กรุงเทพฯ5 กุมภาพันธ์2568 – ปัญหามลภาวะฝุ่นPM2.5 ไม่ใช่ปัญหาใหม่แต่เป็นวิกฤตประจำปีที่อยู่คู่ประเทศไทยมาแล้วหลายปีซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่นPM2.5 ส่วนใหญ่มาจากการเผาพื้นที่การเกษตรหลังฤดูเก็บเกี่ยวโรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงการสันดาปของยานยนต์บนท้องถนนประกอบกับสภาวะความกดอากาศสูงในช่วงฤดูหนาวที่ทําให้เกิดภาวะอากาศปิดจนเกิดปรากฏการณ์“ฝุ่นคลุมเมือง”ต่อเนื่องในช่วงต้นปี
ปัญหาPM2.5 ในเมืองไทยทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปีด้วยการขยายตัวของพื้นที่การเกษตรเชิงเดี่ยวและจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมและรถยนต์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเห็นได้จากข้อมูลของIQAirแอปพลิเคชันรายงานสภาพอากาศโลกในช่วงเดือนมกราคม 2568 ซึ่งชี้ว่าค่าดัชนีฝุ่นPM2.5 ของไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯอยู่ในระดับรุนแรงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อเนื่องกันหลายวัน (ดัชนีฝุ่นเกิน 100-200 AQI) จนทำให้กรุงเทพฯติดอันดับTop10 เมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลกและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนในวงกว้าง1
งานวิจัยทางการแพทย์2ยังแสดงให้เห็นว่าฝุ่นPM2.5 คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เยื่อบุจมูกเกิดการระคายเคืองนำไปสู่อาการไอจามและเกิดภาวะภูมิแพ้รุนแรงในที่สุดและอีกหนึ่งในโรคยอดฮิตของคนไทยในช่วงวิกฤตฝุ่นต้นปีก็คือไซนัสอักเสบซึ่งเกิดจากการอักเสบและอุดตันของรูเปิดไซนัสทำให้เกิดอาการปวดจมูกศีรษะและใบหน้ารวมไปปัญหาถึงการได้กลิ่นที่ลดลงซึ่งต้องอาศัยการดูแลรักษาตั้งแต่การใช้ยาปฏิชีวนะการรักษาด้วยสเตียรอยด์พ่นจมูกหรือสเตียรอยด์ผสมน้ำเกลือล้างจมูกไปจนถึงการผ่าตัดซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งและต้องสูดฝุ่นPM2.5 เป็นระยะเวลานานในแต่ละวันจนเกิดอาการไอนาน3-8 สัปดาห์ขึ้นไปอาจนำไปสู่โรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือที่ร้ายกว่านั้นหากฝุ่นPM2.5 เกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดอาจเกิดการอุดตันในหลอดเลือดและผนังหัวใจซึ่งเป็นอาการของโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรังและที่ร้ายที่สุดคือการลุกลามเป็นโรคปอดเรื้อรังและมะเร็งปอดในที่สุด3
โคเวย์ (COWAY)บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ซึ่งดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์“Best Life Solution Company” ตระหนักดีถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของผู้คนจึงรณรงค์ให้ผู้คนปฏิบัติตามขั้นตอนพื้นฐานเพื่อลดความเสี่ยงจากมลภาวะฝุ่นดังนี้
- สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น– โดยสวมหน้ากากมาตรฐานN95หรือKN95เท่านั้นเมื่อต้องออกจากบ้านไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง
- หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน–โดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่นสูงควรตรวจสอบคุณภาพอากาศผ่านแอปหรือเว็บไซต์ที่แสดงดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI)
- ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด– เมื่ออยู่ในบ้านควรปิดประตูหน้าต่างหรือใช้ผ้าปิดรูระบายอากาศที่อาจมีฝุ่นเข้าได้เพื่อป้องกันฝุ่นจากภายนอกเข้ามาภายในอาคาร
- ใช้เครื่องฟอกอากาศ– ช่วยลดฝุ่นอนุภาคเล็กภายในบ้านเพื่อสร้างอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์และเสริมภูมิคุ้มกันจากภายใน
โดยโคเวย์เน้นย้ำถึงความจำเป็นของเครื่องฟอกอากาศมากที่สุดเนื่องจากเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดในขณะที่เราอยู่ในบ้านตลอดเวลาโดยนำเสนอบริการเครื่องฟอกอากาศในรูปแบบSubscription เพื่อมอบความคุ้มค่าสูงสุดแก่ลูกค้าและยิ่งไปกว่านั้นคือความมั่นใจถึงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องเนื่องจากมีทีมงานCODY คอยเข้าไปดูแลตรวจสอบการทำงานของเครื่องอย่างสม่ำเสมอพร้อมซ่อมแซมฟรีตลอดอายุสัญญาคุณจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสูดอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่และยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางวิกฤตฝุ่นในวันนี้
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงเพื่อรับมือกับวิกฤตฝุ่นPM2.5 และยังไม่ทราบว่าจะเลือกรุ่นไหนโคเวย์ขอแนะนำ2 รุ่นยอดฮิตในเมืองไทยที่ลูกค้าให้ความนิยมสูงสุดจนต้องเติมสต็อกอย่างต่อเนื่องได้แก่
- รุ่นCOWAY Noble: โดดเด่นด้วยระบบกรองอากาศแบบ6ขั้นตอนผสานการใช้ฟิลเตอร์คุณภาพสูงถึง5ชั้นบวกกับการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสียูวี (UV Sterilisation) ที่ช่วยขจัดมลภาวะทางอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพร้อมเทคโนโลยีการกรองแบบ4D ครั้งแรกของโลกที่มอบอากาศสะอาดได้แบบ360°ผสานการใช้ฟิลเตอร์Double HEPA ในการดักจับเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายสายพันธุ์ต่างๆที่แพร่กระจายในอากาศได้อย่างรวดเร็วโดยมีประสิทธิภาพการดักจับสูงถึง99%
- รุ่นCOWAY Storm: มาพร้อมกับดีไซน์มินิมอลที่สวยสบายตาและเข้ากับทุกสเปซมีพัดลมระบาย3ทิศทางนอกจากกรองฝุ่น5ยังสามารถกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง99.99%รวมถึงเกสรดอกไม้ขนสัตว์รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยไส้กรองHEPA Filter พร้อมมอเตอร์ทรงพลังจึงสามารถขยายขอบเขตการหมุนเวียนอากาศได้ไกลถึง6เมตรช่วยให้คุณหายใจได้ปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้นบอกลาอากาศในบ้านที่แสนอึดอัดไปได้เลย
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์และติดตามข่าวสารล่าสุดจาก Cowayได้ที่เว็บไซต์ www.coway.co.th หรือเฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/CowayThailandOfficial
ข้อมูลอ้างอิง
2https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-256?utm_source=chatgpt.com และ
3https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/331093