หัวเว่ยผนึกกำลังพาร์ทเนอร์เร่งเครื่องความอัจฉริยะในระดับอุตสาหกรรมต่อยอดความสำเร็จร่วมกันในตลาดประเทศไทย

กรุงเทพฯ 2พฤษภาคม พ.ศ.2567–หัวเว่ยจัดงานประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ “ไทยแลนด์พาร์ทเนอร์ซัมมิต2024” ภายใต้ธีม“ความร่วมมือเพื่อยุคแห่งการแบ่งปัน(Joining Hands for a Shared Era)”ตอกย้ำความเชื่อมั่นของเหล่าพาร์ทเนอร์ในการจับมือไปพร้อมกันในประเทศไทยพร้อมประกาศเร่งเครื่องตลาดHUAWEI eKitและกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรมสร้างแรงจูงใจให้พาร์ทเนอร์เร่งความอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรมดึงเทคโนโลยีองค์กรขั้นสูงเสิร์ฟตลาดองค์กรในทุกระดับ

นายแชนด์เฉินผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและการจัดการพาร์ทเนอร์เอ็นเตอร์ไพรซ์หัวเว่ยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกล่าวว่า “ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์อิงค์ระบุว่าปริมาณยอดการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น6.8% และคาดว่ายอดการใช้จ่ายด้านไอทีในประเทศไทยจะมีมูลค่าทะลุ1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรกโดยจะมาจากกลุ่มธุรกิจบริการด้านไอทีซึ่งลงทุนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานในองค์กรขณะเดียวกันหัวเว่ยยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่มีความยั่งยืนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสำหรับการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรมดิจิทัลโดยปัจจุบันหัวเว่ยมีพาร์ทเนอร์ที่อยู่ในตลาดระดับองค์กรทั่วโลกกว่า40,000 รายสำหรับในไทยบริษัทยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพาร์ทเนอร์สำคัญในอุตสาหกรรมไอซีทีทั้ง “วีเอสทีอีซีเอส”และ “ซินเน็ค”ซึ่งช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับธุรกิจต่างๆในประเทศไทยทั้งนี้หัวเว่ยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและล้ำหน้าในด้านการสื่อสารข้อมูลออพติคัลพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและเทคโนโลยีคลาวด์ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสําเร็จทางธุรกิจและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและยุคอัจฉริยะโดยหัวเว่ยจะยังคงทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อเร่งขับเคลื่อนระบบอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรมและยังอํานวยความสะดวกในการพัฒนาระบบดิจิทัลและเศรษฐกิจอัจฉริยะให้กับลูกค้าในประเทศไทยอีกด้วย”

นายวิล ชิล รองประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดได้กล่าวเสริมว่า บริษัทจะเน้นในด้านการทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ในทุกระดับโดยการส่งเสริมทั้งการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงขั้นสูงเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าในการทำงานรวมถึงสนับสนุนการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกันเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับองค์กรนอกจากนี้ในปีนี้หัวเว่ยยังจะเดินหน้าตามแผนการขยายตลาดใหม่ในกลุ่มองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางขึ้นไปหลังได้มีการเปิดตัว “HUAWEI eKit” ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์โซลูชันและแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการทำตลาดในกลุ่มเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ

“HUAWEI eKitเป็นอีกหนึ่งในแพลตฟอร์มสำคัญของเราที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของพาร์ทเนอร์ในการเพิ่มโอกาสและช่องทางการนำเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งเรามีรากฐานที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้วในตลาดองค์กรขนาดใหญ่เป็นการเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เหมาะสมมาประยุกต์และทำราคาในระดับที่ธุรกิจเล็กก็เข้าถึงได้และใช้งานได้ไม่ซับซ้อนถือเป็นการช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้ดีมากขึ้นด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีที่เทียบชั้นการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ แต่จะมีราคาที่จับต้องได้และใช้งานได้ง่าย” นายชิลกล่าว

ด้านนายสมศักดิ์เพ็ชรทวีพรเดชประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวีเอสทีอีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัดผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำเปิดเผยว่าในปีนี้วีเอสทีได้เตรียมพร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและทีมงานพร้อมทั้งออฟฟิศจัดจำหน่าย 11 สาขาทั่วประเทศเพื่อรองรับธุรกิจในกลุ่มคอมเมอร์เชียลและเอ็นเตอร์ไพรส์ที่เป็นธุรกิจฐานใหญ่ของบริษัทการขยายตัวของตลาดและการเติบโตขององค์กรขนาดย่อมที่เป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ในประเทศไทย

สำหรับอุตสาหกรรมไอซีที หัวเว่ยเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับใช้งานอย่างแพร่หลายอันดับต้นๆและได้มีการทำงานร่วมกันกับบริษัทมาอย่างยาวนาน และล่าสุดบริษัทได้เข้าเป็นพาร์ทเนอร์หลักในการผลักดันตลาดดิสทริบิวชัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากในขณะนี้

“เราเป็นพาร์ทเนอร์กับหัวเว่ยมาอย่างยาวนานผ่านความท้าทายในธุรกิจมาหลายฤดูกาลกว่า 10 ปีและเราก็ยังมองเห็นสัญญาณที่ดียิ่งขึ้นในปีนี้โดยหัวเว่ยก็ยังคงให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นในด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆการพัฒนาทักษะของทีมงานรวมไปถึงแรงจูงใจในการขายต่างๆจากการเป็นพาร์ทเนอร์ในการผลักดันผลิตภัณฑ์HUAWEI eKit ทำให้เรามีเครื่องมือและสินค้าที่เหมาะกับธุรกิจรายย่อยมากขึ้น และน่าจะส่งเสริมแผนการเติบโตธุรกิจให้กับเราได้เป็นอย่างดี” นายสมศักดิ์กล่าว

ขณะที่นางสาวสุธิดามงคลสุธีประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับซินเน็คเองในปีนี้มีแผนที่จะเน้นบริหารจัดการกลุ่มสินค้าให้มีประสิทธิภาพโดยเน้นไปที่สินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลที่เติบโตต่อเนื่องรวมถึงการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นมากขึ้นซึ่ง

หัวเว่ยถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตได้เป็นอย่างดีในกลุ่มสินค้าองค์กรสำหรับซินเน็คและบริษัทก็จะยังเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยสินค้าและบริการที่ครบวงจรเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ทุกกลุ่มรวมถึงในระดับองค์กรด้วยเช่นกัน

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับหัวเว่ยและเติบโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญของเราซึ่งเทคโนโลยีที่ดีประกอบกับบริการที่ดีจะเป็นแกนหลักในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนภายใต้สโลแกนTrusted by Synnex”นางสาวสุธิดากล่าว

หัวเว่ยยึดมั่นที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางด้านดิจิทัลในประเทศไทยเป็นไปตามพันธกิจที่ว่า ‘เติบโตในประเทศไทย สนับสนุนประเทศไทย’ และ ‘นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง’โดยในอนาคตหัวเว่ยจะยังคงเดินหน้าส่งมอบโซลูชันล้ำสมัยเพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมสร้างความได้เปรียบทางด้านการแข่งขันทางธุรกิจรวมทั้งส่งเสริมการทำงานร่วมกันในระดับท้องถิ่นโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและขับเคลื่อนให้ประเทศไทยได้เดินหน้าเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งอาเซียนในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *