รีวิว Infinix ZERO 30 5G จอสวย กล้องเทพ ในเรทไม่ถึงหมื่นบาท

Infinix ZERO 30 5G ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับ Flagship ที่ราคาถูกมากๆ เห็นช่วงนี้ชอบจัดโปรโมรชั่นเหลือไม่ถึงหมื่นบาทแล้ว โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือกล้องถ่ายภาพครับ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และเอาใจสายถ่ายคอนเท็นกับกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ด้วยเหมาะสำหรับการทำคอนเท็นแนว VLOG มากๆครับ

SPEC Infinix ZERO 30 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 144Hz
  • รองรับ 5G (SA / NSA)
  • ชิปประมวลผล CPU Dimensity 8020
  • GPU Mali-G77 MC9
  • RAM 12GB
  • ROM UFS3.0 ขนาด 256GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 14
  • กล้องหน้า ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ Triple Camera ความละเอียด 108+13+2 ล้านพิกเซล
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียง DTS
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/6
  • NFC / BT 5.2
  • ระบบกันน้ำกันฝุ่นละอองมาตราฐาน IP53
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 68W
  • ราคาเปิดตัว 11,990 บาท วางจำหน่าย 2 สี สีทอง Golden Hour และสีเขียว Rome Green

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

  1. ตัวเครื่อง Infinix ZERO 30 5G พร้อมติดฟิมล์มาให้เรียบร้อย
  2. Adapter 68W
  3. สาย USB-C
  4. เคสซิลิโคนใส
  5. เข็มจิ้มถาดซิม
  6. คู่มือการใช้งาน

จอภาพ สวยคมชัด

Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Punch Hole ที่เจาะรูซ่อนกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซลไว้ด้านใน ขอบจอแบบโค้งขนาด 6.78 นิ้ว พาแนลจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 144Hz และอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz กระจกครอบทับแบบ Gorilla Glass 5 ที่ช่วยลดรอยขีดข่วนได้ดี, หน้าจอรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้จอ

หน้าจอรองรับการแสดงผลแบบ 10bit หรือมากกว่า 1 พันล้านสีนั้นเอง ขอบเขตช่วงกว้างของสีที่ DCI-P3 100% และค่าความสว่างสูงสุด 950nits ถือว่าเป็นหน้าจอระดับเรือธงเลยครับ แสดงผลได้คมชัด สีสันสวยงาม พร้อมมีโหมดถนอมสายตามาให้มีอัตราการกะพริบหน้าจอ 2160 PWM Dimming

เต็มอิ่มทั้งภาพและเสียงกับลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง DTS ช่วยเพิ่มอรรรถในการเสพคอนเท็น เสียงดังและชัดเจนดีครับ มิติเสียงถือว่าดีมากเลยกับเรทราคานี้

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

ทั้งหน้าจอและฝาหลังมีความโค้งแบบ 3D สีที่ผมรีวิวคือสีเขียว Rome Green ที่ตรงด้านหลังผิวสัมผัสจะคล้ายหนัง ดูหรูหราพรีเมี่ยมดี ตัดกับชุดครอบเลนส์ที่เป็นสีทองยิ่งเพิ่มความหรูมากขึ้น

กรอบด้านข้างและตัวครอบโมดูลกล้องสีทองอ่อนๆตัดกับฝาหลังสีเขียวดูสวยงามดีครับ ขนาดตัวเครื่อง 164.5 × 75 × 7.9 มม. น้ำหนัก 185 กรัม

ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของถาดซิม / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB-C และลำโพงหลัก

ระบบปฏิบัติการ

Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 14 รองรับการใช้งานแอพคู่ มีโหมดเด็กและการใช้งานง่ายมาให้เช่นกัน

ประสิทธิภาพการทำงาน

Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผล CPU Dimensity 8020 / GPU Mali-G77 MC9 ถือว่าเป็นชิปประมวลผลใหม่ที่มีความแรงระดับต้นๆของทางค่าย เล่นเกมได้ไหลลื่นดีครับ แต่อาจมีร้อนสะสมนิดหน่อยเวลาเล่นเกมเป็นเวลานาน

ตัวเครื่องรองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA

หน่วยความจำ

  • RAM 12GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Expandable เพิ่มได้อีก 9GB (12+9GB)
  • ROM UFS3.0 ขนาด 256GB

ทดสอบเล่นเกมถือว่าไหลลื่นดี พร้อมีฟังก์ชั่นโหมดเกมเข้ามาช่วยจัดการการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกมให้

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.5 รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K 60FPS มีระบบจับโฟกัสที่ดวงตา หมดกังวลหน้าจอหลุดเฟรมไปได้เลย มีโหมดบิวตี้มาให้เลือกปรับใช้งาน

ตัวอย่างกล้องหน้า Infinix ZERO 30 5G ถ่ายในที่แสงน้อย

กล้องหลัง 3 เลนส์ Triple Camera แบ่งการทำงานได้ดังนี้

  • เลนส์หลัก ความละเอียด 108 พิกเซล ค่ารูรับแสง f1.7
  • เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

โหมดการถ่ายภาพหลักๆ โหมดภาพยนต์, โหมด AI, โหมดถ่ายบุคคล, โหมดกลางคืน โหมดพาโนรามา, โหมดเปลี่ยนท้องฟ้า และโหมดมืออาชีพ ส่วนการถ่ายวิดีโอ รองรับการถ่าย 4K60fps

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด AUTO

ระยะซูม 3x โหมด AUTO , ซูมระยะ 3x ภาพยังสวยคมชัดและสีสันสวยงามเหมือนเดิม ถือว่าทำได้ดีมากๆ

รวมภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Infinix ZERO 30 5G

ทดสอบพลัง HDR ถ่ายย้อนแสง 100%

ภาพถ่ายโหมดกลางคืน

แบตเตอรี่

Infinix ZERO 30 5G ติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ใช้งานมากถึง 5000mAh และรองรับชาร์จเร็ว 68W ภายในกล่องแถมที่ชาร์จมาให้พร้อมใช้งานไม่ต้องซื้อเพิ่ม จากที่ทดลองเอาออกไปถ่ายรูปทั้งวัน ช่วงว่างๆนั่งเล่นเกม แบตสามารถใช้งานได้เช้าถึงเย็นสบายๆครับ ถือว่าจัดการพลังงานได้ดีใช้ได้

สรุป

รอบนี้ถือว่าทาง Infinix ทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งสเปคและราคาคือไม่มีอะไรจะบ่นให้แล้ว สเปคดีและใช้งานได้จริงอย่างที่ควรจะเป็น จอสวย กล้องชัด แถมแบตเตอรี่ชาร์จเร็วอีก คุ้มจริงตัวนี้ต้องยอมเขา

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *