กรุงเทพฯ, 26 สิงหาคม 2568 – บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำนวัตกรรมทีวี OLED ระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดทีวี OLED ในประเทศไทยทะยานสู่ 64.2% ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังสานต่อตำนานความเป็นเจ้าตลาดทีวีพรีเมียม ที่แอลจียึดส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 มาอย่างเหนียวแน่นรวม 12 ปีซ้อน โดยมุ่งมั่นรังสรรค์ทีวีที่มีคุณภาพสูงและมีเทคโนโลยีล้ำหน้าอย่างต่อเนื่อง
โดยแอลจีเปิดแผนรุกตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 สานต่อตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ดังนี้
เติมเต็มตลาดด้วยทีวีขนาด 100 นิ้ว ตอบรับกระแสความต้องการที่มาแรงเกินคาด
จากข้อมูลตั้งแต่ต้นปีจน ณ ปัจจุบัน พบว่า ผู้บริโภคในไทยหันมารับประสบการณ์ความบันเทิงบนทีวี OLED ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมขนาด 55 นิ้วที่ถือเป็นขนาดยอดนิยมกลายเป็นขนาด 65 นิ้ว ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของจอขนาดดังกล่าวเติบโตเป็น 36.8% ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตผู้บริโภคอาจมองหาทีวีที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ แอลจีจึงได้เพิ่มไลน์อัพทีวี QNED ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษถึง 85 นิ้ว และใหญ่ยักษ์ที่สุดคือ 100 นิ้วลงสู่สนาม ซึ่งในช่วงแรกที่เริ่มจำหน่ายได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ส่งให้มียอดขายมากกว่าที่คาดการณ์ แอลจีจึงขยายสาขาการดิสเพลย์ทีวีขนาด 100 นิ้วมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าและเป็นเจ้าของได้ทันที
ขยายไลน์อัพทีวีพรีเมียม ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
จากการวิเคราะห์พบว่า ผู้บริโภคนิยามความหมายของประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดในมุมมองต่างกัน โดยนอกเหนือจากเรื่องของคุณภาพความคมชัด สีสัน และขนาดหน้าจอ ลูกค้าบางกลุ่มต้องการให้ทีวีพรีเมียมเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ประดับในบ้านระดับไฮเอนด์ ซึ่งแอลจีพร้อมตอบโจทย์ด้วยไลน์อัพทีวี LG OLED evo AI ที่มีให้เลือกทั้งรุ่น M5, G5 และ C5 ที่มีดีไซน์เรียบหรู โฉบเฉี่ยว ในขณะที่บางกลุ่มมองว่า ประสบการณ์ที่ดีที่สุดเกิดจากการรับชมความบันเทิงร่วมกับครอบครัวหรือคนที่รัก แอลจีจึงนำเสนอ LG QNED evo AI รุ่น QNED92A และ QNED86A ให้สัมผัสจอขนาดใหญ่สูงสุด 100 นิ้ว รับชมทุกคอนเทนต์ได้เต็มอิ่มทุกคู่สายตา เกิดเป็นไลน์อัพที่พร้อมตอบรับหลากความต้องการ ในราคาที่ผู้บริโภคพร้อมจ่าย
เพิ่มขีดความสามารถของทีวี AI ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีความเฉพาะตัว
จากการประกาศกลยุทธ์ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Life’s Good 24/7 with Affectionate Intelligence: ชีวิตดีดีทุกเวลา ด้วยความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์” แอลจียังคงมุ่งมั่นส่งมอบเทคโนโลยี AI ที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุดใน LG AI TV ซึ่งมี Hyper-Personalized AI ตอบสนองผู้ใช้รายบุคคล สามารถจดจำเสียง เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ปรับแต่งภาพและเสียงให้สมบูรณ์แบบตรงใจผู้ใช้งาน โดยในช่วงเวลาสำคัญอย่างฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ใกล้เข้ามา ทีวีพรีเมียมของแอลจีพร้อมแปลงร่างเป็นผู้ช่วยส่วนตัวด้วย Sports Alert แจ้งเตือนการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง การทำประตู และผลคะแนนหลังจบเกมของทีมโปรดที่คุณตั้งค่าไว้ นอกจากนี้ LG AI TV ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ IoT อื่นๆ ภายในบ้านผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ครบวงจรอย่างแท้จริง
นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าที่นอกจากจะมีคุณภาพที่เหนือกว่าแล้ว ยังต้องช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับคุณค่ามากกว่าที่ซื้อ เช่น LG AI TV ที่เป็นได้ทั้งทีวีและผู้ช่วยส่วนตัว สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 เราตั้งเป้าให้ยอดขายทีวี OLED มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 65% พร้อมครองแชมป์ 13 ปีซ้อนในประเทศไทย โดยมียอดขายทีวีขนาดใหญ่ 75 นิ้วขึ้นไปโตขึ้น 20% ซึ่งสอดรับกับการคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคในปีนี้”
การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง ล้วนพิสูจน์ได้ถึงความเป็นเลิศ ที่ทำให้แอลจีคว้าชัยชนะในวงการทีวีพรีเมียมมายาวนานเกินทศวรรษ ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและสาขาที่ร่วมรายการ รายละเอียดของทีวีแอลจีเข้าชมได้ที่ https://www.lg.com/th/tv-soundbars/oled-evo หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757 และติดตามกิจกรรมจากแอลจีได้ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ LG Global อินสตาแกรม lg_thailand