Redmi Pad Pro แท็บเล็ตจอใหญ่ ดูเต็มตา มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.1″ ความละเอียด 2.5K 2560 x 1600 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 ที่แสดงผลได้คม สำหรับการชมคอนเท็นต่างๆหน้าจอยังรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ช่วยให้ภาพดูมีมิติ สวยงามเป็นธรรมชาติ เต็มอิ่มด้านความบันเทิงกับลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
นอกจากเรื่องความบันเทิง ตัวเครื่องมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 2 ทำงานได้ไหลลื่น ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อกับคีบอร์ดไร้สายและปากกาเพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับชาร์จไว 33W กับค่าตัวเริ่มต้นเบาๆเพียง 8,990 บาท
ราคาวางจำหน่ายแบ่งออกตามหน่วยความจำดังนี้
- Redmi Pad Pro รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท
- Redmi Pad Pro รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท
SPEC Redmi Pad Pro
- หน้าจอแสดงผล ขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2.5K 2560 x 1600 พิกเซล 249ppi, อัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราส่วน 16:10, ความลึกของสี 12Bit, รองรับ Dolby Vision
- ชิปประมวล CPU Snapdragon 7s Gen 2
- GPU Adreno 710
- RAM LPDDR4x ขนาด 6-8GB
- ROM UFS2.2 ขนาด 128-256GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1.5TB
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS
- กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2
- กล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.0
- ลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ Hi-Res Audio
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.2
- ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค
- ตัวเครื่องรองรับ Redmi Pad Pro Keyboard และปากกา Redmi Smart Pen
- ขนาดตัวเครื่อง 280 x 181.8 x 7.52 มม. น้ำหนัก 571 กรัม
- แบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับชาร์จไว 33W
เพื่อการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพแนะนำให้หาอุปกรณ์เสริมของ Redmi Pad Pro รวมไปถึงสมาร์ตโฟนของ Redmi มาใช้งานร่วมกันนะครับ จบครบทั้งเรื่องความบันเทิงและเรื่องงานแน่นอน
อุปกรณ์เสริมจะมีดังนี้
- Redmi Pad Pro Keyboard มูลค่า 1,999 บาท
- Redmi Pad Pro Cover มูลค่า 1,199 บาท
- Redmi Smart Pen
ราคาจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแนะนำสอบถามหน้าร้านอีกที เพราะสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกๆเขาจะแจกนะครับ
สำหรับ Redmi Pad Pro Keyboard สามารถเชื่อมต่อการใช้งานไร้สายแบบ Bluetooth นะครับ เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานของปุ่มคีบอร์ดได้อย่างละเอียด แต่โดยส่วนตัวแป้นภาษาไทยให้ลงของเกษมณีนะครับ เวลาเปลี่ยนภาษาจะเปลี่ยนได้ปกติ สำหรับฟิลลิ่งในการพิมพ์ใช้งาน ฟิลคล้ายๆกับโน๊ตบุ๊คระดับเริ่มต้นได้เลย ระยะห่างของปุ่มกำลังดีไม่ชิดกันเกินไป
แผงคีบอร์ดสามารถเปิด-ปิด การใช้งาน และตัดการใช้งานอัตโนมัติเมื่อพับใช้งานหน้าจอ ปุ่มไม่ลั่นแน่นอนครับ สามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-X
ทั้ง Redmi Pad Pro Keyboard และ Redmi Pad Pro Cover วัสดุคล้ายหนังวีแกน มีความนุ่มมือเมื่อสัมผัส มีช่องเก็บปากกา สามารถถิดเก็บได้
ตัวเครื่องรองรับการขีด-เขียน ผ่านปากกา Redmi Smart Pen และมีแอพ Mi Canvas สำหรับการวาดรูปหรือจดบันทึก จากที่รองใช้งานมา สามารถขีดเขียนได้ลื่นใช้ได้ และจะบอกว่าดีมากๆในเรทระดับราคาไม่ถึงหมื่นบาทครับ แบตเตอรี่ของปากกาสามารถใช้งานได้ราวๆ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของแต่ละคน สามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C
นอกจากการใช้งานร่วมกับ Redmi Smart Pen และ Redmi Pad Pro Keyboard แล้ว ตัวเครื่องยังสามารถเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับเม้าส์ไร้สายผ่าน BT ได้ สามารถปรับการแสดงของเคาร์เซอร์ได้ สามารรถคลิกซ้ายและปุ่ม scoll เพื่อเลื่อนแสดงผลหน้าจอได้นะครับ
วัสดุและการออกแบบ
Redmi Pad Pro มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2.5K 2560 x 1600 พิกเซล 249ppi, ค่าความสว่างสูงสุด 600nits, ความลึกของสี 12Bit หรือแสดงค่าสีมากกว่า 6.87 หมื่นล้านสี, รองรับ Dolby Vision สามารถแสดงผลได้สวยคมชัด เหมาะกับการชมคอนเท็นต่างๆ หน้าจอมาพร้อมกับโหมดถนอมสายตา การหรี่ไฟการปรับความสว่าง 4096 ระดับ ผ่านการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland กระจกหน้าจอครอบทับแบบ Corning Gorilla 3
อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz แบบ AdaptiveSync (30/48/50/60/90/120Hz), ความไวตอบสนองการสัมผัสสูงสุด 240Hz,
อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 เหมาะกับการชมคอนเท็นต่างๆ สำหรับการชม youtube และ netflix สามารถรับชมคอนเท็นแบบ Dolby Vision ภาพสวยมากๆครับ สีดำคือดำสนิทมิติของภาพสวยจริง, ขอบหน้าจอมีความบางมากๆทั้งสี่ด้าน ช่วยให้มีสัดส่วนพื้นที่หน้าจอสูงถึง 83.6% และช่วยให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง
เหนือขอบหน้าจอแสดงผลจะมีเซ็นเซอร์วัดแสง และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้ กล้องหน้าสามารถใช้งานสำหรับการปลดล็อคหน้าจอ, โหมดถ่ายวิดีโอหรือเอาไว้เป็นเว็บแคม สามารถถ่ายที่ความละเอียด FHD ได้ และจะมีฟังก์ชั่นบอร์ดสคริปมาให้สำหรับการอ่านหรือเอาไว้เป็นไกค์ในการพรีเซ็นส์งานต่อไป
เต็มอิ่มด้านความบันเทิงกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos เสียงจากลำโพงถือว่าดีเลยครับ มิติเสียงดีแยกซ้ายขวาแบบชัดเจน มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. รองรับเสียง Hi-Res Audio
บอร์ดี้ฝาหลังวัสดุโลหะแบบ Unibody ขึ้นรูปชิ้นเดียว ผิวสัมผัสดีแทบไม่มีคราบนิ้วมือเกาะติด ตัวเครื่องมีความบางเป็นพิเศษ บางเพียง 7.52 มม. และเบาเพียง 571 กรัม โดยรุ่นนี้จะวางจำหน่ายสองสีคือ Graphite Gray และ Ocean Blue
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Pad Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS ทำงานได้ราบลื่นการแจ้งเตือนถือว่าดีมาก รองรับการใช้งานแอ็พคู่ มีโหมดสำหรับเด็กมาให้
สำหรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟนในเคลือเดียวกัน ง่ายมากๆครับ เพียงแค่ล็อคอินบัญชี xiaomi และเปิด BT หรือ WLAN ก็พร้อมเชื่อมต่อการใช้งานได้แล้ว สามารถย้ายถาพไปที่คลิปบอร์ดได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น , ซิ้งค์หน้าจอสมาร์ตโฟนไปใช้งานบนแท็ตเล็ตได้อิสระ, ทำคลิปบอร์ดร่วมกับหน้าจอสมาร์ตโฟนได้ ถือว่าใช้งานได้จริงและสะดวกมาก
การแสดงผลหน้าจอ สามารถแบ่งการแสดงผลได้สองหน้าจออิสระ หรือจะให้เป็นโหมดป๊อบอัพ วิธีใช้งานง่ายๆครับ ตรงกลางหน้าจอด้านบนจะมีจุดไข่ปลาสามจุดให้เราเลือกโหมดการแสดงผล
ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Pad Pro เลือกใช้ชิปประมวล CPU Snapdragon 7s Gen 2 / GPU Adreno 710 ถือว่าเป็นชิปประมวลผลระดับกลางนะครับ พอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป รองรับการใช้งานมัลติทาร์กได้ สามารถเปิดแอพพร้อมกันได้หลายแอ๊พโดยที่เครื่องยังทำงานลื่นไหลอยู่
หน่วยความจำ
- RAM LPDDR4x ขนาด 6-8GB
- ROM UFS2.2 ขนาด 128-256GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1.5TB
แบตเตอรี่ขนาด 10,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวันสบายๆ (ทางผู้ผลิตเคลมไว้ว่าสามารถเปิดเครื่องสแตนบายได้เป็นเดือน หรือดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 12 ชม.) รองรับชาร์จไว 33W ภายในกล่องแถมที่ชาร์จไวมาให้พร้อมใช้งาน
สรุป
สำหรับ Redmi Pad Pro เหมาะกับการใช้งานด้านความบันเทิง ดูหนังฟังเพลง หน้าจอขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.5K แสดงผลได้คมชัดสวยงาม รองรับการแสดงผลทั้งแบบ Dolby Vision ช่วยให้การชมคอนเท็นดูสวยงามยิ่งขึ้น มีโหมดถนอมสายตามาให้เผื่อจะซื้อให้ลูกๆไว้ใช้งาน, ลำโพงสี่ตัวมิติเสียงดีมากๆครับ แค่จอและเสียงก็ถือว่าคุ้มแล้วกับราคาเริ่มต้นเพียง 8,990 บาท แต่ถ้าอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพแนะนำให้หาชุดคีบอร์ดและปากกกามาใช้งานร่วมกันนะครับ จะใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่นที่มีอยู่ จบครบทั้งเรื่องความบันเทิงและเรื่องงาน