บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร.ซองฮัน จอง (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคุณมร. ฮยองมีน ลี (ที่ 5จากซ้าย) หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์และคุณอำนาจ สิงหจันทร์ (ขวาสุด) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เปิดตัวไลน์อัพทีวีปี 2023 พร้อมฉลอง10 ปีแห่งความเป็นผู้นำนวัตกรรมทีวีOLED โดยมีคุณแมท ภีรนีย์ คงไทย (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความบันเทิงภายในบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งคนบันเทิงและผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง
กรุงเทพฯ, 19กรกฎาคม2566 –บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดทีวีพรีเมียม พร้อมฉลอง 10 ปีแห่งความเป็นผู้นำนวัตกรรม OLED ตัวจริงเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2566นำโดยทีวีรุ่นไฮไลท์ ได้แก่ LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้วซึ่งเป็นทีวี OLED 4K ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับประสบการณ์ความบันเทิงด้านภาพและเสียงขั้นสูงสุด บนหน้าจอทีวีขนาดยักษ์ที่ให้ภาพสวยและสีสันสว่างสมจริงยิ่งกว่า เสริมทัพด้วยจอไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ได้แก่ LG OLED Poséที่มอบภาพคมชัดผ่านหน้าจอOLEDevo ในดีไซน์การออกแบบที่สวยและลงตัวสำหรับทุกสไตล์การตกแต่งห้อง และ LG StanbyME จอสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้อิสระ นอกจากนี้แอลจียังเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยด้วยไลน์อัพทีวีอื่นๆ ทั้งOLED, QNED, NanoCellและ UHDครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แอลจีได้นำเสนอนวัตกรรมทีวี OLED ระดับโลกสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทีวีLGOLED จอโค้งขนาด 55 นิ้วรุ่นแรกของโลก และวอลเปเปอร์ทีวีไร้ขอบLG OLEDหรือทีวี OLED 8K รุ่นแรกของโลกไปจนถึงเป็นผู้ผลิตทีวี OLED ที่มีขนาดหน้าจอเล็กที่สุดไปจนถึงใหญ่ที่สุดการนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นออกสู่ตลาด เกิดจากความตั้งใจที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับและไม่ซ้ำใครให้แก่ผู้บริโภค โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สอดคล้องกับแนวคิด “Innovation for a Better Life”แอลจีจะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมทีวีที่ก้าวล้ำเพื่อก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้าน OLED ตัวจริง”
นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า“แอลจีเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีพรีเมียมของประเทศไทยมาตลอด10 ปีและมีส่วนแบ่งการตลาดในเซกเมนต์นี้สูงถึง 75% ในปีที่ผ่านแต่เราไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าให้แก่ผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่เพียงมองหาทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยีด้านภาพเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์ในด้านไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ เช่น พร้อมรองรับการรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์ที่หลากหลายและสามารถใช้งานร่วมกับโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวมถึงในด้านดีไซน์ที่สวยงามและลงตัวกับการตกแต่งภายในบ้านในปีนี้ แอลจีเราจึงมุ่งมั่นนำเสนอไลน์อัพทีวีหลากหลายรุ่น ที่นำโดยนวัตกรรมทีวีOLED 4K จอยักษ์ระดับไฮเอนด์สู่ตลาดทีวีระดับพรีเมียมพร้อมกับประเดิมตลาดทีวีไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรกซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย และคาดว่าจะสร้างการเติบโตด้านยอดขายในกลุ่มทีวี OLED ขึ้น 60%และสร้างฐานยอดขายในกลุ่มไลฟ์สไตล์ทีวี รวมถึงจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีโดยรวมถึง 21% ภายในปี 2566”
ความพิเศษของการเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2566 ของแอลจีคือการปฏิวัติในโลกของทีวีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นผ่าน 5 แนวคิดหลัก ได้แก่
การอัพเกรดชิปประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI
หัวใจสำคัญที่สุดของทีวีแอลจีคือขุมพลังชิปประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อจอแสดงผล OLED โดยเฉพาะ ที่ช่วยให้ทีวีทำงานได้มีประสิทธิภาพและเสถียรมากขึ้นโดยในปีนี้มีทีวีLG OLED ทั้งหมด 3 ซีรีส์ที่ได้รับการอัพเกรดชิปประมวลผลα9(อัลฟ่า) AI Processor Gen6 ได้แก่ LGOLED 8Kevo ซีรีส์ Z3 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลα 9AI Processor 8K Gen6 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ก้าวล้ำที่สุดของทีวี OLED ตามมาด้วย LG OLED evo 4K ซีรีส์ G3 และ C3 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิพประมวลผล α9AI Processor 4KGen6ซึ่งชิปประมวลผลAI จะมอบภาพที่มีมิติและคมชัดยิ่งขึ้นทั้งในโทนมืดและสว่าง รวมถึงยกระดับการจำลองเสียงรอบทิศทางเป็น9.1.2 แชนแนล และมอบความสมดุลของเสียงได้มากยิ่งขึ้น
มอบความสว่างและคมชัดมากขึ้น 70% ด้วยเทคโนโลยี Brightness Booster Max
พัฒนาการอีกขั้นของนวัตกรรมทีวีแอลจีในปีนี้ คือการอัพเกรดความสว่างบนจอภาพเพิ่มขึ้นถึง 70% ในทีวีLG OLED evo 4Kซีรีส์ G3 ผู้ชมจึงสัมผัสได้ถึงสีสันที่สวยสมจริงและภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ทีวีทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Display ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาและแสงสะท้อนที่ทำให้ไม่สบายตารวมทั้งลดการสั่นไหวของจอ ทำให้รับชมคอนเทนต์ต่อเนื่องได้อย่างสบายตาและไม่เมื่อยล้าสายตา
การันตีคุณภาพระดับชั้นนำที่วางใจได้
แอลจีได้รับการทดสอบจาก RTINGS.comซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการทดสอบคุณภาพของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่น่าเชื่อถือ โดยจากการทดสอบจอทีวี LG OLEDของRTINGS.com พบว่าผู้บริโภคสามารถลดความกังวลในเรื่องอาการ Burn-in ของจอภาพ เนื่องจากจอ OLED ของแอลจีใช้การทำงานของเม็ดพิกเซล 4 สี(RGBW)ทำให้ไม่ต้องใช้เม็ดพิกเซลหลายสีรวมกันเป็นสีขาวจึงเกิดอาการ Burn-in ได้ยากกว่าทีวีที่ใช้งานเม็ดพิกเซลเพียงแค่3 สี (RGB)เพราะเม็ดพิกเซลต้องรวมตัวกันแสดงสีขาว จึงเกิดการความร้อนสะสมได้มากกว่า และทำให้เกิดการ Burn-in ได้ง่ายกว่าซึ่งคุณภาพที่เชื่อถือได้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แอลจีครองสถานะผู้นำนวัตกรรมทีวี OLED มาตลอด 10 ปี
ไลฟ์สไตล์ทีวีดีไซน์สวยลงตัวกับทุกการใช้งาน
ในปี 2566 แอลจียังก้าวเข้าสู่ตลาดไลฟ์สไตล์ทีวีอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการออกแบบและความลงตัวกับการตกแต่งบ้าน จึงได้เปิดตัวทีวี LG OLED Posé ขนาด 55 นิ้ว ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามลงตัวทุกมุมมองและมอบคุณภาพของภาพที่สวยคมชัดด้วยหน้าจอ OLED evo นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว LG StanbyME จอสัมผัสเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระด้วยล้อลากและแบตเตอรี่ในตัว และจอภาพที่ออกแบบมาให้ปรับหมุนได้ จึงตอบโจทย์เทรนด์การรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์จากแอปพลิเคชันต่างๆ เหมาะสำหรับการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงได้จากทุกพื้นที่ภายในบ้าน
เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
ทีวีแอลจีรุ่นปี 2566 ได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ webOS 23 ทำให้อินเทอร์เฟซการใช้งานของทีวีมีความเรียบง่ายและเป็นสัดส่วนมากขึ้นการจัดหน้าจอแบบ Quick Cards ช่วยให้ผู้ชมค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ง่ายกว่าเดิม ฟีเจอร์ Quick Settings ยังช่วยให้ตั้งค่าฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเลือกจากเมนูเต็มรูปแบบทุกครั้ง นอกจากนี้เมนู Home Hub ยังรองรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านอย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชันLG ThinQและมีฟีเจอร์ Game Optimizer ที่สามารถตั้งค่าการเล่นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาหยุดหรือออกจากเกมจึงเพลิดเพลินกับเกมสุดสนุกได้อย่างไม่ขาดตอน
สำหรับไลน์อัพทีวีไลน์อัพทีวีใหม่จากแอลจีในปี 2566 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคาดังนี้
- LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ราคา 999,990 บาท
- LG StanbyME ราคา 44,990 บาท
- LG OLED Posé 55” ราคา 67,990 บาท
- LG OLED 4 ซีรีส์ 11 รุ่น ได้แก่ Z3, G3, C3, และ B3 ในขนาด 48-88นิ้ว พร้อมจำหน่ายแล้วในราคา49,990 – 999,990 บาท
- LG QNED3 ซีรีส์ 10รุ่น ได้แก่ LG QNED MiniLED ซีรีส์QNED86 4Kซีรีส์ QNED80 4K และซีรีส์ QNED75 4Kในขนาด 55-86 นิ้ว ราคา 24,990 – 149,990บาท
- LG NanoCell 2 ซีรีส์ 8รุ่น และ LG UHD ทั้งหมด 4 ซีรีส์ 15 รุ่นราคา 12,990 – 84,990บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและสาขาที่ร่วมรายการ รายละเอียดของทีวีแอลจีเข้าชมได้ที่ https://www.lg.com/th/oledหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757และติดตามกิจกรรมจากแอลจีได้ทาง: