กรุงเทพฯ,ประเทศไทย,24ตุลาคม2566 –คนทำงานหลายคนคงต้องเคยพบเจอปัญหาแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กหมดกลางคันในช่วงเวลาสำคัญกระทบการพรีเซ้นงานโปรเจกต์ใหญ่ หรือการทำงานให้เสร็จทันเดดไลน์กลายเป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้คนทำงาน แต่รู้หรือไม่ ยังมีวิธีช่วยยืดอายุการทำงานแบตเตอรี่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเอซุสจึงขอมาแนะนำเคล็ดลับสุดง่ายที่จะช่วยให้คุณใช้งานโน้ตบุ๊กเอซุสตัวเก่งได้ยาวนานยิ่งขึ้น!
- เปิดโหมดใช้งานBattery Saver หากคุณใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 11 เพียงเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ฟีเจอร์นี้จะปรับการตั้งค่าต่างๆให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพียงคลิกซ้ายที่ไอคอนแบตเตอรี่ทางด้านขวาของทาสก์บาร์ (taskbar)เลือกไอคอนประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saver)นับเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการช่วยประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตามโหมดการทำงานนี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานบ้างเล็กน้อย แต่หากคุณต้องทำงานระหว่างการเดินทาง การเลือกโหมดประหยัดแบตเตอรี่นี้ก็เป็นวิธีที่เหมาะทีเดียว
- ตั้งค่าPower Settings เรายังสามารถตั้งค่าพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กเอซุส โดยคลิกขวาที่ไอคอนแบตเตอรี่(Battery) บนทาสก์บาร์เลือก Power and Sleep settings และเริ่มด้วยการปรับการตั้งค่าหน้าจอและโหมดสลีป (Screen and sleep)เลือกระยะเวลาที่คุณต้องการให้เครื่องโน้ตบุ๊กรอก่อนที่จะปิดหน้าจอและเข้าสู่โหมดสลีปเมื่อไม่ได้ใช้งาน จากนั้นไปที่โหมดพลังงาน(Power) เลือกฟังก์ชั่น Best power efficiencyนอกจากนี้คุณยังสามารถลองเลือกเมนูประหยัดพลังงานอื่นๆเพิ่มเติมในเมนูPower and battery ได้อีกด้วย
- ปรับค่าแสงสว่างหน้าจอการลดค่าแสงสว่างหน้าจอลงจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น คลิกที่ไอคอนแบตเตอรี่บนทาสก์บาร์เพื่อปรับค่าแสงสว่างให้เหมาะสม และถ้าโน้ตบุ๊กเอซุสของคุณสามารถใช้งานฟังก์ชั่นคีย์ (f4และf5)เพื่อปรับค่าความสว่างได้ ก็สามารถใช้งานปุ่มลัดได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยถนอมสายตาของคุณจากหน้าจอที่สว่างมากเกินจำเป็นอีกด้วย
- หันมาใช้โหมดDarkยิ่งเราใช้งานหน้าจอสว่างมากเพียงใด ก็ยิ่งเป็นการเปลืองแบตเตอรี่มากขึ้นเท่านั้น การหันมาใช้งานโหมดDarkจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดแบตเตอรี่ โดยเราสามารถปรับตั้งค่าบนระบบปฎิบัติการ Windows 11เพียงเข้าไปที่เมนู Personalization และเลือกเมนูDark โดยเรายังสามารถลองสำรวจแอปพลิเคชั่นที่เราใช้งานบ่อยๆดูได้ว่าสามารถตั้งค่าโหมด Dark นี้ด้วยได้หรือไม่
- ถอดสายอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆดึงพลังงานโน้ตบุ๊กของคุณอย่างมากโดยคาดไม่ถึง ดังนั้นควรถอดสายอุปกรณ์ต่อพ่วงเมื่อต้องการประหยัดแบตเตอรี่ โน้ตบุ๊กเอซุสนั้นมาพร้อมคีย์บอร์ดและทัชแพดASUSErgoSenseที่ให้คุณพิมพ์ได้อย่างสะดวกสบายและเพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์ ไม่จำเป็นต้องต่อพ่วงคีย์บอร์ดพกพาเพื่อลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่และอย่าลืมถอดสายอุปกรณ์ต่อพ่วงอย่างฮาร์ดไดรฟ์เมื่อใช้งานเสร็จแล้วทุกครั้ง
- เช็กแอปพลิเคชั่นที่ใช้งาน การใช้งานแอปพลิเคชั่นบางตัวอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าที่คุณคิด เราสามารถตรวจสอบเพื่อดูว่าแอปพลิเคชั่นใดสิ้นเปลืองพลังงานมากที่สุด และปิดแอปเหล่านั้นเมื่อไม่ใช้งาน เปิดเมนูพลังงานและแบตเตอรี่ (Power & battery)ดูรายการการใช้แบตเตอรี่(Battery usage)ระบุแอปที่ใช้พลังงานมากที่สุด และคลิกจุดสามจุดถัดจากไอคอนเพื่อจัดการการใช้งานของแอปพลิเคชั่นนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเบื้องหลังของแอปขณะที่ปิดอยู่, การเข้าถึงตำแหน่ง, การตั้งค่าประสิทธิภาพพลังงาน
- ปืดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตการท่องโลกออนไลน์ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากทีเดียว การยกเลิกการเชื่อมต่อ หรือเปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน (Airplane mode) ก็จะช่วยให้คุณใช้งานโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น
- ตั้งค่าการแสดงผลและกราฟิก: โหมดขั้นสูง ยกระดับการประหยัดแบตเตอรี่ไปอีกขั้นด้วยการตั้งค่าการแสดงผลและกราฟิก เพียงไปที่ System เลือก Advanced displayหากโน้ตบุ๊กมีอัตราการรีเฟรชเรทอยู่ที่ 120Hzให้ปรับลดลงเหลือ 60Hz จะช่วยประหยัดพลังงานในขณะที่ยังคงใช้งานได้ในระดับที่พึงพอใจ และหากเครื่องโน้ตบุ๊กมีการ์ดจอแยก (ซึ่งกินพลังงานมาก) เราสามารถปรับตั้งค่าเลือกการใช้พลังงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยเลือกการใช้งานกราฟิกที่แต่ละแอปพลิเคชั่นควรใช้ และเรายังสามารถเลือกตั้งค่าให้ Windows 11เลือกปรับได้ตามเหมาะสม อย่างไรก็ตามโน้ตบุ๊กระบบปฎิบัติการ Windows 11 บางรุ่นเท่านั้นที่สามารถปรับค่าฟีเจอร์นี้ได้
- จัดการหน่วยประมวลผล (สำหรับผู้ใช้งาน ROG และ TUF Gaming)เราสามารถควบคุมคอร์ซีพียูเลือกจัดการประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊กได้ด้วยตนเองการปิดใช้งานคอร์ซีพียูบางตัว จะช่วยลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ และใช้งานโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น โดยผู้ใช้เกมมิ่งโน้ตบุ๊กROGหรือ TUF Gamingสามารถปรับตั้งค่าใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชั่นArmoury Crate
- ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่โดยปกติแล้วแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กจะเสื่อมลงตามระยะเวลา หากคุณลองทุกวิธีการข้างต้นนี้แล้ว แต่แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ไม่นานเท่าที่ต้องการ อาจะเป็นสัญญาณของปัญหาแบตเสื่อมเราสามารถตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กได้โดยง่าย เพียงเปิดแอป MyASUS(ใช้ได้กับโน้ตบุ๊กเอซุสทุกรุ่น) คลิกฝ่ายสนับสนุนลูกค้า (Customer support)เลือกไอคอนปัญหาแบตเตอรี่ (Battery problems)เสียบอะแดปเตอร์จ่ายไฟแล้วคลิกตรวจสอบ (Checkup)หลังจากนั้นแอปจะวิเคราะห์สภาพแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊ก และรายงานผลอย่างละเอียด หากพบปัญหาใด สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเอซุสผ่านทางแอป MyASUSเพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็นขั้นตอนถัดไป นอกจากนี้เรายังสามารถถนอมอายุแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมก่อนเวลา เพียงปรับโหมดแบตเตอรี่เป็นโหมด Battery Care ผ่านแอป MyASUSโดยแบตเตอรี่จะทำการชาร์จสูงสุดที่ 80%เพื่อเป็นการยืดอายุแบตเตอรี่นั่นเอง
- เลือกโน้ตบุ๊กอย่างชาญฉลาดประสิทธิภาพโน้ตบุ๊กแต่ละตัวย่อมแตกต่างกัน ถ้าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องการพกพา และมองหาโน้ตบุ๊กที่ใช้งานได้ยาวตลอดวัน เอซุสยังมีโน้ตบุ๊กหลากหลายรุ่นที่โดดเด่นด้านความบางเบา ประสิทธิภาพสูงแต่ยังประหยัดพลังงาน และมาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมียมได้แก่
- ASUS Zenbook S 13 OLED (UM5302LA)โน้ตบุ๊กน้ำหนักเบาเพียง 1 กก. พร้อมความบาง 49ซม.มาพร้อมดีไซน์พรีเมียม และหน้าจอคุณภาพสูงสุด ASUS Lumina OLEDขนาด 13.3นิ้ว ให้ประสิทธิภาพทำงานระดับสูงด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen™ 7000 Series พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 67 Whพร้อมระบบชาร์จเร็ว ใช้งานได้ตลอดวัน และน้ำหนักที่เบาเพียง 1 กก.
- ASUS ExpertBook B9 OLED(B9403CVA)โน้ตบุ๊กธุรกิจขนาด14นิ้วที่เบาที่สุดในโลก เพียง 990 กรัม พร้อมการอัปเกรดหน้าจอใหม่ความละเอียด3K อัตราส่วน16:10 OLED Display ให้สีสวยสดใสออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กธุรกิจโดยเฉพาะ เพิ่มความคล่องตัวและความปลอดภัยในการใช้งาน มาพร้อมฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยอย่างการสแกนใบหน้า สแกนลายนิ้วมือ และชิป TPM 2.0เป็นต้น รวมถึงระบบปฏิบัติการ Windows 11 Pro สำหรับองค์กรช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้ข้อมูล
ติดตามข้อมูลข่าวสารและผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/ASUSTHAILAND
ASUS Online Store: https://www.asus.com/th/store/
ASUS Official Store บน Shopee: https://bit.ly/2UEpBCb
ASUS Official Store บน Lazada: https://bit.ly/2UBBmcJ