กรุงเทพฯ, 18 เมษายน 2568 – Brother ผู้นำโซลูชันด้านการพิมพ์จากประเทศญี่ปุ่น ประกาศความสำเร็จปี 2567 ด้วยการเติบโตทะลุเป้า และสร้างยอดขายภาพรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจในไทย พร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จในปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Transforming for a Sustainable Future” ตั้งเป้าเติบโตโดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และเสริมแกร่งฐานลูกค้า B2B ด้วยการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้ง 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน เครื่องพิมพ์ฉลาก จักรปัก เครื่องเสียงและอุปกรณ์ต่อพ่วง เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล และเครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัลระบบ UV อิงค์เจ็ทความละเอียดสูงภายใต้แบรนด์ Domino ควบคู่กับการยกระดับบริการภายใต้กลยุทธ์ “CoSE” (Center of Service Excellence) ตลอดจนกิจกรรม CSR ตามแนวคิด “At Your Side” และ “Brother Group Environmental Vision 2050” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ที่ใส่ใจลูกค้า สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Brother ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีแนวโน้มลดการใช้กระดาษ รวมถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยอ้างอิงจากรายงานของ Gartner ภาพรวมตลาด IT ในประเทศไทยปี 2567 มีการเติบโตอยู่ที่ 5.8% สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ท่ามกลางบริบทดังกล่าว Brother สามารถสร้างการเติบโตภาพรวมได้ถึง 9% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเกือบ 2 เท่า และทำสถิติยอดขายรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงศักยภาพในการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่ ๆ ในทั้ง 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน เครื่องพิมพ์ฉลาก จักรปัก เครื่องเสียงภายใต้แบรนด์ BMB เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล และเครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัลระบบ UV อิงค์เจ็ทความละเอียดสูงภายใต้แบรนด์ Domino สำหรับปี 2568 Brother
จะมุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับทิศทางตลาดและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์ทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตตามเป้าหมาย ตลอดจนส่งมอบคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตามปรัชญา “At your side”

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เผยวิสัยทัศน์ปี 2568 ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Brother แตกต่างคือความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลายภาคธุรกิจ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย ทำให้มั่นใจว่า Brother ยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้แม้เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก แต่ยังคงเห็นโอกาสจากกำลังซื้อของภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ภาคค้าปลีกค้าส่ง ธุรกิจเพื่อสุขภาพ โรงพยาบาล การศึกษา และการผลิต รวมถึงงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ดังนั้น ภายใต้กลยุทธ์ “Brother All” ในปีนี้จึงเดินเกมรุกด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ครบวงจร ทั้ง เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน เครื่องพิมพ์ฉลาก จักรปัก เครื่องเสียงภายใต้แบรนด์ BMB เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล และเครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัลระบบ UV อิงค์เจ็ทความละเอียดสูงภายใต้แบรนด์ Domino เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม พร้อมตั้งเป้าขยายธุรกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% ภายในปีนี้ พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำต่อเนื่องด้วยการ รักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในหลากหลายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์จากปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ (Printing Business)
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ (45%)
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันขาวดำ (55%)
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี (51%)
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันสี (45%)
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท A3 ทั่วโลกต่อเนื่อง 17 ปีซ้อน
กลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจภาคขยาย (Business Expansion)
• อันดับ 1 จักรปักสำหรับ SME
• อันดับ 1 จักรเย็บผ้าภายในบ้าน
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์ฉลาก P-touch
• อันดับ 1 เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล Direct-to-Garment GTX
ในขณะด้านกลยุทธ์การขายและการสื่อสาร Brother มุ่งเน้นการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ทุกตัวเข้ากับทุกช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อสร้าง Channel Synergy และเดินหน้าไปสู่การสร้าง Omni Channel อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการเชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ พร้อมการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียในหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram, YouTube, TikTok, Line OA, และ X รวมถึงการใช้กลยุทธ์ SEO & SEM และ Lead Generation เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อ Out Of Home และ Digital Signage เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ อีกทั้งในปี 2568 ยังเตรียมเปิดตัว E-Commerce และ Loyalty Program เพื่อสร้างการสื่อสารที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดตามแนวทาง “At your side” ของ Brother อย่างแท้จริง “เราไม่ได้แค่อยู่เคียงข้างลูกค้า แต่เดินหน้าไปพร้อมกับทุกธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายกิตติพงศ์ กล่าวเสริม

นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาปี 2565 – 2567 Brother ประสบความสำเร็จในการยกระดับบริการหลังการขายผ่านกลยุทธ์ที่ได้มุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากกลยุทธ์ 4C (Customer ,Channel ,Convenience and Community) ที่มุ่งเน้นความสะดวกสบายของลูกค้า การขยายช่องทางบริการ และสร้างชุมชนผู้ใช้ให้แข็งแกร่ง ต่อมาได้พัฒนาเป็น S5 (Standard, Satisfaction, Superior Services, System and Sustainability) ซึ่งยกระดับมาตรฐานบริการให้มีความล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า รวมทั้งกลยุทธ์ 5 Keywords (Standardization, Specialization, Digitization, Modernization and Sustainability) ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการบริการ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยให้บริการสะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ Brother สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า เพิ่มความภักดี และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจล่าสุดเพื่อเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งในการบริการลูกค้าของ Brother จึงได้วางกลยุทธ์ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2568 – 2570 ภายใต้ “CoSE” หรือ Center of Service Excellence ที่มุ่งเน้น 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพการบริการ (Service Quality Assurance) ด้วยมาตรฐาน ISO 18295-1 รวมถึงมาตรฐานด้านการให้บริการและการตรวจสอบครบทุกด้าน (BSQA) ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาการซ่อมผลิตภัณฑ์ วิธีการตอบปัญหา รวมถึงคุณสมบัติของผู้ให้บริการ การให้บริการทั้งในและนอกสถานที่ ตลอดจนทักษะความเชี่ยวชาญในการให้บริการแบบมืออาชีพ รวมถึงยังมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม (Digitalization & Innovation) โดยเสริมสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล รวมถึงการบูรณาการ AI และแชทบอท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าให้ครอบคลุมและทันสมัย อีกด้านสำคัญคือการสร้างความผูกพันกับลูกค้า (Customer Engagement) ซึ่ง Brother จะมุ่งเน้นโปรแกรมเชิงรุกที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เพื่อเพิ่มความภักดีและการรักษาฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง ส่วนสุดท้ายคือการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ที่จะเน้นการเติบโตทางธุรกิจและการขยายบริการ รวมถึงการมีส่วนร่วมกับสังคม ชุมชน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกแง่มุม”

นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและการบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ” Brother มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยมีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยให้ความสำคัญแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เดินหน้าขับเคลื่อนหลากหลายกิจกรรมขององค์กรตามแนวคิด “At Your Side ” และ “Brother Group Environmental Vision 2050” ซึ่งปีนี้ ยังคงมุ่งดำเนินกิจกรรม CSR ต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งด้าน ESG และตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายใต้ 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน (Mangrove Reforestation) ที่ตั้งเป้าหมายการรอดของต้นกล้ามากกว่า 80% และกิจกรรม “Brother Beat Cancer Run” ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 12 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสร้างความตระหนักด้านการดูแลสุขภาพ สอดคล้องไปกับ Golden Ring Project พันธกิจระดับโลกของ Brother ประเทศญี่ปุ่น ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ ซึ่งในปีที่ผ่านมากิจกรรมดังกล่าวสามารถระดมทุนได้กว่า 16.3 ล้านบาท สามารถช่วยผู้ป่วยมะเร็งได้กว่า 975 ราย นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่น ๆ เช่น “No Ocean Waste” และการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบและพร้อมเติบโตร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ที่ใส่ใจลูกค้า สังคมและสิ่งแวดล้อม” นายพรภัค กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและผลิตภัณฑ์ของ Brother เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.brother.co.th รวมถึงช่องทาง Facebook / TikTok / YouTube / Instagram / X / Line Official: Brother Thailand