vivo X200 FE สมาร์ตโฟนไซส์เล็กสเปกเรือธง เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ vivo X200 FE ถือว่าเป็นซีรี่ส์ในระดับเรือธงของทางค่ายแต่มารอบนี้รูปร่างแบบคอมแพ็กต์ลง เน้นพกพาง่ายและจับกระชับมือ มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K พร้อมชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Dimensity 9300+ ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปจนถึงระดับมัลติทาสกิ้ง ด้านกล้องจัดเต็มไม่แพ้รุ่นพี่เพราะมากับเลนส์ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และถือว่าเป็นรุ่นแรกของ X-Series ในบ้านเราที่มาพร้อมกับกล้องหน้า ZEISS ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AUTO Focus ส่วนกล้องหลัง ZEISS 3 เลนส์ โดยเซ็นเซอร์หลักและเลนส์ Telephoto ยังคงใช้รุ่นเดียวกับ vivo X200 นั้นคือ Sony IMX921 VCS Bionic พร้อมกันสั่น OIS ถ่ายสวยคมชัดแน่นอนครับ และเลนส์เทเลแบบใหม่ล่าสุด ZEISS Super Periscope Telephoto ที่การหักเหของแสงแบบตัว M ทำให้ชิ้นส่วนของเลนส์เล็กลงตัวครอบเลนส์ไม่ยื่นออกมา ส่วนเลนส์ Ultra Wide จะอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล เต็มอิ่มด้านความบันเทิงกับลำโพงคู่สเตอริโอ กรอบตัวเครื่องวัสดุแบบอลูมิเนียม อัลลอยด์ ตัวเครื่องทนน้ำทนฝุ่นมาตราฐาน IP68/IP69 ถึงตัวเครื่องจะเล็กและเบาแต่ติดตั้งแบตเตอรี่ BlueVolt มาให้มากถึง 6500mAh และรองรับชาร์จไว 90W
SPEC vivo X200 FE
- หน้าจอแบน พาแนล AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K 1216 x 2640 พิกเซล อัตรารีเฟซเรทสูงสุด 120Hz
- ชิปประมวลผล CPU Dimensity 9300+
- GPU Immortalis G720
- RAM LPDDR5X ขนาด 12GB
- ROM UFS3.1 ขนาด 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15
- กล้องหน้า ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เลนส์ ZEISS
- กล้องหลัง ความละเอียด 50+50+8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ ZEISS ทั้งสามเลนส์
- wifi7
- Bluetooth 5.4 / NFC
- ลำโพงคู่สเตอริโอ
- มาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 & IP69
- แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับชาร์จไว 90W
- ราคา … บาท วางจำหน่าย 4 สีได้แก่ สีดำ Black Luxe, สีเหลือง Yellow Glow, สีฟ้า Blue Breeze และสีชมพู Pink Vibe
อุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง vivo X200 FE
- Adapter ขนาด 90W
- สาย USB-C
- เคสซิลิโคนสีเดียวกับตัวเครื่อง
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบ
vivo X200 FE จะมากับหน้าจอตรง พาแนลแบบ AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K 1216 x 2640 พิกเซล 460PPI อัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz, ความลึกของสีแบบ 10Bit หรือ 1.07 พันล้านสี รองรับการแสดงผลแบบ HDR ขอบเขตสีระดับ DPI-P3 ค่าความสว่างสูงสุด 5000nits พร้อมกับฟังก์ชั่น Smart Eye Protection 2.0 เทคโนโลยีช่วยวิเคราห์และปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับสภาวะแสงรอบข้างแบบเรียลไทม์ หน้าจอผ่านการรับรองมาตราฐาน SGS Certification การันตีการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ, 2160Hz PWM Dimming ปกป้องดวงตา และเพิ่มความสบายในการใช้งานหน้าจอในช่วงกลางคืน
กระจกครอบหน้าจอแบบ Shield Glass ที่ทนต่อฝุ่น ทนน้ำ และกันกระแทก ผ่านการรับรองจาก SGS มั่นใจเรื่องความทนทานได้เลยครับ และขอบหน้าจอมีความบางมากๆ บางเพียง 1.32 มม. แทบจะไร้ขอบด้านข้างกันเลยทีเดียว
เต็มอิ่มด้านความบันเทิงกับลำโพงคู่สเตอริโอ สำหรับการชมหนังผ่าน Netflix ตัวเครื่องรองรับการชมแบบ HDR10+ ด้วยนะครับ ภาพสวยคมชัดมาก มิติภาพคือดีจริง
สำหรับเครื่องที่ผมรีวิวคือ สีฟ้า Blue Breeze และ สีชมพู Pink Vibe โดยกรอบด้านข้างวัสดุแบบอลูมิเนียม อัลลอยด์ โลหะเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ แข็งแกร่งเป็นพิเศษและมีน้ำหนักที่เบาอีกด้วย
ฝาหลังวัสดุแบบกระจก Metallic Sand AG นอกจากวัสดุคุณภาพสูงแล้วงานประกอบคือดีมากๆ ตัวเครื่องสัมผัสถึงความพรีเมียม ผ่านการทดสอบทนน้ำทนฝุ่นมาตราฐาน IP68 & IP69
ขนาดตัวเครื่อง 150.83 x 71.76 x 7.99 มม. น้ำหนัก 186 กรัม ถือใช้งานกระชับมือ
ระบบปฏิบัติการ
vivo X200 FE มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15 โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นเรื่องการใช้งาน AI เป็นหลัก โดยเฉพาะ Gemini ของทาง Google นะครับ และ AI Image Studio การแต่งภาพต่างๆ, AI SuperLink และมี AI สำหรับแจ้งเตือนและบล็อกเบอร์อันตราย
ประสิทธิภาพการทำงาน
vivo X200 FE เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Dimensity 9300+ ขบวนการผลิตแบบ 4nm ความเร็วสูงสุด 2.85GHz / GPU Immortalis G720 ถือว่าเป็นชิปประมวลผลระดับเรือธงตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี สำหรับชุดระบายความร้อนมีพื้นที่แผ่น VC ใหญ่ขึ้นถึง 3,800ตร.มม. ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น
หน่วยความจำ
- RAM 12GB
- ROM UFS3.1 ขนาด 512GB
สำหรับการเล่นเกมจะมี Ultra Game mode เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกมได้ สามารถเล่น Delta Force เปิดสูงสุดได้ด้วยนะครับ เล่นลื่นๆเลย
สามารถใช้งานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ขนาด 6500mAh รองรับชาร์จไว 90W ซึ่งภายในกล่องแถมที่ชาร์จไวมาให้พร้อมใช้งานแล้ว
กล้องถ่ายภาพ
vivo X200 FE ถือว่าเป็นรุ่นแรกของ X-Series ที่มากับกล้องหน้า ZEISS ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ขนาดของเซนเซอร์ 1/2.76″, ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อมระบบ AUTO Focus และไฟแฟลชคู่หน้า รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60fps
โหมดการถ่ายภาพหลังๆจะมี Photo, Portrait, Night, Video, Micro Movie, High Resolution, Live Photo, Dual View สามารถปรับไฟ AURA ได้เหมือนแฟลชด้านหลังนะครับ ทั้งโทนสีและความสว่าง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า vivo X200FE
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าตอนกลางคืนเปิดไฟ AURA
กล้องหลัง มาพร้อมกับ ZEISS All Main Camera ทั้งหมด 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้
- เลนส์หลัก ZEISS 50 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.88 เซนเซอร์ IMX921 พร้อมกันสั่น OIS
- เลนส์เทเลแบบ ZEISS Super Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.65 เซนเซอร์ IMX882 พร้อมกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra Wind ZEISS ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2
จุดเด่นที่น่าสนใจ เลนส์เทเลแบบ ZEISS Super Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ใช้พื้นที่น้อยมากๆ ชุดครอบเลนส์แทบไม่ยื่นออกมา และไฟ AURA พร้อมฟังก์ชั่น AI 3D Studio Lighting สำหรับการจำลองแสงไฟสตูดิโอ
โหมดการถ่ายภาพ หลักๆจะมีดังนี้ Photo, Portrait, Night, Video, Micro Movie, High Resolution, Live Photo, Dual View, Short film mode, Panorama, Ultra-clear document scanning, Quick capture, Food mode, Starry sky mode, Super moon mode, Time-lapse photography
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo X200FE ที่ปรับเลือกพอร์ตเทรตโบเก้สไตล์ ZEISS Cine-Flare
ตัวอย่างภาพถ่าย ระยะปกติและเลนส์มุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่าย ระยะปกติและเลนส์เทเล
ตัวอย่างภาพถ่ายทั่วไป
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน
vivo X200 FE เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายแล้วกับค่าตัว 24,999 บาท สำหรับความจุ 12GB + 512GB ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้