ซาบรีนา เมิ่ง ประกาศศักยภาพ5Gพลิกโฉมโลก

เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน,30 มิถุนายนพ.ศ.2566–ซาบรีนา เมิ่ง ประธานกรรมการหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวปาฐกถาภายในงานโมบาย เวิลด์ คองเกรส เซี่ยงไฮ้ 2023 (MWC Shanghai 2023)โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของเทคโนโลยี 5G ตั้งแต่มีการนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ และกล่าวย้ำถึงบทบาทของ 5Gที่ได้เข้ามาพลิกโฉมตลาดผู้บริโภค อุตสาหกรรม และสภาพเศรษฐกิจสังคมทั่วโลก

ซาบรีนา เมิ่ง กล่าวปาฐกถาในงานMWC Shanghai 2023

“เทคโนโลยี 5G ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ทั่วโลกมากว่า 4 ปีแล้ว ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและตามครัวเรือนทุกมุมโลก จะเห็นได้ว่า 5G ได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานของผู้คน สร้างคุณประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และสังคม”

เมื่อมองไปถึงอนาคตของ 5G ซาบรีนา เมิ่งแสดงวิสัยทัศน์ต่อ5.5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ต่อยอดไปอีกขั้น โดยมั่นใจว่า 5.5G จะเป็นก้าวถัดไปของหัวเว่ยในการพลิกโฉมตลาดให้กับอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ และยังกล่าวย้ำถึงบทบาทของหัวเว่ยในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับหลายๆ ภาคอุตสาหกรรม และเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาความสามารถและกระบวนการทำงานต่างๆ ให้มีความบูรณาการมากขึ้น

“เทคโนโลยี 5.5G ไม่เพียงเชื่อมต่อผู้คนได้ดียิ่งขึ้น แต่จะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมอีกมากมายและยังมาพร้อมกับระบบสนับสนุนที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น เทคโนโลยี IoT, ระบบ sensing และกระบวนการผลิตที่ทันสมัยยิ่งขึ้น”ซาบรีนา เมิ่งกล่าว

เทคโนโลยี5G, คลาวด์ และ AI สู่ปฏิกิริยาลูกโซ่

ซาบรีนา เมิ่งย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี 5G ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งและ AI ที่มีต่อผู้บริโภคซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ต่างๆ ที่หล่อหลอมขึ้นเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ผู้คนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้งการซื้อและขาย

ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมสื่อสาร การให้บริการผู้บริโภคสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจากการให้บริการเครือข่าย เมื่อเทคโนโลยี 5G มีการเข้าถึงและใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่ได้รับจากเทคโนโลยีนี้ยังนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น ปริมาณการใช้งานวิดิโอความละเอียดสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ในอนาคต เทคโนโลยี 5G จะปูทางให้กับอุปกรณ์และแอปพลิเคชันใหม่ๆที่มอบประสบการณ์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น
โซลูชัน 5G New Calling และเทคโนโลยี Naked-eye 3D ไม่เพียงเท่านั้น เทคโนโลยี 5G ยังเปิดประตูไปสู่ยุคใหม่ของการเชื่อมต่อแบบพิเศษระหว่างวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะเป็นการเสริมศักยภาพให้กับเครือข่ายอุปกรณ์ IoT และนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในรูปแบบใหม่ๆ

เทคโนโลยี 5G คือขุมพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม

เทคโนโลยี 5G มอบศักยภาพในการพลิกโฉมให้กับอุตสาหกรรม เปรียบเสมือนตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสมรรถภาพและยกระดับประสิทธิภาพในหลายๆ อุตสาหกรรม เช่น ภาคธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ภาคการผลิต และภาคการขนส่ง ซาบรีนา เมิ่งยังได้อธิบายถึงความสำคัญของการบูรณาการเทคโนโลยี 5Gไว้ในระบบการผลิตเพื่อรองรับกระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ความรู้ความเข้าใจในเชิงลึกที่มีต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ความอุตสาหะเชิงกลยุทธ์ และการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้ปูทางให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จในการบูรณาการเทคโนโลยี 5G เข้ากับอุปกรณ์และกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม

สำหรับในประเทศไทย หัวเว่ย เร่งเดินหน้าสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5Gของภูมิภาคอาเซียน โดยภายในสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา หัวเว่ยได้สนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยติดตั้งสถานีฐาน 5G ไปแล้วกว่า 40,000สถานีทั่วประเทศช่วยให้ลูกค้าสามารถให้บริการเครือข่าย 5Gคุณภาพสูงแก่คนไทยมากกว่า 80เปอร์เซ็นต์ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมียอดผู้ใช้งาน5Gแล้วมากกว่า11ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 40เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้ใช้งาน5Gในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ อัตราการเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้งาน5G Terminal และการใช้ข้อมูลบนโครงข่าย5G ยังมากกว่า20เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จากการจัดอันดับโดยสมาคมผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมทั่วโลก (GSMA) ประเทศไทยติดหนึ่งในเมือง 10 อันดับแรกของโลกที่มีการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยี 5Gอย่างแพร่หลาย

ยุคแห่ง 5.5G กำลังใกล้เข้ามา

เมื่อมองสู่อนาคต ซาบรีนา เมิ่ง เผยวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยต่อวิวัฒนาการเทคโนโลยี 5G พร้อมเปิดตัวคอนเซ็ปต์เทคโนโลยี 5.5Gภายใต้ชื่อ 5G Advanced’โดยหัวเว่ย ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายให้เทคโนโลยี 5.5Gเป็นสะพานเชื่อมไปสู่เทคโนโลยี 6G ที่ต่อยอดยิ่งขึ้นจากศักยภาพของ 5G

เทคโนโลยี 5.5Gในอุตสาหกรรมการสื่อสารกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีขั้นสูงนี้คาดว่าจะเข้ามายกระดับความสามารถของเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า และจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเครือข่ายอีก 100เท่า สำหรับในงาน MWC Shanghaiปีนี้ หัวเว่ยได้จัดแสดง4คุณสมบัติหลักของเทคโนโลยี 5.5Gซึ่งรวมถึงการยกระดับสู่10 Gbps, การยกระดับสู่ 1 Gbps, การเชื่อมต่อ 1 แสนล้านจุด และการบูรณาการใช้งานระบบ AIตั้งแต่รากฐาน

นอกจากนี้ หัวเว่ยเร่งเดินหน้าสำรวจและพัฒนาการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 5.5Gใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ การเชื่อมต่อสำหรับผู้คน วัตถุสิ่งของ ยานยนต์ อุตสาหกรรม และบ้านพักที่อยู่อาศัย หัวเว่ยได้เริ่มสนับสนุนช่วยเหลือผู้ให้บริการเครือข่ายจำนวนมากทั่วโลกในการริเริ่มรับรองมาตรฐานการใช้งานเทคโนโลยี 5.5G ในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม 5.5Gจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ในขณะที่มาตรฐาน 5.5Gฉบับแรกจะสิ้นสุดลงในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ..2567และเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกันนี้เริ่มได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างครอบคลุม

ซาบรีนา เมิ่งยังเน้นย้ำว่า หัวเว่ยเชื่อว่าการให้การสนับสนุนจากลูกค้า พันธมิตรในอีโคซิสเต็ม สมาคมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษา จะช่วยเดินหน้ายกระดับและเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ความร่วมมือจากหลากภาคส่วนนี้จะเร่งขับเคลื่อนการเดินหน้าสู่ยุค 5.5Gและโลกอัจฉริยะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บูธจัดแสดงเทคโนโลยีของหัวเว่ย ในงาน MWC Shanghai 2023

ในโลกอัจฉริยะแห่งอนาคต ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลจะถูกบูรณาการอย่างไร้รอยต่อกับทุกแง่มุมในชีวิตของผู้คน อุตสาหกรรม และสังคมโดยรวมอย่างสมบูรณ์ ซาบรีนา เมิ่งเน้นย้ำถึงแง่มุมสำคัญ 2 ด้านของการบูรณาการศักยภาพทางดิจิทัล ด้านแรกคือการบูรณาการเทคโนโลยีที่แตกต่างเข้าด้วยกัน ด้วยการออกแบบที่เป็นระบบและการพัฒนานวัตกรรมในแบบ cross-domain จึงช่วยให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จในการบูรณาการโซลูชันคลาวด์ เน็ตเวิร์ก edge computing และอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นและสำหรับด้านที่สองจะมุ่งเน้นการบูรณาการแนวทางการบริหารจัดการที่หลากหลาย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *