นายสุทธิสุโกศล (ที่ 2 จากซ้าย) ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน,นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์(ที่ 5 จากซ้าย) ปลัดกระทรวงแรงงาน และ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร (ที่ 3 จากซ้าย) อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมเปิดงานมหกรรมJob Expo Thailand 2023ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรุงเทพฯ,14มิถุนายน2566 – บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีชั้นนำ เข้าร่วมมหกรรมJob Expo Thailand 2023 ณศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพมหานครมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างบุคลากรดิจิทัลให้กับประเทศไทยงานดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงแรงงานร่วมด้วยสถานประกอบการกว่า 400 แห่งเพื่อสรรหาบุคลากรที่มากด้วยความสามารถให้เข้าสู่ตลาดแรงงาน สร้างเครือข่ายพันธมิตรและสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้ที่กำลังมองหางานทั้งตำแหน่งงานในประเทศไทยและต่างประเทศในหลากหลายภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมไอซีที
มหกรรม Job Expo Thailand 2023ยังเข้าร่วมโดยกรมการจัดหางานนำโดยนายบุญชอบสุทธมนัสวงษ์ปลัดกระทรวงแรงงานและนายไพโรจน์โชติกเสถียรอธิบดีกรมการจัดหางาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมเปิดรับสมัครบุคลากรเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานกว่า500,000 อัตรา ทั้งในหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนชั้นนำในฐานะผู้นำด้านโซลูชันโทรคมนาคมและโซลูชันดิจิทัล การเข้าร่วมมหกรรมในครั้งนี้ของหัวเว่ยจะมอบโอกาสการทำงานกว่า60 ตำแหน่งสำหรับบุคลากรผู้มีทักษะบัณฑิตใหม่และนักศึกษา และยังช่วยส่งเสริมโอกาสการจ้างงานและสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้คนไทย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมรากฐานของกลุ่มบุคลากรทักษะสูงในท้องถิ่นให้มีความแข็งแกร่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยเพื่อปูทางสู่ประเทศไทยยุคดิจิทัลในอนาคตทั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมหกรรม Job Expo มากกว่า50,000 คน
นายบุญชอบสุทธมนัสวงษ์ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวถึงงานมหกรรมครั้งนี้ว่า “มหกรรมJob Expo Thailand 2023 มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้บัณฑิตใหม่ผู้ว่างงานผู้พิการและผู้สูงอายุได้พบกับเจ้าของธุรกิจโดยตรงเป็นการเติมจิ๊กซอว์ด้านการจ้างงาน และยังจับคู่ทักษะแรงงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายของทั้งผู้ที่มองหางานและผู้ประกอบการภายในงานยังมอบความรู้ให้ประชาชนทั่วไปในเรื่องแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้านอาชีพสู่การปลดล็อคขีดความสามารถการจ้างงานของประเทศลดอัตราการว่างงานและปัญหาการขาดแคลนแรงงานเราขอขอบคุณหัวเว่ยและบริษัทชั้นนำที่เข้าร่วมงานมหกรรมนี้ช่วยสร้างโอกาสการทำงานให้แก่คนไทยตลอดจนเร่งผลักดันอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตต่อไป”
สำหรับปีนี้เป็นปีที่สองของหัวเว่ยที่เข้าร่วมมหกรรม Job Expo 2023 หลังจากที่เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2565 นอกจากตำแหน่งงานประจำในธุรกิจโทรคมนาคม หัวเว่ยยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าร่วมการฝึกงานผ่านโครงการบ่มเพาะบุคลากรของหัวเว่ย เช่นโครงการ‘Seeds for the Future’และ‘ICT Young Talents’เพื่อเตรียมความพร้อมเยาวชนไทยในการเข้าสู่ตลาดแรงงานและยกระดับทักษะไอซีทีของแรงงานไทยในปีนี้หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นสร้างรากฐานความรู้ที่แข็งแกร่งผ่านหลากหลายโครงการ อาทิโครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคม (Digital Bus) และโครงการ‘Seeds for the Future’ตลอดจนผนึกกำลังกับสถาบันการศึกษาชั้นนำรวมถึงวางแผนผลักดันโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรดิจิทัลอีกหลายโครงการ เช่น โครงการWomen in Tech โครงการ Cyber Top Talent และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปีพ.ศ.2566หัวเว่ยตั้งเป้าในการบ่มเพาะวิศวกรเพื่อสิ่งแวดล้อม10,000คนและนักพัฒนาด้านคลาวด์ของหัวเว่ย20,000 คนภายในเวลา3ปีสะท้อนพันธกิจที่หัวเว่ยมุ่งสานต่อในประเทศไทยนอกจากนี้หัวเว่ยยังเร่งเสริมแกร่งองค์ความรู้ที่จำเป็นในด้านต่าง ๆ เช่นความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เทคโนโลยีคลาวด์และAI ให้แก่บุคลากรด้านไอซีทีขององค์กรอีกด้วย
นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า“งานมหกรรมนัดพบแรงงานครั้งยิ่งใหญ่อย่างJob Expo Thailand 2023เปิดโอกาสให้องค์กรชั้นนำรวมทั้งหัวเว่ยได้เข้าถึงบุคลากรที่มีทักษะพร้อมด้วยศักยภาพในตลาดแรงงานของประเทศไทยหัวเว่ยมองหาผู้สมัครที่มีทักษะความสามารถเฉพาะด้านและมีใจรักในอุตสาหกรรมไอซีทีอย่างแท้จริงหัวเว่ยให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการรวมถึงโอกาสในการพัฒนาทักษะวิชาชีพและสร้างการเติบโตในสายอาชีพให้แก่พนักงานทุกคนซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้บุคลากรที่มีทักษะความสามารถได้พัฒนาทักษะของตนเองแล้วยังถือเป็นการต่อยอดพันธกิจ ‘เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยและร่วมสนับสนุนประเทศไทย’ ของหัวเว่ย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand)ด้วยการเปิดโอกาสให้คนไทยมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอีกด้วยหัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรใหม่ ๆ สำหรับอีโคซิสเต็มดิจิทัลผ่านความร่วมมือกับรัฐบาลพันธมิตร และสถาบันการศึกษาชั้นนำเพื่อยกระดับบุคลากรที่มีทักษะรุ่นใหม่ ซึ่งจะมาร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทยและพลิกโฉมอนาคตดิจิทัลไปพร้อมกัน”