กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 9 พฤษภาคม 2567 – Money20/20มหกรรมงานรวมฟินเทคชั้นนำของโลกที่ได้จัดขึ้นครั้งแรกในเอเชียที่กรุงเทพฯMoney20/20 Asia ปิดจบไปอย่างยิ่งใหญ่และสวยงามระหว่างวันที่ 23-25 เมษายนที่ผ่านมาณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยทั้งสามวันมีสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายในอุตสาหกรรมฟินเทคไม่ว่าจะการพูดคุยกันระหว่างบริษัทต่างๆมากมายในวงการฟินเทคการสร้างเครือข่ายของบริษัทชั้นนำและสตาร์ทอัพต่างๆซึ่งเรียกได้ว่าตลอดงานตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำได้มีการสร้างการผลักดันการเปลี่ยนแปลงของวงการฟินเทคอย่างเป็นรูปธรรมมหกรรมงานรวมฟินเทคชั้นนำที่จัดขึ้นครั้งแรกของเอเชียณกรุงเทพฯ
โดยกว่า 45 ประเทศนั้นอยู่เอเชีย-แปซิฟิกยิ่งไปกว่านั้นงานครั้งนี้มีวิทยากรเบอร์ต้นๆระดับวงการของเอเชียตบเท้าเข้าร่วมอย่างคับคั่งกว่า 250 ท่านและแต่ละท่านได้แสดงวิสัยทัศน์บนเวทีทั้ง 4 เวทีสุดยิ่งใหญ่ของงานซึ่งร้อยละ 45 คือผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงและมากกว่าร้อยละ 60 คือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯฟินเทคชั้นนำของอุตสาหกรรม
“งานMoney20/20 Asia ครั้งนี้คือมหกรรมงานฟินเทคที่ผนึกกำลังทัพผู้นำด้านฟินเทคของวงการเพื่อมาประชุมกันสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่โดยมีแบรนด์ผู้ให้บริการด้านธนาคารชั้นนำบริษัทผู้ให้บริการด้านการชำระเงินนักลงทุนและกลุ่มบริษัทร่วมทุนสตาร์ทอัพหน่วยงานกำกับดูแลการทำธุรกรรมและการเงินและมีเดียแพลตฟอร์มมากมายที่ตบเท้าเข้าร่วมงานครั้งนี้ซึ่งสร้างความน่าตื่นเต้นอย่างมากพร้อมยังแสดงถึงการได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ด้านการจัดงานด้านฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ประเทศไทยของMoney20/20 การพูดคุยดีลทางธุรกิจและการประกาศด้านความร่วมมือของบริษัทฯต่างๆที่เกิดขึ้นณงานครั้งนี้สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญของเอเชียที่เป็นภูมิภาคแถวหน้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตระดับโลกด้านฟินเทคอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นศักยภาพที่โดดเด่นและสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯในปีหน้า”
ปัญญาประดิษฐ์หรือAI, การชำระเงินระหว่างประเทศ, ธนาคารแบบเปิด, สินทรัพย์ดิจิทัล, โครงการสกุลเงินดิจิทัล (CBDC) และการเข้าถึงบริการทางการเงินถือว่าเป็นประเด็นร้อนบนเวทีทั้งสี่ของงานMoney20/20 Asia นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยยังได้มีการประกาศความร่วมมือกับJP Morgan ในงานแถลงข่าวของMoney20/20 Asia ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายนเปิดตัวโปรเจกต์คารินาProject Carina ใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนเพื่อโอนย้ายอำนาจในการตัดสินใจและการควบคุมจากศูนย์กลางไปยังเครือข่ายแบบกระจายและเทคโนโลยีWeb3 เพื่อยกระดับการชำระเงินข้ามพรมแดนลดระยะเวลาการทำธุรกรรมจากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น
ทั้งนี้หน่วยงานกำกับดูแลการทำธุรกรรมและการเงินของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังมีบทบาทสำคัญในการอภิปรายบนเวทีของเราอีกด้วยจาก 20 การอภิปรายของการประชุมณงานจากทั้งหมด 189 การอภิปรายของเรามีหน่วยงานกำกับดูแลการทำธุรกรรมและการเงินในเอเชียรวมไปถึงฟินเทคและสถาบันการเงินต่างๆเข้าร่วมและได้กล่าวถึงเทรนด์ล่าสุดและผลกระทบของเทคโนโลยีที่จะมีต่อกฎระเบียบด้านการทำธุรกรรมและการเงินอีกด้วย
ในการอภิปรายที่นำโดยDr. Wong Huei Ching จากthe Securities Commission Malaysia หรือSC Malaysia ได้มีการเล่าถึงการเส้นทางของฟินเทคที่ประเทศมาเลเซียในตลาดทุนว่ามีความเป็นมาอย่างไรโดยมีการมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมด้านนวัตกรรมและการให้ความสำคัญกับการคุ้มครองแก่นักลงทุน
“ประเทศมาเลเซียนั้นเปิดกว้างอย่างมากสำหรับโอกาสทางธุรกิจหลักการทั้ง 14 ประการของเราเป็นจุดเด่นของแนวทางด้านนวัตกรรมที่ประเทศมาเลเซียตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเราได้นำหลักการด้านความร่วมมือมาปรับใช้โดยตระหนักถึงการทำงานร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของหลากหลายภาคส่วนอาทิประชาชนภาครัฐและบริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมความมุ่งมั่นของเรายิ่งใหญ่ไปไกลกว่าแค่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแต่เป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อบรรลุพันธกิจอันยิ่งใหญ่ของเราอย่างเป็นรูปธรรมไม่ว่าจะเป็นการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างง่ายดายหรือแม้กระทั่งยกระดับสังคมของเราให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม”Dr. Wong กล่าว
ความปลอดภัยการระบุตัวตนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และการป้องกันการฉ้อโกงในยุคของAI นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในวาระสำคัญของงานเลยก็ว่าได้ซึ่งทำให้ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ในหลากหลายช่วงการอภิปรายตลอดทั้งงาน
คุณJustin Lie, Founder และCEO ของSHIELD ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความน่าเชื่อถือและความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนในการแก้ปัญหาการฉ้อโกงในยุคดิจิทัลในการอภิปรายภายใต้หัวข้อ “Trust Tech, Empower Lives: Redefining Financial Inclusion in the AI Age.” ที่SHIELD ได้จัดขึ้นที่งานTrust Summit ณMoney20/20 Asia เพื่อร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และเป้าหมายอันก้าวหน้าสู่การป้องกันกลโกงโลกออนไลน์ต่างๆที่มีอย่างมากมายณปัจจุบัน
“แม้ว่าเราจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับกลโกงบนโลกออนไลน์มานานกว่า 15 ปีในแต่ละวันเราเผยให้เห็นถึงศักยภาพของความไว้วางใจที่ถือว่าคือองค์ประกอบสำคัญเราใช้เวลาอย่างยาวนานเพื่อตั้งมั่นว่าพันธกิจของเรานั้นสามารถไปไกลกว่าแค่การป้องกันการฉ้อโกงเท่านั้นสำหรับองค์กรที่ทำธุรกิจระหว่างคู่ค้าธุรกิจด้วยกันเองเราทำหน้าที่เป็นผู้ผลักดันในการรวมผู้นำอุตสาหกรรมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะร่วมกันต่อสู้กับการฉ้อโกงต่างๆซึ่งเป็นที่มาของการประชุมTrust Summit ครั้งนี้”คุณJustin Lie กล่าว
จากความสำเร็จของงานมหกรรมทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดครั้งแรกนี้ที่กรุงเทพฯของMoney20/20 จะมีการกลับมาจัดงานสุดยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอยอีกครั้งในเดือนเมษายนปีหน้าณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานMoney 20/20 Asia 2025 สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนใครได้ที่https://asia.money2020.com/#asia-2025-register-your-interest