เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน–4มิถุนายน2567–บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสตรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมด้วย บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยร่วมสนับสนุนภาครัฐยกระดับเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยโดยเปิดอาณาจักร SAIC Motor Corporation ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของสาธารณรัฐประชาชนจีนและเป็นหนึ่งในบริษัทที่ติดอันดับFortune Global 500ให้การต้อนรับนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คนที่ 6 จากขวา) พร้อมด้วยคณะ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เข้าเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมทั้งปรึกษาหารือเกี่ยวกับการพัฒนา และการลงทุนด้านการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่รวมไปถึงยานยนต์อัจฉริยะเพื่อเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวล้ำทัดเทียมระดับโลก
นายZu Sijie – Vice President and Chief Engineer of SAIC Motor, President and Director of the Technical Center of SAIC Motor R&D Innovation Headquarters(คนที่ 5 จากขวา)กล่าวว่า“ปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นศูนย์กลางที่ครอบคลุมทั้งการวิจัย พัฒนาการผลิตและจำหน่ายทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำของโลก การเดินทางมาเยี่ยมชม SAIC Motor Corporation
ของภาครัฐในครั้งนี้ บ่งบอกได้ถึงศักยภาพในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ภูมิภาคอาเซียนสู่ระดับโลก อีกทั้ง SAIC Motor Corporationรับบทบาทการเป็นผู้พัฒนา ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ยานยนต์อัจฉริยะ และยานยนต์สำหรับผู้สูงอายุ ไปจนถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของโครงการ”Capacity Building for Auto Parts Suppliers with Sustainable Development toward Transportation and Smart Mobility: ADAS system, new energy vehicle, rail system, aircraft parts, electronic parts, vehicles for aging people”ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประเทศไทย
สำหรับ SAIC Motor Corporation เป็นบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน มียอดการผลิตรถยนต์สูงกว่า 5.45 ล้านคันต่อปี ติดอันดับที่ 84 ในFortune Global 500ในปี พ.ศ. 2566 นอกจากการเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของจีนแล้วยังติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัทยานยนต์ชั้นนำของโลกซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญ
ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในฐานะผู้ผลิตชั้นนำที่มีความโดดเด่นเรื่องการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมยานยนต์ ที่มีนวัตกรรมการผลิตและเทคโนโลยีก้าวล้ำระดับโลก
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะได้เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ SAIC MotorCorporation อีกทั้งยังได้พบปะพูดคุยกับ นาย Zu Sijie – Vice President and Chief Engineer of SAIC Motor, President and Director of the Technical Center of SAIC Motor R&D Innovation Headquarters(คนที่ 5 จากขวา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเจาะลึกถึงทิศทาง แนวโน้ม โอกาสและความเป็นไปได้ในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะการเติบโตของยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์อัจฉริยะทั้งยังได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของ SAIC MotorCorporation กับบริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้เข้าชมกระบวนการผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่องด้วยการเข้าชมโรงผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่แบบ Solid-state ที่ตั้งอยู่
ณ เมือง Kunshanในมณฑล Jiangsuซึ่งจะยกระดับขีดความสามารถของยานยนต์ไฟฟ้าให้มีอานุภาพการวิ่งไกลกว่าเดิมหลายเท่าพร้อมสัมผัสกับยนตรกรรมแห่งอนาคตกับรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมอย่างIM L6 ที่ใช้แบตเตอรี่ Semi Solid-State ขนาด 133kWh ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 1,000 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
รวมถึงยนตรกรรมไฟฟ้าไร้คนขับ ทั้งในรูปแบบของรถส่วนบุคคลและรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์รวมถึงศึกษาระบบสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัจฉริยะ (Swap BatterySystem) ซึ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถกลับมาใช้งานต่อบนท้องถนนได้อย่างรวดเร็วหลังเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ชุดใหม่
นายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (คนที่ 2 จากซ้าย)กล่าวว่า“การมาศึกษาดูงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในครั้งนี้ ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ล้ำยุคของ SAIC MotorCorporationซึ่งถ่ายทอดสู่แบรนด์รถยนต์เอ็มจี พิสูจน์ให้เห็นได้จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องและการได้รับการยอมรับในวงกว้างตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ ที่ เอ็มจี เข้ามาดำเนินธุรกิจและทำการตลาดในประเทศไทย โดย เอ็มจี ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยหลายรายการมาบุกเบิกเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตลาดรถยนต์ภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบ inkaNetระบบอัจฉริยะที่ใช้สื่อสารระหว่างรถยนต์เอ็มจีกับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายพัฒนาสู่i-SMARTระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของโลก และยังเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 (Autonomous Level 2)เข้ามาใช้ใน
ยนตรกรรมอย่าง MG HS รวมถึงการสะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังในการดำเนินธุรกิจในไทย ด้วยการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์แบรนด์ เอ็มจี และโรงงานแบตเตอรี่อีวี
ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรีที่ได้นำนวัตกรรมขั้นสูง
มาใช้ในกระบวนการผลิต โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปีสามารถผลิตและประกอบรถยนต์ได้ครบ
ทุกรูปแบบการขับเคลื่อนในไลน์การผลิตเดียวกันทั้งยังสามารถประกอบแบตเตอรี่แบบCell-To-Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปีซึ่งทั้งหมดนี้ เอ็มจี มีเป้าหมายในการพัฒนาฐานการผลิตยานยนต์อนาคตเพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลก” นายสุโรจน์กล่าว
เครดิตภาพข่าว : https://www.facebook.com/industryprmoi
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand