หัวเว่ยสกมช. และ กพร. เสริมศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ คลาวด์ประเทศไทย ร่วมจับมือเปิดโครงการฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัลด้านคลาวด์ ตามกลยุทธ์ Cloud Security First

กรุงเทพฯ,5มกราคม 2567 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ผสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)และสถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล (กพร.) เปิดตัวโครงการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์ให้แก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทยตอบรับความต้องการบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมคลาวด์ของประเทศ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้แก่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในไทย และยกระดับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ตามจุดยืนของหัวเว่ยเรื่อง “เติบโตในประเทศไทย เพื่อประเทศไทย” และกลยุทธ์ Cloud Security First ของสกมช.

นายเอดิสัน สวี ​คณะกรรมการบริหารบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หัวเว่ยเล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ของประเทศไทยและความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานนี้จึงตั้งเป้าจะตอบโจทย์เรื่องนี้ด้วยการบ่มเพาะบุคลากรให้ถึง 10,000 รายภายในปี 2024เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความปลอดภัยของคลาวด์ในไทยและช่วยปกป้องระบบสารสนเทศทางไซเบอร์ของประเทศโดยโครงการความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นจำนวนมาก รวมถึงจะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับภาคสาธารณะ เพิ่มแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ และเพิ่มการตระหนักรู้ถึงเรื่องการป้องกันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวและข้อมูลส่วนตัว อันจะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศขึ้นไปอีกระดับได้”

เขายังกล่าวเสริมว่าการเปิดตัวโครงการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 2024 ในครั้งนี้ ยังช่วยตอกย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ผ่านการเสริมทักษะและความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ให้แก่บุคลากรจากวิทยากรของมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ย คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อการบ่มเพาะทักษะเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่บุคลากรไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

พลอากาศตรีอมรชมเชยเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)ได้กล่าวถึงความร่วมมือเพื่อฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัลด้านความปลอดภัยเทคโนโลยีคลาวด์ในครั้งนี้ว่า”วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการผลิตพัฒนาบุคลากรและเพิ่มองค์ความรู้ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์บนเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยตามนโยบายเรื่องCloud Security First  ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สกมช. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆจนทำให้เกิดเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างหัวเว่ยและกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในวันนี้ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาทักษะจัดเตรียมช่องทางในการฝึกอบรมบุคลากรรวมถึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อปกป้องข้อมูลบนคลาวด์ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องซึ่งจะเป็นทั้งการแก้ไขช่องว่างเรื่องการขาดบุคลากรด้านดิจิทัลและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไทยไปอย่างควบคู่กัน”

ด้าน นายพิเชษฐ์ทองพันธ์รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.)ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการความร่วมมือครั้งนี้ว่า”แม้ว่าการประมวลผลแบบคลาวด์จะได้รับความนิยมมากขึ้นในไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแต่บุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขช่องว่างนี้หน่วยงานภาครัฐจึงร่วมมือกับองค์กรในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัลรองรับด้านความปลอดภัยบนเทคโนโลยีคลาวด์ทั้งนี้การพัฒนาศักยภาพแรงงานในไทยให้มีศักยภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานสมัยใหม่ตรงกับภารกิจของกพร. ในการตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศซึ่งเราต้องขอขอบคุณพันธมิตรภาคเอกชนระดับโลกอย่างหัวเว่ยที่ช่วยสนับสนุนทั้งเรื่องเทคโนโลยีบุคลากรและสถานที่สำหรับการจัดโครงการฝึกอบรมในครั้งนี้รวมถึงการนำองค์ความรู้ชั้นนำต่างๆมาช่วยพัฒนาแรงงานไทยให้มีความรู้และความสามารถมากยิ่งขึ้นตอบรับกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้ความสำคัญกับโครงการบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทยเป็นจำนวนหลากหลายโครงการผ่านการผสานความร่วมมือทั้งกับพันธมิตรในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา
ต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมีโครงการเรือธงหลายโครงการ อาทิ โครงการHuawei ASEAN Academy ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมหลักเพื่อบ่มเพาะและเพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทย โครงการ Seeds for the Future ในประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการบ่มเพาะเยาวชนที่มีความสนใจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านไอซีที เปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าถึงโครงการฝึกอบรมและองค์ความรู้ระดับคุณภาพการเปิดตัวโครงการการแข่งขัน Cyber Top Talent Competition ร่วมกับทางสกมช. เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สกมช. ในการจัดหลักสูตรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่บุคลากรและผู้บริหารด้านไอซีทีเป็นต้นนอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้เดินหน้าต่อยอดโครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคม เพื่อเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรไอซีทีในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทยในจังหวัดต่าง ๆ กว่า 13 จังหวัด ด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีรวมถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งโครงการเหล่านี้ถือเป็นการตอบโจทย์พันธกิจสำคัญของหัวเว่ยในการ “เติบโตในประเทศไทย เพื่อประเทศไทย” และ“นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *