อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่องานวิดีโอ ให้คุณถ่ายทอดทุกจินตนาการด้วยคอนเทนต์คุณภาพสูง
EOS R50 V ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา โดยตัดช่องมองภาพออกไปเพื่อให้ได้บอดี้ที่เพรียวบางขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องถือกล้องถ่ายเป็นเวลานาน โดยปุ่มต่าง ๆ ยังถูกออกแบบมาให้ถือถ่ายวิดีโอมือเดียวได้สะดวกขึ้น แผงปุ่มควบคุมเพื่อการถ่ายทำวิดีโอของรุ่น EOS R50 V ยังประกอบด้วยแป้นควบคุมโหมดการถ่ายภาพยนตร์ ปุ่มบันทึกวิดีโอด้านหน้า ปุ่มฟังก์ชันการเริ่มไลฟ์สตรีม และปุ่มเปลี่ยนโทนสีภาพต่าง ๆ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว รวมถึงคันโยกเพื่อควบคุมการซูมเลนส์ (ฟังก์ชันนี้ถูกติดตั้งเพื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ ซึ่งถือเป็นเลนส์ตัวแรกของแคนนอนที่มีระบบเพาเวอร์ซูมในตัว) พร้อมที่ยึดขาตั้งกล้องสำหรับถ่ายภาพแนวตั้ง การออกแบบที่จับและตำแหน่งปุ่มใหม่ที่ตอบโจทย์การถ่ายคอนเทนต์แนวตั้งโดยเฉพาะ
PowerShot V1: สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงด้วยกล้องดิจิทอลขนาดพกพา
PowerShot V1 เป็นกล้องคอมแพกต์แบบออลอินวันใน PowerShot V Series รุ่นแรกที่เน้นการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ ติดตั้งเซนเซอร์ความละเอียด 22.3 ล้านพิกเซล ขนาด 1.4 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้วที่พบในกล้องคอมแพกต์ส่วนใหญ่เกือบ 2 เท่า อีกทั้ง PowerShot V1 มาพร้อมกับเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษในตัวที่มีขอบเขตการมองเห็น (Field of View) เทียบเท่าเลนส์ระยะ 17-52 มม. เมื่อถ่ายวิดีโอ และเทียบเท่าระยะ 16-50 มม. เมื่อถ่ายภาพนิ่ง พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.8 – f/4.5
บอดี้ของ PowerShot V1 มีน้ำหนักเบา โดยถูกตัดช่องมองภาพออกไปเช่นเดียวกับ EOS R50 V เพื่อมอบความเพรียวบาง พกพาสะดวก ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการวีล็อก การไลฟ์สตรีม การถ่ายภาพยนตร์ หรือแม้แต่หนังสั้นหรือสารคดี นอกจากนี้ ยังมีพัดลมระบายความร้อนในตัวซึ่งพบได้ในกล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพเท่านั้น เพื่อช่วยกระจายความร้อน ทำให้ไลฟ์สไตรีมและบันทึกวิดีโอได้นานขึ้น
โดยทั้ง EOS R50 V และ PowerShot V1 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมายที่ช่วยให้การผลิตวิดีโอเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม เช่น โหมดปรับหน้าเนียน (Smooth Skin) และฟิลเตอร์สี 14 แบบ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนลุคของวิดีโอได้อย่างง่ายดายจากกล้องโดยตรง รวมถึงยังมีโหมดเพื่อการรีวิวสินค้า Close-up Demos ในตัว ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมโหมดบันทึกหลายแบบที่ตอบโจทย์การตัดต่อวิดีโอขั้นสูง เช่น Canon Log 3 10-bit ซึ่งจะบันทึกช่วงไดนามิกแสงกว้างขึ้น เหมาะสำหรับการเกรดสีวิดีโอ พร้อมวิดีโอความละเอียดสูง 4K 30p แบบไม่ครอปและวิดีโอ 4K 60p แบบครอป รวมถึงภาพสโลว์โมชันที่ความละเอียด Full HD 120p
RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ: เลนส์ RF ตัวแรกที่มีระบบเพาเวอร์ซูมในตัว
เลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ มีขนาดเล็กประมาณ 6 ซม. และน้ำหนักเบาเพียง 181 กรัม สามารถควบคุมการซูมด้วยเซอร์โวได้ทั้งบนวงแหวนซูมเลนส์หรือคันโยกที่มีอยู่บนกล้อง EOS R50 V โดยสามารถเลือกระดับความเร็วการซูมได้ 15 ระดับ และควบคุมด้วยสวิตช์ 2 ระดับ ซึ่งสามารถปรับความเร็วของวงแหวนซูมและคันโยกซูมแยกกันได้
เลนส์รุ่นนี้มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวสูงสุด 5 สต็อปสำหรับภาพนิ่ง และใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนสำหรับงานวิดีโอเมื่อใช้งานร่วมกับกล้องที่มีระบบ Movie Digital IS
RF20mm F/1.4L VCM: เลนส์มุมกว้างสุดในกลุ่มเลนส์ไพรม์ VCM เพื่องานวิดีโอ
เลนส์ที่มีมุมมองกว้างที่สุดในซีรีส์เลนส์ไพรม์ระยะ 20 มม. เป็นเลนส์ไฮบริดที่เหมาะทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ มาพร้อมมอเตอร์ขับเคลื่อนชิ้นเลนส์ VCM (Voice Coil Motor) แบบใหม่ที่โฟกัสรวดเร็ว สมูท และแม่นยำ พร้อมรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.4 ให้ภาพที่สว่างสดใสเมื่อใช้งานในสภาพแสงน้อย ตอบโจทย์การจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างสวยงามและกว้างครอบคลุมพื้นที่ต้องการได้อย่างลงตัว
เลนส์ RF20mm F/1.4L VCM ยังท้าทายเรื่องขนาดของเลนส์รูรับแสงกว้างที่มักมีน้ำหนักมาก ด้วยนวัตกรรมการออกแบบทำให้กระบอกเลนส์มีความยาว 99.3 มม. น้ำหนักเพียง 519 กรัม มอบคุณภาพระดับมืออาชีพในขนาดที่กะทัดรัด เบาและทนทาน ทั้งยังได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ โดยลดอาการเฟรมภาพขยับเมื่อเปลี่ยนจุดโฟกัส (Focus breathing) ผู้ใช้ยังสามารถปรับค่ารูรับแสงได้อย่างราบรื่นเหมือนกับเลนส์ไฮบริดและเลนส์ภาพยนตร์ของแคนนอน โดยหมุนวงแหวนไอริสแบบไร้เสียงระหว่างการบันทึกภาพเหมือนกับเลนส์ในระบบ Cinema EOS อื่น ๆ
เตรียมทดลองประสิทธิภาพของกล้อง EOS R50 V และ PowerShot V1 รวมถึงเลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ อย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 2-6 เมษายนนี้ ที่ Metro Art (MRT พหลโยธิน) ติดตามข่าวสารและกิจกรรมล่าสุดได้ที่ Facebook Canon Thailand และ Facebook Canon Imaging Thailand