รีวิว MSI Prestige 14 AI Studio ตัวเล็กสเปคแรง Intel Core Ultra 7 + RTX 4050

MSI Prestige 14 AI Studio โน๊ตบุ๊คสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ระดับกลางๆไปจนถึงระดับมืออาชีพ ดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบหรูแต่อัดสเปคมาแบบแน่นๆ หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.8K ที่ให้ค่าสีที่เที่ยงตรงมากๆช่วงสี (Color Gamut) 100% DCI-P3 น่าจะเหมาะกับสายตัดต่อวิดีโอเป็นหลัก ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core Ultra 7 processor 155H ที่รองรับการรัน AI ได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับการ์ดจอแยก RTX4050 ที่รองรับ NVIDIA Studio ตอบโจทน์สายงานตัดต่อได้แบบมืออาชีพ ตัวเครื่องผ่านการทดสอบและได้รับรองมาตราฐาน Intel EVO Edition มาด้วย มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าได้สินค้าคุณภาพแน่นอน ตัวเครื่องติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home พร้อมโปรแกรม Microsoft office home & student 2021 มาให้พร้อมใช้งานกับค่าตัวอยู่ที่ 49,990 บาท รับประกัน 2ปี (1 Year Global Warranty + 1 Year Thailand Warranty)

SPEC  MSI Prestige 14 AI Studio C1VEG-052TH

  • CPU : Intel® Core™ Ultra 7 processor 155H with Intel® AI Boost (NPU) 16 cores (6 P-cores + 8 E-cores + 2 Low Power E-cores), Max Turbo Frequency 4.8 GHz
  • Integrated Graphics : Intel Arc graphics + NVIDIA GeForce RTX 4050 Laptop GPU
  • RAM : 32GB DDR5 Bus 5600MHz
  • STORAGE : SSD M.2 PCIe NVMe Gen 4 1TB
  • หน้าจอแสดงผล 14″ 2.8K (2880 x 1800), IPS-Level, 100% DCI-P3
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
  • Microsoft Office Home & Student 2021
  • WebCam IR FHD, 3D Noise Reduction
  • Wi-Fi 7 BE1750, Bluetooth v5.4
  •  Thunderbolt 4
  • ตัวเครื่องผ่านการทดสอบมาตราฐาน MIL-STD-810H/G
  • แบตเตอรี่ 4-Cell 90 Whrs, ADAPTER 140W
  • ราคา 49,990 บาท รับประกัน 2ปี (1 Year Global Warranty + 1 Year Thailand Warranty)

วัสดุและการออกแบบ

MSI Prestige 14 AI Studio มากับตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว แต่อาจจะมีส่วนที่ยื่นออกมานอกเหนือจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปนะครับ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับการ์ดจอแยกนั้นเองจำเป็นจะต้องติดตั้งชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่มาให้ พร้อมขนาดแบตเตอรี่มากถึง 90 Whrs สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นนั้นเอง

ฝาหลังและตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมมีความโค้งมนตรงขอบสันนิดหน่อย เคลือบผิวมาให้รู้สึกสากๆมือหน่อยแต่ดีตรงช่วยลดการเกาะของลายนิ้วมือ สีที่ผมรีวิวคือสี Stellar Gray จะมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 313.4 x 246.5 x 18.95 มม. น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม ถือว่าพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้สบายๆ ไม่หนักจนเกินไป

บานพันเป็นโลหะเช่นกันแข็งแรงทนทานแน่นอน สามารถกางใช้งานแบบ 180 องศา พร้อมกับฟังก์ชั่น Flip&Share กับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยปุ่มเดียว (F12) ตัวเครื่องผ่านการทดสอบการตกกระแทก การกดทับ มาตราฐาน MIL-STD-810H/G ของกองทัพสหรัฐ

ตรงส่วนที่ยื่นออกมาจะเป็นตำแหน่งของช่องระบายลมร้อนของพัดลมนะครับ ด้านในจะติดตั้งชุดระบายความร้อนแบบ MSI Cooler Boost 3 โดยจะมีพัดลม 2 ตัวพร้อมไปร์ 4 เส้น ช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี

ด้านหลังตัวเครื่องจะถูกเจาะรูไว้ กินพื้นที่เยอะพอสมควรพอๆกับฝั่งเกมมิ่ง เพื่อช่วยดูดลมเบ็นเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หน้าจอแสดงผลขนาด 14 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 16:10 แบบ GOLDEN RATIO หรือกฎสามส่วนนั้นเอง พาแนลจอแบบ IPS ความละเอียด 2.8K 2880 x 1800 พิกเซล แสดงผลได้คมชัดสีสันสวยงาม ขอบเขตสี 100% DCI-P3

ด้านบนขอบจอจะมีกล้อง WEBCAM แบบ IR ความละเอียด FHD มาให้พร้อมฟังก์ชั่น Privacy shutter รองรับการสแกนใบหน้า(IR) เพื่อใช้งานร่วมกับ Windows Hello ตัวกล้องมีระบบ AI เพื่อจดจำใบหน้าของเจ้าของเครื่องได้ป้องกันคนมาแอบใช้หรือแอบดู(ฟีเจอร์ Tobii Aware) ไมค์ด้านข้างจะมีระบบ AI Noise Cancellation Pro ช่วยวิเคราะห์เสียงรอบข้างและจำแนกเสียงสนทนาให้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

ไมค์โครโฟนจะมีทั้งตรงส่วนข้างๆกล้องเว็บแคมและตรงส่วนของบาร์รองมือฝั่งขวา เสียงสนทนาชัดเจนแน่นอนครับ

คีบอร์ดและทัชแพด

MSI Prestige 14 AI Studio มาพร้อมกับปุ่มคีบอร์ดมาตราฐาน ระยะยุบตัวที่ 1.7มม. ฟิลลิ่งสำหรับการกดจะคล้ายๆกับฝั่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คนะครับ ตรงส่วนปุ่ม power จะติดตั้ง Fingerprint sensor มาให้ใช้งาน และมีไฟ LED สีขาวปรับระดับได้ 3 ระดับ / ปุ่ม HotKey จะมีมาให้ใช้งานครบครันทุกฟังก์ชั่นตั้งแต่ F1-F12 และขาดไม่ได้กับโน๊ตบุีคยุค AI นั้นคือปุ่ม copilot ก็มีมาให้ ส่วนของทัชแพดมีพื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานแบบมัลติทัช

พอร์ตการเชื่อมต่อ

  • ฝั่งซ้ายจะมี พอร์ด HDMI 2.1 (8K@60Hz), RJ45, USB 3.2 Gen 2 Type-A และช่องหูฟัง 3.5มม. (Audio combo jack)
  • ฝั่งขวาจะมี Thunderbolt 4 และ USB 3.2 Gen2 Type-C/DP(w/ PD 3.0 charging)

ประสิทธิภาพการทำงาน

MSI Prestige 14 AI Studio C1VEG มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 7 155H ทำงานแบบ 16 cores, 22 Threads ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz พร้อมฟีเจอร์ AI-powered Intel Core Ultra ตอบโจทน์การทำงานแบบมัลติทาร์กได้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งชิป Trusted Platform Module (TPM) เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยมาให้ด้วย

สำหรับ Intel Core Ultra จะมาพร้อมกับชิป NPU เพื่อประมวลผลด้าน AI ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รองรับการใช้งานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot ได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องผ่านการทดสอบจนได้มาตราฐาน Intel Evo มาด้วยนะครับ มั่นใจได้เลยว่าได้ของดีแน่นอน

การ์ดจอออนบอร์ด Intel Arc และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4050 Laptop GPU powers advanced AI with 194 AI TOPS รองรับ NVIDIA Studio ช่วยเพิ่มการทำงานหรือประมวลผล AI ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับซีพียูและการ์ดจอแยกที่ให้มารองรับการทำงานตัดต่อได้รวดเร็วขึ้น และยังสามารถเล่นเกมได้ในระดับหนึ่งเลยนะครับเผื่อเวลาว่างๆอยากลงสนาม ตัวนี้ก็เอาอยู่ เล่นได้ไหลลื่นเมื่อปรับเกมไว้ที่ความละเอียด FHD นะครับ เกินนั้นไม่แนะนำนะ

หน่วยความจำ

  • RAM : 32GB DDR5 Bus 5600MHz
  • STORAGE : SSD M.2 PCIe NVMe Gen 4 1TB

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานผ่านโปรแกรมจะออกมาได้ดังนี้

แบตเตอรี่ 4-Cell 90Whr สามารถใช้งานได้นานเกิน 12 ชม. สบายๆครับ จากการทดสอบผ่านโปรแกรม เปิดความสว่างหน้าจอระดับ 30% เปิดยูทูปไว้จะสามารถใช้งานได้ราวๆ 14 ชม. นะครับ

Adapter 140W มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่ายครับ และตัวเครื่องรองรับชาร์จผ่าน PD ได้ด้วยนะเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อออกไปทำงานข้างนอกเป้นเวลานานๆ

ตัวเครื่องติดตั้ง Windows 11 Home และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน และจะมี MSI Center มาให้เพื่อตรวจสอบการใช้งานของตัวเครื่องและตั้งค่าการใช้งานต่างๆ

สรุป

สำหรับท่านที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คไว้ทำงานตัดต่อวิดีโอและใช้งาน AI กับโปรแกรมต่างๆ เน้นขนาดเล็กพกพาง่ายแต่อยากได้ประสิทธิภาพสูงๆ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ครับ สเปคที่ให้มาพอเพียงกับการทำงานระดับกลางถึงระดับมืออาชีพได้สบายๆ ตัวเครื่องมีขนาดเล็กสามารถพกพาออกไปทำงานข้างนอกได้สบายๆ ตัวเครื่องผ่านการทดสอบผ่านมาตราฐาน Intel EVO Edition มาด้วย มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าได้สินค้าคุณภาพแน่นอน

Loading