DJI ทำให้การบันทึกชีวิตประจำวันเป็นเรื่องสนุกและง่ายยิ่งขึ้นด้วยโดรนขนาดเท่าฝ่ามือรุ่นใหม่

Neo รุ่นใหม่เป็นโดรนของ DJI ที่เบาและกะทัดรัดที่สุดในปัจจุบัน แบบไม่จำเป็นต้องใช้ Remote Control

5 กันยายน 2024 – DJI ผู้นำระดับโลกด้านโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีกล้องที่ล้ำสมัย ประกาศเปิดตัว DJI Neo ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 135 กรัม1 ถือเป็นโดรนที่เบาและกะทัดรัดที่สุดของบริษัทจนถึงปัจจุบัน โดรนสามารถควบคุมการขึ้นบินและลงจอดบนฝ่ามือได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องใช้ Remote Control1 มีฟีเจอร์ AI Subject Tracking, QuickShots และรองรับวิดีโอ 4K ที่มีการกันสั่นระดับสูง โดยสามารถบินได้นานสูงสุด 18 นาที1 ไม่ว่าจะบินในร่มหรือกลางแจ้ง การ์ดป้องกันใบพัดแบบครอบคลุมจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อบันทึกการผจญภัยในแต่ละวันของตนเองหรือสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน

“ที่ DJI เราศึกษาการใช้งานกล้องในชีวิตประจำวันอยู่เสมอเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถบันทึกวิดีโอและภาพถ่ายได้ในวิธีที่สะดวกที่สุด” DJI Neo มุ่งมั่นที่จะมอบเทคโนโลยีล่าสุดในรูปแบบที่เล็กที่สุดให้กับผู้คน เพื่อให้พวกเขาสามารถบันทึกชีวิตประจำวันไว้เป็นความทรงจำอันล้ำค่าได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย” Ferdinand Wolf ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ DJI กล่าว

ทะยานสู่ท้องฟ้าเพียงด้วยการกดปุ่ม

เพียงกดปุ่มโหมดของโดรนและเลือกโหมดการถ่ายภาพที่ต้องการ Neo ก็ดำเนินการที่เหลือให้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้ Remote Control หลังจากถ่ายภาพนิ่ง 12MP ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2 นิ้ว หรือใช้อัลกอริธึมกันสั่นที่ทรงพลังของ DJI เพื่อผลิตวิดีโอ 4K UHD แบบกันสั่นโดยตรงจากกล้องที่ความละเอียด 4K/30fps1 โดรนจะกลับคืนสู่ฝ่ามือของผู้ใช้

บอกเล่าเรื่องราวของคุณจากฟีเจอร์ติดตามวัตถุด้วย AI (AI Subject Tracking)

อัลกอริทึม AI ของ Neo ถูกสร้างขึ้นเพื่อติดตามวัตถุภายในเฟรม ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน สเก็ตบอร์ด หรือเดินป่า ก็สามารถถ่ายภาพแบบติดตามที่น่าสนใจได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มเติมได้โดยใช้ประโยชน์จาก QuickShots ของ Neo ที่มีโหมดการถ่ายภาพอัจฉริยะ 6 โหมด1 ซึ่งมอบมุมมองการบันทึกที่หลากหลาย

– Dronie (บินเดินหน้าและถอยหลัง): โดรนบินถอยหลังและบินขึ้น โดยที่กล้องยังจับอยู่ที่ตัววัตถุ

– Circle (บินวน): โดรนบินวนรอบวัตถุ

– Rocket (บินตรงสู่อากาศ): โดรนบินขึ้นโดยที่กล้องหันลงมาทางด้านล่าง

– Spotlight (สปอตไลท์): โดรนหมุนโดยยังคงถ่ายวัตถุที่ต้องการไว้ภายในเฟรม

– Helix (บินวนเป็นเกลียว): โดรนบินขึ้นและบินวนเป็นเกลียวรอบวัตถุ

– Boomerang (บูมเมอแรง): โดรนบินรอบวัตถุเป็นวงรี โดยบินขึ้นเมื่อไปจากจุดตั้งต้น และบินร่อนลงมาตอนบินกลับ จุดเริ่มต้นของโดรนทำให้เกิดปลายด้านหนึ่งของรูปทรงไข่แบบยาว ในขณะที่อีกด้านอยู่ฝั่งตรงข้ามของวัตถุจากจุดเริ่มต้น

ควบคุมด้วยวิธีของคุณ

DJI Neo ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ Remote Control เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ยังสามารถจับคู่กับแอป DJI Fly, Remote Control, RC Motion, DJI Goggles และแม้แต่การสั่งงานด้วยเสียง1 เพื่อการควบคุมการบินและกล้องที่ดีขึ้น

การเชื่อมต่อ Wi-Fi กับสมาร์ทโฟนช่วยให้สามารถควบคุม Neo ได้โดยใช้ Joystick เสมือนจริงบนหน้าจอสัมผัสบนแอป DJI Fly ที่มีระยะการควบคุมสูงสุด 50 เมตร1 นอกจากนี้ แอปยังช่วยให้สามารถตั้งค่ามุมการติดตามและระยะทางได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพจากระยะไกลหรือระยะใกล้ได้อย่างอิสระยิ่งขึ้น

การใช้ร่วมกับ DJI RC-N3 ทำให้ DJI Neo สามารถส่งสัญญาณวิดีโอได้ในระยะสูงสุด 10 กิโลเมตร1 และมอบโอกาสในการใช้งานกล้องอย่างยืดหยุ่นด้วยแท่งควบคุม RC แบบดั้งเดิมเพื่อถ่ายภาพในระดับมืออาชีพ

สำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์โดรนที่สมจริง DJI Neo สามารถจับคู่กับ DJI Goggles 3, RC Motion 3 หรือ FPV Remote Controller 3 ได้ การใช้ร่วมกับ RC Motion 3 ทำให้ DJI Neo เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบินผาดโผนด้วยการกดเพียงครั้งเดียว สามารถบินในร่มอย่างราบรื่น และบินผ่านพื้นที่แคบได้อย่างง่ายดาย

ระบบกันสั่นที่เป็นมาตรฐาน

DJI Neo มาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบแกนเดียวและสามารถรองรับการบินความเร็วสูงหรือการบินที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวจำนวนมาก รวมถึงรองรับสภาพลมแรงถึงระดับ 4 อีกด้วย เมื่อใช้ร่วมกับระบบกันสั่น RockSteady หรือ HorizonBalancing การสั่นของภาพโดยรวมจะลดลงอย่างมาก และการเอียงของขอบฟ้าจะได้รับการแก้ไขภายใน ±45 องศา1 เพื่อให้ได้ภาพที่ราบรื่นและเสถียร ซึ่งยังคงความชัดเจนทั้งในบริเวณไฮไลท์และเงา

DJI Neo สามารถบินวนอยู่กลางอากาศได้อย่างมั่นคงด้วยการใช้ระบบระบุตำแหน่งด้วยอินฟราเรด และ monocular vision positioning system ช่วยรักษาความเสถียรได้แม้ในสภาพลมแรงถึงระดับ 4 นอกจากนี้ยังรองรับการกลับจุดขึ้นบิน (RTH) อัตโนมัติเพื่อการใช้งานที่สะดวกและไม่ต้องกังวล

การบันทึกเนื้อหาในแต่ละวันทำได้ง่าย

Neo สามารถบันทึกวิดีโอ 4K/30fps ได้นานถึง 40 นาทีหรือวิดีโอ 1080p/60fps ได้นานถึง 55 นาทีด้วยหน่วยความจำภายใน 22GB  เมื่อบันทึกแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้สายข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อถ่ายโอนฟุตเทจ การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วย Wi-Fi จะถ่ายโอนไปยังแอป DJI Fly ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การโพสต์โปรดักชันและการแชร์มีความราบรื่น

สามารถบันทึกเสียงได้อย่างง่ายดายโดยการเชื่อมต่อ Neo เข้ากับสมาร์ทโฟน การแตะปุ่มบันทึกเสียงบนแอป DJI Fly เพียงครั้งเดียว ก็จะเริ่มบันทึกผ่านไมโครโฟนในโทรศัพท์ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงเพิ่มเติม DJI Mic 2 สามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth แอปจะตัดเสียงใบพัดโดยอัตโนมัติและรวมแทร็กเสียงเข้ากับวิดีโอเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงจะชัดเจนแม้จะถ่ายวิดีโอมุมต่ำ

แอป DJI Fly มีรูปแบบเอฟเฟกต์เสียงและภาพให้เลือกมากมาย เพื่อการแก้ไขที่รวดเร็วและง่ายดาย สร้างและแชร์วิดีโออย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดวิดีโอเพื่อแก้ไข ซึ่งประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลบนโทรศัพท์

เชื่อมต่อโดรนโดยตรงกับแหล่งพลังงานโดยใช้สายข้อมูล Type-C เพื่อการชาร์จที่สะดวก นอกจากนี้ Charging Hub ของ DJI Neo ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 3 ก้อนพร้อมกัน1 เพิ่มทั้งความเร็วและประสิทธิภาพในการชาร์จ

ราคาและการวางจำหน่าย

DJI Neo ราคา 6,600 บาท

DJI Neo Fly More Combo ราคา 11,700 บาท

 พร้อมให้ทุกท่านเป็นเจ้าของตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ที่ DJI Experience Store ทั้ง 10 สาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

DJI Experience Store – Emsphere  ชั้น 2 โทร 081-524-6690

DJI Experience Store – Central Chiangmai  ชั้น 3 โทร 082-826-2888

DJI Experience Store – Central Rama9  ชั้น 4 โทร 098-555-2983

DJI Experience Store – Central World  ชั้น 4 โทร 095-650-2621

DJI Experience Store – Future Park Rangsit  ชั้น 2 โทร 098-851-9938

DJI Experience Store – Central Phuket Floresta  ชั้น 2 โทร 065-009-9224

DJI HASSELBLAD SIAM PARAGON  ชั้น 3 โทร 090-699-9896

DJI Experience Store – Fashion Island  ชั้น 3 โทร 065-005-5446

DJI Experience Store – Central Pattaya  ชั้น 3 โทร 062-590-5469

DJI Experience Store – Megabangna  โซน Mega Tech, L2 โทร 061-416-9949

Shopee – DJI Offcial store : https://bit.ly/45eeend

Lazada – DJI  : https://bit.ly/3Vyi0oo