความละเอียด 8MP
สำหรับฝาหลังหรือเคสแบบตั้งได้ วัสดุดีมากๆครับ ป้องกันรอยขีดข่วนได้ระดับหนึ่ง การประกับเข้ากับตัวเครื่องใช้แบบแม่เหล็กดูดเข้าหากันเอง ยึดได้แข็งแรงมากแทบดึกไม่ออกกันเลยทีเดียว สามารถพับปรับระกับได้อิสระ
ดีบอร์ดสามารถถอดใช้งานได้ การเชื่อมต่อมีพอร์ตนะครับใช้พลังงานผ่านพอร์ตนะไม่สามารถใช้งานแบบไร้สายได้ ปุ่มคีย์ลัคยังมีมาให้ครบถ้วนรวมถึงปุ่ม Copitot ระยะยุบของปุ่มที่ 1.4มม. แทบจะเสมือนการใช้คีบอร์ดโน๊ตบุ๊คทั่วไปครับ และมีไฟแบล็คไลฟ์ด้วยนะครับ ปรับความสว่างได้สามระดับนะ
พอร์ตการเชื่อมต่อ
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าตัวเครื่องมีขนาดเล็กและบางมากๆ พอร์ตต่างๆเลยมีมาให้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ฝั่งซ้ายจะมี USB4 Type-C ทั้งหมดสองช่อง , และช่อง SD card reader
ฝั่งขวาจะมีแค่ช่องลำโพง โดยรุ่นนี้จะมีลำโพงมาให้ทั้งหมดสองตัวรองรับระบบเสียง Dolby Atmos จากที่ทดสอบการใช้งาน เสียงดังพอใช้ครับ มิติเสียงดีมากๆเมื่อเทียบกับฝั่งแท็บเล็ตในตลาด
ด้านบนจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและช่องระบายลมร้อน
ประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS ProArt PZ13(HT5306) มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล CPU Snapdragon® X Plus X1P 42 100 Processor 3.4GHz (30MB Cache, up to 3.4GHz, 8 cores, 8 Threads) ที่มาพร้อมกับขุมพลัง Hexagon NPU ช่วยประมวลผล AI ได้เต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถสั่งการได้เร็วสูงสุด 45TOPS ถือว่าเป้น NPU ที่เร็วที่สุดแล้วครับในตอนนี้
หน่วยความจำ
- RAM 16GB LPDDR5X on board
- 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
แบตเตอรี่ขนาด 70Wh สามารถใช้งานได้ยาวถึง 18 ชม.ต่อการชาร์จหนึ่งรอบ(สำหรับต่อคีบอร์ดและเปิดไฟคีบอร์ดใช้งานทั่วไป)
ผลการทดสอบผ่านโปรแกรม
ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 11 Home และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 พร้อมใช้งาน และโปรแกรม ProArt Creator HUB มาให้ เพื่อจัดการตัวเครื่องรวมไปถึงจัดการการแสดงค่าสีของหน้าจอรวมไปถึงการควบรวมฟังก์ชั่นลัคโปรแกรมต่างๆ
สรุป
ASUS ProArt PZ13(HT5306) มันคือโน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1 หรือจะเรียกว่าแท็บเล็ตระดับเรือธงก็ได้ หน้าจอแสดงผลที่คมชัด สีสันสวยงามเหมาะกับงานที่ต้องการความเที่ยงตรงของค่าสีตัวนี้เอาอยู่สบายๆครับ สามารถถอดหน้าจอออกไปใช้งานได้อิสระและยังมีมาตราฐานกันฝุ่นกันน้ำ IP52 น่าจะเหมาะกับสายทำคอนเท็นนอกสถานที่ สเปคตัวเครื่องที่ให้มา Qualcomm Snapdragon X Plus ที่มี NPU 45TOPS(ทำงานบน Windows On ARM) ประหยัดพลังงานแถมยังให้ประสิทธิภาพสูงแม้ไม่ได้ชาร์จไฟ(เทียบเท่าพอๆกับเสียบชาร์จแบต) ถ้ามองภาพรวมถือว่าคุ้มมากๆครับกับค่าตัว 45,990 บาท แถมยังรับประกัน 3ปีแบบ On-Site Service ตามมาตราฐาน Pro Art Series ด้วย คุ้มครับ