กรุงเทพฯ 2พฤษภาคม2024 – เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ผู้นำธุรกิจด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจรและการให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลสัญชาติไทย โชว์ผลงานโดดเด่นคว้า2รางวัล จากเวที MAAT Media Awards 2024 จัดโดยสมาคมมีเดียเอเจนซีและธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) โดยแบ่งเป็นGold Award 1 รางวัลซึ่งมีเพียง10 แคมเปญที่ได้รับรางวัลระดับนี้ และBronze Award 1รางวัล ตอกย้ำความสำเร็จและศักยภาพในการวางแผนการสื่อสารและการทำการตลาดผ่านสื่อ ซึ่งใช้ศักยภาพของ First-Party Data 720 องศา, AI/ML และสื่อ O4s (Online, OOH, On-Premise, On-Ground) ที่เชื่อมต่อทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์มาเป็นหัวใจสำคัญในการวางกลยุทธ์ สร้างสรรค์คอนเทนต์ เลือกใช้สื่อรวมไปถึงมอนิเตอร์และวัดผลแคมเปญแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้ผู้บริโภค สร้างประโยชน์รอบด้านให้ธุรกิจลูกค้า และสนับสนุนแบรนด์ต่าง ๆ สู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย
นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ธุรกิจ Media Convergence สามารถคว้ารางวัลจากงาน MAAT Media Awards 2024 ซึ่งเป็นเวทีอันทรงเกียรติสำหรับแสดงความสามารถด้านการวางกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ผ่านสื่อและโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในไทย
การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นด้านเทคโนโลยี มีเดียแพลตฟอร์ม ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์สื่อ ธุรกิจลูกค้า ความต้องการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา รวมไปถึงความทุ่มเทของทีมดูแลลูกค้า, ทีมกลยุทธ์, ทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและทีมปฎิบัติการ ที่ร่วมกันส่งมอบผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละแบรนด์ได้อย่างเหนือชั้น”
ในปีนี้ MAAT Media Awards จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซปต์ “Divergence: The Art of Future Thinking” มีผู้ประกอบธุรกิจสื่อและเอเจนซีมีเดียส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 229ผลงาน ซึ่ง “เอ้ก ดิจิทัล” ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 7 ผลงาน ได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จำนวน 5 ผลงาน และคว้า MAAT Media Awards ได้ถึง 2รางวัล ประกอบด้วย
Gold Award 1รางวัล สาขา Best Media Strategy จากแคมเปญ Listerine Decisive Moment Triggers และ Bronze Award 1รางวัล สาขาEffectiveness Awardsจากแคมเปญ The Impact of Hygiene 5x Fragrance
ความสำเร็จของทั้ง 2 แคมเปญจากการวางกลยุทธ์การสื่อสารด้วยFirst-Party Data, AI และ สื่อ O4s
- แคมเปญ Listerine Decisive Moment Triggers:ใช้AI วิเคราะห์และแบ่งกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญออกเป็น 1) กลุ่มลูกค้าเดิม2) กลุ่มเป้าหมายใหม่ (New Category) ซึ่งแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม กลุ่มลูกค้าที่ซื้อของแห้งและกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออาหารสด วางกลยุทธ์การสื่อสารผ่านOmnichannel Media ที่ประสานการทำงานของสื่อOnline และสื่อOn-Premise ในรูปแบบExtra Shelf Display บริเวณสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายใหม่เดินช้อปปิ้งเช่นแชมพู,เครื่องดื่ม3 in 1,ผักสดและอาหารสดเป็นต้นพร้อม Tailor-made คอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มโดยคอนเทนต์บนออนไลน์และชั้นวางสินค้าจะต้องสอดคล้องกันเพื่อสร้างการรับรู้แบบไร้รอยต่อนำไปสู่การปิดการขายในที่สุดซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่และสร้างยอดขายจากกลุ่มนี้ได้มากถึง44% ของยอดขายรวม
- แคมเปญ The Impact of Hygiene 5x Fragrance:สร้างการรับรู้อย่างไร้รอยต่อผ่านสื่อ O2O2O เพื่อเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าเดิมและชิงลูกค้าจากแบรนด์คู่แข่ง มีการใช้สื่อ OOH หรือ Shoppers’ Digital Screen สื่อ Online และสื่อ On-Premise กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบเน้นคุณภาพและสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะกับแต่ละสื่อ โดยสามารถผลักดันแบรนด์สู่ผู้นำตลาดน้ำยาปรับผู้นุ่มได้สำเร็จ ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ถึง 36% ซึ่งเป็นลูกค้าที่เปลี่ยนจากแบรนด์คู่แข่งถึง 16%
“นักโฆษณาในยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันต่อไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยปัจจุบันผู้บริโภคใช้ชีวิตแบบผสมผสานโลกดิจิทัลและโลกจริงเข้าด้วยกัน มีการเสพสื่อและคอนเทนต์ที่หลากหลายรวมถึงตัดสินใจซื้อในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่ง ‘การผสานพลัง First-Party Data 720 องศา, AI/MLและสื่อ O4s’ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เอ้ก ดิจิทัลสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้โดยเรานำFirst-Party Data จากพันธมิตรห้างค้าปลีกและ Third-Party Data มาวิเคราะห์ด้วย AI และML จากนั้นนำอินไซท์ที่ได้มาวางกลยุทธ์การสื่อสารที่ตอบโจทย์ โดยเรามีสื่อ O4s ที่เชื่อมต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ทั้งสื่อออนไลน์ (Online) สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home) หรือ Shoppers’ Digital Screen สื่อในห้างค้าปลีก ณ จุดขาย (On-Premise) และกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้าง (On-Ground Activation) นอกจากนี้ยังใช้ AI มอนิเตอร์ KPI แบบเรียลไทม์ เพิ่มผลลัพธ์โฆษณาด้วยการอัปเดตกลุ่มเป้าหมายตลอดเวลา (Dynamic Audience Targeting) และจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างประโยชน์รอบด้านให้ธุรกิจลูกค้าและสนับสนุนแบรนด์ต่างๆสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย”นายชัชพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับลูกค้าองค์กรที่สนใจบริการของ บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.eggdigital.com/ หรือ โทร. 02-020-2364