- MSME S-Card เกิดขึ้นภายใต้โปรแกรม Sirius เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ SME ได้ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลโซลูชั่นเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนสู่เป้าหมาย ESG ที่สามารถวัดผลได้ผ่านการปฎิบัติงานที่มีความยั่งยืนมากขึ้นและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
- พันธมิตรของ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล อย่าง GCashจากฟิลิปปินส์ จะเป็นผู้นำร่องโครงการ โดยมี Gprntเป็นพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาสกอร์การ์ดให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าของธุรกิจ SMEเพื่อการเข้าถึง การวัดผล และการประเมินผลของผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับ ESG
กรุงเทพฯ , ประเทศไทย – 8 พฤศจิกายน 2567 –แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล ผู้นำด้านการชำระเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีการเงินระดับโลก ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำพัฒนาสกอร์การ์ด (Scorecard)เพื่อสนับสนุนในการสร้างความยั่งยืนสำหรับกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย (SME) ภายใต้ชื่อ MSME Sustainability Impact Scorecard หรือ MSME S-Card ซึ่งเป็นดิจิทัลโซลูชั่นสำหรับ SMEในการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมซึ่งสามารถตรวจสอบได้เพื่อให้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้สามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนตามมาตรฐานและข้อกำหนดได้อย่างชัดเจน
MSME S- Card นำประโยชน์จากความเชียวชาญและเครือข่ายพันธมิตรของ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล ในด้านนวัตกรรมดิจิทัลและแพลตฟอร์ม เข้ามาใช้เพื่อสะสมข้อมูลสำคัญทั้งในแง่ของขั้นตอนการปฎิบัติงาน และดิจิทัล วอลเล็ท เพื่อสร้างและรับรองผลงานด้าน ESG ให้แก่ธุรกิจ SME ซึ่งการผสานการวัดผลในด้าน ESG แบบดิจิทัล ธุรกิจ SMEจะสามารถใช้ สกอร์การ์ด เป็นข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการทางธุรกิจให้เข้าสู่มาตรฐานความยั่งยืน สร้างความน่าเชื่อถือด้าน ESG ให้แก่ธุรกิจของตนเอง เพื่อดึงดูดนักลงทุน และสานต่อเป้าหมายธุรกิจระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจในระดับสากล
Leiming Chen, Chief Sustainability Officer, Ant Internationalกล่าวว่า หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักที่เราได้เปิดตัวโปรแกรมSirius เมื่อต้นปีคือเพื่อช่วยแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในแง่ของโอกาสในการมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนที่ธุรกิจSMEกำลังเผชิญซึ่งทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจเนื่องจากทั่วโลกได้มีการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนแล้ว เราหวังว่า MSME S-Card ซึ่งเป็นโครงการแรกที่เกิดขึ้นภายใต้โปรเจ็ค Sirius จะช่วยสร้างข้อกำหนดใหม่ ๆ ในการทำงานร่วมกันระหว่าง SMEและ สถาบันทางการเงินเพื่อสนับสนุนการสร้างความยั่งยืนให้แก่กลุ่ม SMEเหล่านี้จะได้มีโอกาสในการสานต่อวิสัยทัศน์เพื่อสร้างความยั่งยืนแห่ง อนาคต พร้อมได้ประโยชน์ทั้งจากการใช้ช่องทางการชำระเงินที่ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืน, รายงาน ESG และการเงินสีเขียว”
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แอนท์ อินเตอร์เนชันแนลได้เปิดตัวโปรแกรม Sirius (Sustainability Innovation for Regenerative & Inclusive Purpose) โดยมีพันธมิตร อาทิ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มธนาคารโลก, Gprntอีกกลุ่มบริษั ทฟินเทคชั้นนำอีก 13 รายทั่วเอเชีย แปซิฟิกเข้าร่วมสนับสนุนเพื่อเสริมศักยภาพของSMEในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals)
เพื่อสนับสนุน SMEให้เริ่มต้นการเดินทางสู่ความยั่งยืน Gprntในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยี จะร่วมมือกับแอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนลในการใช้แพลตฟอร์มที่เป็นดิจิทัลโซลูชั่นจัดทำรายงานสำหรับ SMEเพื่อให้ SME สามารถเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนที่เป็นระบบตามเกณฑ์สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล พื้นฐาน ที่มีความโปร่งใส เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของธุรกิจเหล่านี้
Lionel Wong, Executive Director, Gprntกล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าสานต่อโปรเจ็ค Sirius ร่วมกับ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล เนื่องจากโปรเจ็คดังกล่าวมีความสำคัญต่อธุรกิจ SMEอย่างยิ่งในการเริ่มต้นความมุ่งมั่นการสร้างความยั่งยืน ซึ่งโซลูชั่น MSME S-Card เปิดตัวในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะกับเครื่องมือของเราที่เรียกว่า Disclosure and Marketplace toolsซึ่งออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการรายงานด้านความยั่งยืนสำหรับธุรกิจทุกขนาดให้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถเชื่อมธุรกิจเหล่านี้ให้เข้ากับระบบนิเวศของโซลูชัน เพื่อรองรับความต้องการด้านการเงินและการลดคาร์บอนของธุรกิจ”
อุปสรรคของ SMEในการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความยั่งยืน
ธุรกิจ SME มีสัดส่วนเป็น90% ของธุรกิจทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียอย่างไรก็ตามด้วยขนาดที่เล็ก ธุรกิจเหล่านี้จึงขาดความสามารถ และกลไกการรวบรวมข้อมูลสำหรับการรายงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน รวมถึง
- ขาดความรู้ :ธุรกิจ SME แตกต่างจากธุรกิจขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรายงาน ESG, ทำให้ SMEขาดความรู้ความเข้าใจในถึงแนวปฏิบัติด้าน ESG โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรยังคงมีข้อจำกัด
- ทรัพยากรมีจำกัด: ธุรกิจ SMEต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งด้านทรัพยากรและการเงินที่มีจำกัด ส่งผลให้การนำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และการเลือกใช้โซลูชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือการใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานนั้นใช้การลงทุนที่สูง นอกจากนี้ เนื่องจากSMEคือหนึ่งในห่วงโซ่ทางธุรกิจสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ส่งผลให้ SMEต้องปฎิบัติตามความต้องการที่ซับซ้อน และข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่เข้มงวดของธุรกิจในการทำรายงาน
- ตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในแง่ของการเงินมีจำกัด: โซลูชั่นการเงินสีเขียวที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันของธนาคารและสถาบันการเงิน มักออกแบบมาเพื่อบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้ SMEไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เนื่องจากSME ต้องการแหล่งเงินทุนที่สอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนที่สั้นกว่า ใช้เงินทุนที่น้อยกว่า และมีความท้าทายเฉพาะตัว หากไม่มีการสนับสนุนทางการเงินที่เหมาะสมเช่นนี้ SMEจะประสบปัญหาในการหาทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน
การใช้ประโยชน์จาก ดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจ SMEเพื่อทำรายงานและการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน
พันธมิตรของ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล ทั้งหมดในอีโคซิสเต็มส์ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุน SMEให้สามารถเข้าถึงข้อมูล และได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ MSME S-Card จะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างสถาบันการเงิน และธุรกิจขนาดเล็ก พร้อมเปิดโอกาสให้สามารถสร้างรายงานความยั่งยืนได้อย่างโปร่งใส เช่นเดียวกับ GCashจากฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเป็นผู้นำร่องโครงการดังกล่าวเพื่อสร้างมาตรฐานของการประเมินผลตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจ SMEในแต่ละประเทศ
Winsley Bangit, VP for New Businesses, GCash กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจ SME ในฟิลิปปินส์คิดเป็นสัดส่วนถึง 99.5% ของธุรกิจโดยรวม อีกทั้งยังมีธุรกิจ SMEอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ และยังขาดการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการสนับสนุนเพื่อโอกาสในการเติบโตอันเป็นการจำกัดศักยภาพในของธุรกิจทั้งในแง่ของความยืดหยุ่นและการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้เอง การร่วมมือกันกับ GCashและ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล จะช่วยให้ SMEสามารถเข้าถึงทั้งเงินทุนและการสนับสนุนที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ GCashที่ต้องการยกระดับชีวิตประจำวันของคนฟิลิปปินส์ เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่ครบครันทั้งเงินทุน เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญในแง่ของการสร้างความยั่งยืน”
GCash ในฐานะสมาชิกของโครงการ Sirius คือผู้นำที่ส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินอย่างเท่าเทียมสำหรับธุรกิจในฟิลิปปินส์ผ่านการนำเสนอบริการธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ นอกจากนี้ GCashยังมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งส่งผลให้ GCashเป็นผู้นำฟินเทคที่ยั่งยืนระดับโลก ผ่านโครงการ GForest, GCashที่รวบรวมและสนับสนุนให้ผู้ใช้กว่า17 ล้านคน ปลูกต้นไม้มากกว่า 2.8 ล้านต้น ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนถึง 138,000 เมตริกตัน และยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกว่า 8,600 คน
โครงการเริ่มต้นกับ GCashคาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปีหน้า