ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ที่ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกัน เผยการผสานรวมนวัตกรรมสำคัญของ FortiAI ไว้ในแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric เพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่และที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมช่วยให้ดำเนินงานด้านเครือข่ายและความปลอดภัยได้ง่ายขึ้นและเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น และช่วยให้พนักงานใช้บริการ AI ได้อย่างปลอดภัย
“จุดแข็งด้าน AI ของฟอร์ติเน็ตมีรากฐานมาจากระบบนิเวศ AI ทั้งในแง่ความหลากหลายและในเชิงลึก โดยพัฒนาจากนวัตกรรมด้าน AI มายาวนานกว่าทศวรรษ และมีจำนวนสิทธิบัตรมากกว่าผู้ให้บริการด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายอื่นๆ” ไมเคิล เซีย ผู้ก่อตั้ง ประธานและประธานบริหารฝ่ายเทคโนโลยีฟอร์ติเน็ต กล่าว “การผสานรวม FortiAI เข้ากับแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric พร้อมเสริมความสามารถใหม่ด้าน Agentic AI จึงช่วยลูกค้าลดภาระของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและเครือข่าย ขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ความเร็ว และความแม่นยำในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและเครือข่ายอีกด้วย นอกจากนี้ฟอร์ติเน็ตยังขยายความสามารถครอบคลุมทั่วระบบนิเวศโครงข่าย Fabric เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้บริการ GenAI ภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ความจำเป็นในการนำ AI มาช่วยปกป้องและรักษาความปลอดภัยให้ระบบ AI
“องค์กรต่างๆ ต้องนำโซลูชันรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาช่วยป้องกันภัยคุกคามที่ใช้วิธีการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะภัยคุกคามที่นำความสามารถของ AI มาใช้ในการหลบหลีกระบบป้องกัน และใช้โจมตีในแบบอัตโนมัติ รวมถึงใช้หาช่องโหว่ต่างๆ อีกทั้งต้องคอยปกป้องระบบ AI ของตนเองให้ปลอดภัยจากการโจมตีด้วยวิธีการบิดเบือนข้อมูล (Data Poisoning) การเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้ระบบทำงานผิดพลาด (Adversarial Manipulation) และการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต หากองค์กรไม่มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง ก็อาจทำให้ AI ตกเป็นเป้าหมายและถูกอาชญากรไซเบอร์ใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีได้ ซึ่งฟอร์ติเน็ตมีโซลูชันที่ช่วยรับมือกับการโจมตีได้อย่างครอบคลุม ด้วยสิทธิบัตรด้าน AI กว่า 500 รายการทั้งที่ผ่านการอนุมัติแล้วและที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อีกทั้งมีประสบการณ์มากกว่า 15ปี ในการพัฒนานวัตกรรม AI เพื่อนำเสนอโซลูชันรักษาความปลอดภัยโดยใช้ศักยภาพของ AI มาช่วยหยุดภัยคุกคามขั้นสูง พร้อมให้ความเชื่อมั่นได้ว่าระบบ AI องค์กรจะยังได้รับการปกป้องและเชื่อถือได้
นวัตกรรมด้าน AI จากฟอร์ติเน็ต
ปัจจุบัน FortiAI ได้ขยายขอบเขตเพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน AI จากฟอร์ติเน็ต ทั้งการรักษาความปลอดภัยและการดำเนินงานเครือข่าย การปกป้องสภาพแวดล้อม และรักษาความปลอดภัยของโมเดล AI และ LLM ซึ่งเมื่อผสานการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric ก็จะยิ่งให้ศักยภาพด้านความฉลาดและการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามขั้นสูง เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และช่วยให้ใช้งาน AI ได้อย่างปลอดภัย
การขยายศักยภาพของ FortiAI ให้ความสามารถใหม่ในสองประเด็นหลัก
FortiAI-Assist ที่ผสานการทำงานร่วมกับ GenAI Agentic AI และ AIOps (Artificial Intelligence for IT Operations) ช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและเครือข่าย ด้วยระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะ โดยให้ความสามารถใหม่ได้แก่
- แอปพลิเคชัน Agentic AI เพื่อการดำเนินงานด้านเครือข่าย
o ช่วยบริหารจัดการเครือข่ายแบบอัตโนมัติผ่านผู้ช่วย GenAI ช่วยให้สามารถสร้างการตั้งค่าเครือข่ายและปรับปรุงนโยบายความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น ตรวจสอบความถูกต้องของการตั้งค่าในปัจจุบันพร้อมดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม รวมถึงวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเครือข่ายได้โดยไม่ต้องใช้คนจัดการ
o เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและการแก้ไขปัญหาได้โดยอัตโนมัติด้วย GenAI และ AIOps ที่ช่วยยกระดับการดำเนินงานของเครือข่ายทั้งแบบมีสาย และไร้สาย รวมถึง SD-WAN อีกทั้งสามารถระบุถึงปัญหาพร้อมเสนอแนวทางแก้ไขได้ในเชิงรุกก่อนที่ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ
- แอปพลิเคชัน Agentic AI เพื่อการดำเนินงานด้านความปลอดภัย
o ให้ระบบอัตโนมัติเพื่อคัดกรองการแจ้งเตือน โดยจะจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนตามความเสี่ยง บริบท และแพทเทิร์นในอดีตที่ผ่านมา พร้อมทั้งระงับการแจ้งเตือนที่ซ้ำซ้อน และติดธง (Flag) การแจ้งเตือนเฉพาะภัยคุกคามที่มีความน่าเชื่อถือสูงเพื่อส่งไปยังระบบหรือส่งตรงถึงนักวิเคราะห์ภัยคุกคาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละองค์กร
o มีระบบไล่ล่าภัยคุกคามที่ปรับการทำงานได้เอง โดยจะสแกนบันทึกเหตุการณ์ที่เก็บไว้ (Logs) รวมถึงทราฟฟิกบนเครือข่าย และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อตรวจหาภัยคุกคามได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากคนดูแล
o วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ด้วย AI เพื่อระบุจุดเริ่มต้น วิธีการ และผลกระทบของการโจมตี
o เสริมความฉลาดด้านข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลด้านความปลอดภัย โดยเชื่อมโยงรูปแบบการโจมตีและวิเคราะห์กลยุทธ์การโจมตี เพื่อยกระดับการป้องกันเชิงรุก
FortiAI-Protect ช่วยยกระดับความปลอดภัยให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ด้วยระบบตรวจจับภัยคุกคามที่ใช้ AI ทำให้สามารถระบุภัยคุกคามขั้นสูงและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการประเมินความเสี่ยงตามบริบทแวดล้อม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัย และควบคุมการเข้าถึงการใช้งานแอปพลิเคชัน GenAI ของบุคคลที่สาม การพัฒนาความสามารถเหล่านี้ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับ FortiGuard AI-Powered Security Services ทั้งสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน โดยความสามารถใหม่ที่เพิ่มขึ้นได้แก่
- การตรวจจับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI สำหรับ URL กว่า 6,500 URLs รวมถึงแอปพลิเคชัน GenAI โดยทีมรักษาความปลอดภัยยังจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งาน โมเดลที่ใช้ในการฝึกฝน และตำแหน่งที่ข้อมูลถูกส่งไป
- ควบคุมการเข้าถึงและเนื้อหาของ GenAI โดยใช้หลักการ Zero Trust ที่ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถบล็อกการใช้งาน AI ที่ไม่ได้รับอนุญาต (Shadow AI) หรือแอปพลิเคชัน AI ที่มีความเสี่ยงสูงได้ นอกจากนี้ การที่สามารถมองเห็นรายชื่อแอปพลิเคชัน AI พร้อมข้อมูลแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และโมเดลที่ใช้ในการฝึกฝน ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดนโยบายการใช้งาน AI ระดับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ยกระดับการวิเคราะห์ภัยคุกคามและการป้องกันมัลแวร์ ด้วยการขยายขีดความสามารถของแมชชีน เลิร์นนิ่ง และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยในการตรวจจับและยับยั้งภัยคุกคามจากมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับปรุงความแม่นยำในการวิเคราะห์โดยเชื่อมโยงข้อมูลแวดล้อมกับตัวบ่งชี้ภัยคุกคามที่รู้จักอยู่แล้ว เพื่อช่วยลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด ทำให้สามารถระบุภัยคุกคามได้อย่างแม่นยำ โดยที่ไม่กระทบประสิทธิภาพการดำเนินงาน
- ปรับปรุงมาตรการป้องกันภัยคุกคามที่ซับซ้อน โดยมีการฝึกฝนโมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งให้ระบบป้องกันการบุกรุก (IPS) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตรวจจับและรับมือกับเทคนิคการโจมตีรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟอร์ติเน็ตช่วยองค์กรปกป้องโมเดล AI รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน และข้อมูล
องค์กรต่างๆ สามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างปลอดภัยด้วย FortiAI-SecureAI โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ครอบคลุมของแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานรักษา AI จากภัยคุกคามบนเครือข่าย เสริมความปลอดภัยให้เว็บแอปพลิเคชัน และ API ตลอดจนปกป้องเวิร์กโหลด AI บนคลาวด์ของผู้ให้บริการหลักต่างๆ ซึ่ง FortiAI-SecureAI ช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลมีความถูกต้องสมบูรณ์ ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลจาก LLM (Large Language Model) ปกป้องโมเดล AI และทรัพย์สินทางปัญญา บังคับใช้นโยบาย Zero-Trust ในการเข้าถึง อีกทั้งยังสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อการโจมตีได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เนิ่น ๆ
FortiAI ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสำหรับองค์กร
FortiAI ใช้แนวทางการปกป้องข้อมูลหลายชั้นเพื่อบังคับใช้นโยบายควบคุมความเป็นส่วนตัวอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่แชร์กับผู้ช่วย GenAI ของฟอร์ติเน็ตถูกนำไปใช้ในการฝึกฝนโมเดล LLM โดยข้อมูลคำขอต่างๆ จะถูกประมวลผลภายในองค์กร ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกส่งออกนอกเครือข่าย ขณะที่ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนจะถูกบล็อกหรือซ่อนไว้ก่อนที่จะส่งไปถึงโมเดลภาษา
FortiAI-Assist, FortiAI-Protect และ FortiAI-SecureAI ทำให้ฟอร์ติเน็ตยังคงความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ ยืนหยัดอยู่เหนือภัยคุกคามที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ FortiAI และ นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของฟอร์ติเน็ต
- อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fortinet Security Fabric
- เยี่ยมชมเว็บไซต์ fortinet.com/trust เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมของฟอร์ติเน็ต การทำงานร่วมกับพันธมิตร กระบวนการความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ระดับองค์กร
- อ่านเกี่ยวกับวิธีการที่ลูกค้าฟอร์ติเน็ตใช้ในการรักษาความปลอดภัยในองค์กร
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของฟอร์ติเนตในด้านความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ รวมถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างรับผิดชอบและนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ของระบบ
- ติดตามข่าวสารต่างๆ ของฟอร์ติเน็ตได้ที่ Twitter LinkedIn Facebook และ Instagram หรือสมัครเพื่อรับข้อมูลของของฟอร์ติเน็ตผ่านทาง blog หรือ YouTube