รีวิว realme 12Pro+ 5G สเปคเรือธง กับค่าตัวเบาๆเพียง 13,999 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสมาร์ตโฟนใหม่ล่าสุดตระกูล Number Series ของทาง realme โดยมาพร้อมกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ “realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G” โดยทั้งสองรุ่นยังชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพเป็นหลัก และรุ่นที่ผมรีวิวนี้คือรุ่น realme 12Pro+ 5G จะมาพร้อมกับกล้องหลังเซนเซอร์หลัก Sony IMX890 พร้อมกันสั่น OIS และเลนส์ซูมแบบเพอริสโคป(Periscope Telephoto) เซนเซอร์ OmniVision OV64B ขนาด 1/2 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซล 4 in 1 สามารถซูม 3 เท่าแบบ Optical Zoom และซูมอินเซนเซอร์ 6 เท่า (ISZ) โดยชูพลังซูมสูงสุด SuperZoom 120 เท่า ปกติจะอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงราคาแพงๆ แต่ realme 12Pro+ 5G เขาจัดให้แล้วครับกับค่าตัวเพียง 13,999 บาท แค่กล้องที่กล่าวมาก็น่าสนใจมากแล้ว เดี๋ยวเราไปดูสเปคด้านอื่นๆกันว่าจะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ไปเลย

SPEC realme 12Pro+ 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2412×1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 120Hz
  • 5G รองรับ SA/NSA
  • ชิปประมวลผล CPU Snapdragon 7s Gen 2
  • GPU Adreno 710
  • RAM 8/12GB
  • ROM 256/512GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Realme UI 5
  • กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 50+64+8 ล้านพิกเซล
  • ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby ATMOS
  • 802.11 a/b/g/n/ac/ax (Wi-Fi 6)
  • Bluetooth 5.2 / NFC
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67W
  • ราคา รุ่นความจุ 12/512GB ราคา 16,999 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB ราคา 13,999 บาท
  • วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ สี Submarine Blue และสี Navigator Beige

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

  1. ตัวเครื่อง realme 12Pro+ 5G
  2. Adapter SUPERVOOC 67W
  3. สาย USB-C
  4. เคสซิลิโคน
  5. เข็มจิ้มถาดซิม
  6. คู่มือการใช้งาน

วัสดุและการออกแบบ

realme 12Pro+ 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ 3D Curved Screen พาแนลจอแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2412×1080 พิกเซล ค่าความสว่างสูงสุด 950nits หน้าจอรองรับการแสดงผลแบบ 10Bit หรือมากกว่า 1.07 พันล้านสี รองรับการแสงผลแบบ HDR10+ ขอบเขตสี 100% DCI-P3 แสดงผลได้คมชัด สีสันสวยงาม สามารถปรับค่าอุณภูมิสีของหน้าจอได้อิสระและมีโหมดถนอมสายตามาให้ด้วย (PWM Dimming 2160 Hz) หน้าจอปรับค่าความสว่างอัตโนมัติได้ 20,000 ระดับ

อัตรา Refresh Rate 120Hz/Touch Sampling Rate 360Hz ช่วยให้การแสดงผลไหลลื่นและทัชติดนิ้วดีมากๆครับ กระจกครอบทับแบบ Double-Reinforced Glass รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้จอ

realme ยังร่วมมือกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลปกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิสทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin โดยนำแรงบันดาลใจดังกล่าวมาใช้ในการออกแบบ โดดเด่นด้วยดีไซน์การล้อมโมดุลกล้องด้วยกรอบ Golden Fluted Bezel ที่ผลิตขึ้นอย่างประณีตโดยใช้เครื่องตัด CNC พร้อมด้วยเส้นโลหะที่สร้างขึ้นอย่างแม่นยำกว่า 300 เส้น กระบวนการนี้ทำให้ได้พื้นผิวที่สวยงามดั่งนาฬิกาหรูแบบ 360° พร้อมแผงหน้าปัด Sunburst ที่ใช้การขัดเงาแบบกลมมากกว่า 500 ดวง เพื่อสร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมชีวิตชีวา หุ้มฝาหลังด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ตกแต่งด้วยตะเข็บการเย็บแบบ 3D Jubilee Bracelet ที่ผสานรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนให้ตะเข็บมีรูปลักษณ์แบบเมทัลลิกที่ซับซ้อนสวยงาม (ข้อมูลจากผู้ผลิต) ฝาหลังวัสดุเป็นหนังวีแกนให้การสัมผัสที่ดีมากๆนุ่มสบายมือ

ภายในวงกลมคล้ายเรือนหน้าปัดนาฬิกาจะติดตั้งเลนส์กล้องหลังและไฟแฟลชวางในพื้นที่เดียวกัน สีที่ผมรีวิวคือสี Submarine Blue น้ำเงินตัดกรอบสีทอง

ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำระดับ IP65 ขนาดตัวเครื่อง 161.47 x 74.02 x 8.75 มม. น้ำหนัก 196 กรัม

ระบบปฏิบัติการ

realme 12Pro+ 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Realme UI 5 สามารถปรับเปลี่ยนธีมได้ สามารถเซฟและแชร์ภาพได้ง่ายด้วย Smart Image Matting, เชื่อมต่อกับแล็บท็อบได้ง่ายด้วย Microsoft Phonelink, รองรับการใช้งานแอพคู่

ประสิทธิภาพการทำงาน

realme 12Pro+ 5G เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Snapdragon 7s Gen 2 บนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร / GPU Adreno 710 พร้อมชุดระบายความร้อนแบบ VC Cooling System ขนาด 3394 มม. ช่วยให้การระบายความร้อนของ CPU และ GPU ได้อย่างรวดเร็ว

หน่วยความจำมีให้เลือก 2 แบบ (ตามเรทราคา)

  • RAM 8GB / ROM UFS3.1 ขนาด 256GB  ราคา 13,999 บาท
  • RAM 12GB / ROM UFS3.1 ขนาด 512GB ราคา 16,999 บาท

มาพร้อมกับเทคโนโลยีเพิ่มพื้นที่ให้กับแรม Dynamic RAM 8+8 และ 12+12

สำหรับการเล่นเกมจะมีฟังก์ชั่น HyperBoots มาให้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและจัดการการแจ้เตือนต่างๆขณะเล่นเกม

แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67W ภายในกล่องแถมที่ชาร์จเร็วมาให้พร้อมใช้งาน

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง: f/2.4, มุมถ่ายภาพ (FOV): 90° โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ โหมด Portrait, Pano, Ultra-wide Angle, โหมด AI Beauty, Face Recognition, ฟิลเตอร์, Super Nightscape, AI Scene Recognition รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080P / 30fps

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้

  • เลนส์หลัก Sony IMX890 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง: f/1.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Periscope Portrait เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง: f/2.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง: f/2.2 ระยะมุมถ่ายภาพ (FOV): 112°

สำหรับเลนส์ Periscope เซนเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซล 4 in 1 สามารถซูม 3 เท่าแบบ Optical Zoom และซูมอินเซนเซอร์ 6 เท่า (ISZ) ซูมดิจิตอลสูงสุด SuperZoom 120 เท่า

โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ Auto-zoom, โหมด Street Photography, Moon Mode, Starry Mode Pro, Super NightScape, Pano, โหมด Professional, โหมด Portrait, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, ฟิลเตอร์, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K / 30fps

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคล

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด AUTO ตามระยะเลนส์ต่างๆ (ข้อมูลระยะการถ่ายภาพจะอยู่ในลายน้ำนะครับ)

 

ภาพถ่ายที่แสงน้อยและโหมดกลางคืน

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดถ่ายดวงดาว

ตัวอย่างภาพถ่ายแนว Street

สรุป

สำหรับ realme 12Pro+ 5G กับค่าตัวเริ่มต้นที่ 13,999 บาท ให้สเปคมาดีมากๆ น่าจะดีสุดแล้วครับในตลาดเวลานี้ ตัวเครื่องดูพรีเมี่ยม จอสวยคมชัดพร้อมลำโพงคู่ด้วย กล้องถ่ายภาพจัดเต็มจริงๆ บางค่ายสองหมื่นยังไม่ให้เลนส์ซูม Periscope มาให้ใช้งานเลยนะ ตัวนี้คุ้มสุดแล้ว

 

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *