กล้องดิจิทัลแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ซีรีส์ EOS ของแคนนอน ใช้ระบบการถ่ายภาพที่ยึดมั่นในแนวคิดพื้นฐานที่ว่า “Speed, Comfort, and High Image Quality – ต้องรวดเร็ว ใช้สะดวก และคุณภาพของภาพสูง” ซึ่งบริษัทฯ ได้พัฒนาส่วนประกอบหลักที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแคนนอนไว้มากมาย ทั้งเซนเซอร์ภาพ CMOS ชิปประมวลผลภาพ DIGIC ไปจนถึงเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้ แคนนอนยังมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยขยายไลน์อัปทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มเรือธงประสิทธิภาพสูง ที่ได้รับความไว้วางใจจากช่างภาพมืออาชีพ ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้นที่ให้ผู้ใช้มือใหม่สามารถเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพเต็มประสิทธิภาพด้วยการใช้งานที่ง่าย รวมไปถึงความหลากหลายของเลนส์ในซีรีส์ RF และ EF กว่า 120 รุ่น[2] ที่จะทำให้ผู้ใช้งานแสดงความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นจริงและมีคุณค่า เพื่อคอยสนับสนุนความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
แคนนอนยังคงเปิดตัวนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดตัวกล้องระดับมืออาชีพในซีรีส์ EOS-1D และ EOS 5D ซึ่งปูทางไปสู่การบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง DSLR เต็มรูปแบบ ความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการขยายขอบเขตการถ่ายภาพให้กว้างขึ้น นำไปสู่การเปิดตัวระบบใหม่ EOS R SYSTEM ในเดือนตุลาคม 2561 รวมถึงกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมอย่างรุ่น EOS R5 กล้องรุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 8K[3] ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2563 และรุ่น EOS R3 ที่มีประสิทธิภาพในการติดตามและการถ่ายภาพต่อเนื่องวัตถุที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคม 2564 บริษัทฯ ยังเปิดตัวระบบ EOS VR SYSTEM ซึ่งออกแบบมาเพื่อการบันทึกคอนเทนต์วิดีโอเสมือนจริง (Virtual Reality) โดยเฉพาะ
และในปี 2567 ที่ผ่านมา แคนนอนก็สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ทั่วโลกได้อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นปีที่ 22 ติดต่อกัน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องและเลนส์ซีรีส์ EOS R ที่ดียิ่งขึ้น
แคนนอนยังคงมุ่งมั่นปรับปรุงเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เป็นเอกสิทธิ์ของบริษัทฯ ต่อไป เพื่อมอบความสมบูรณ์แบบและความสนุกสนานให้กับชีวิตประจำวันของผู้คน ตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมภาพถ่ายและวิดีโอให้แพร่หลายด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม