กรุงเทพฯ 8มีนาคม 2566–นอร์เวย์เลื่องชื่อในเรื่องของวิวธรรมชาติอันงดงามและแสงเหนือสุดอลังการ ประเทศแห่งนี้มีแนวชายฝั่งที่ยาวถึง 2,650 กิโลเมตร และวัฒนธรรมการประมงที่ยาวนานนับศตวรรษซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานของผู้คน ธรรมชาติ และความยั่งยืน ประเทศนอร์เวย์นี้ติด 1 ใน 10 อันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก อายุเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 83.21 ปี[1] สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกมาก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ต่อหัวสูง มี‘การสนับสนุนทางสังคม’ ที่ดีในด้านการรักษาพยาบาล ระบบสวัสดิการ ความเท่าเทียมทางสังคม และ ‘อิสระในการเลือกใช้ชีวิต’[2]
บ้านในเมืองโลโฟเทนของคุณน้าทูเน่ เรอร์ทเว็ท
ชาวนอร์เวย์ชื่นชอบการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้การเดินป่า เล่นสกี และขี่จักรยานกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมแม้ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน พวกเขาก็ไม่หวั่น ผู้คนส่วนใหญ่เลือกทำกิจกรรมกลางแจ้งและมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ซึ่งช่วยให้พวกเขาเป็นคนที่มีสุขภาพกายและใจแข็งแรง เมื่อใดที่พวกเขาไม่ได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติ ก็จะเลือกการนั่งล้อมวงบนโต๊ะและกินอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ[3] ไปพร้อม ๆ กับเพื่อนฝูงและสมาชิกในครอบครัว ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมวัฒนธรรมของนอร์เวย์ถึงใกล้ชิดกับอาหารมาก โดยเฉพาะอาหารทะเล เพราะประเทศแห่งอาหารทะเลนี้เป็นผู้บุกเบิกการประมงปลาคอดแอตแลนติก พันธุ์ปลาที่เป็นต้นตอของการก่อตั้งรกรากเรียบแนวชายฝั่ง ไปจนถึงแซลมอนแอตแลนติกที่เป็นของโปรดของผู้คนทั้งโลก
เมนูอาหารทะเลที่บรรจงเขียนด้วยมือ
ที่นอร์เวย์มีวัตถุดิบอาหารเปี่ยมคุณภาพมากมาย ปลา ผัก และผลิตภัณฑ์จากนมวัว สดและมีมาตรฐานการผลิตที่สูง ชาวนอร์เวย์จึงชอบทำอาหาร คนส่วนใหญ่ไม่นิยมกินอาหารนอกบ้านเพราะมีราคาแพง ช่วงฤดูหนาวผู้คนจะทำอาหารกินเอง ผิงไฟอุ่น ๆ อยู่ที่บ้าน พวกเขามักจะสร้างบ้านให้น่าอยู่ มีพื้นที่ใช้สอยกว้าง จะได้เชิญแขกมาบ้านได้เยอะ ๆ บางครั้งเกือบ 30 คนต่อหนึ่งมื้อ ! แต่ละห้องตกแต่งสวยงาม มีเก้าอี้ โซฟา ให้คนนั่ง เครื่องจานชามวางโชว์ และปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามา หลาน ๆ ที่ย้ายออกจากเมืองเพื่อไปทำงานหรือท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็จะกลับมาเยี่ยมเยียนและเล่าเรื่องราวการเดินทางให้กับญาติผู้ใหญ่ฟัง การที่ครอบครัวชอบมาสังสรรค์และกินอาหารอร่อย ๆ กัน ทำให้ไม่เหงาดี
ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์นักแสดงชื่อดังลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ และพรีเซนเตอร์คนแรกของ Seafood from Norwayในประเทศไทย ได้มีโอกาสไปเยือนหมู่เกาะโลโฟเทนที่นอร์เวย์เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านอาหารทะเล คุณน้าทูเน่ เรอร์ทเว็ท ซึ่งเป็นคุณครูที่เป็นที่รักและเคารพของคนในหมู่บ้านได้เปิดบ้านต้อนรับ ญาญ่า ให้ได้ลิ้มรสชาติมื้ออาหารทะเลพร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศอบอุ่นในช่วงบ่ายของฤดูใบไม้ร่วง เมนูถูกบรรจงเขียนด้วยลายมือวางอยู่ข้างหน้าเตาผิง ไล่เรียงอาหารแต่ละจานที่ฟังแล้วต้องน้ำลายสอ ไม่ว่าจะเป็น แซลมอนรมควันกับไข่คน นอร์วีเจียนซาบะกับมะเขือเทศขนมปังข้าวไร และแตงกวา วาฟเฟิลมันฝรั่ง ไข่ปลาคอดรมควัน ซาวครีม ผักชีฝรั่ง และหัวหอม ทอดมันปลา สลัดแครอท และซอสเรมูลาร์ด
บรรยากาศการพูดคุยในมื้ออาหาร
แซลมอนรมควันกับไข่คน
วาฟเฟิลมันฝรั่ง ไข่ปลาคอดรมควัน ซาวครีม ผักชีฝรั่ง และหัวหอม
ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์แชร์ประสบการณ์มื้ออาหารที่บ้านคุณน้าทูเน่ “อาหารมื้อนี้ทำให้ญาญ่าคิดถึงคุณยายมาก ๆ เลยค่ะ คุณยายจะชอบทำอาหารเลี้ยงพวกเรา เด็ก ๆ ก็จะนั่งล้อมโต๊ะ ช่วยกันเขียนเมนูและการ์ดเล็ก ๆ ไว้แปะตามจานอาหารแบบที่คุณน้าทูเน่ทำเลย จะมีเครื่องดื่มน้ำใส่ผลไม้รสเปรี้ยวให้จิบระหว่างที่พวกเรานั่งคุยและหัวเราะไปด้วยกัน ญาญ่ามองว่าวัฒนธรรมไทยและนอร์เวย์มีความคล้ายคลึงกันมากโดยเฉพาะเรื่องครอบครัวและอาหาร นี่คือช่วงเวลาอันมีค่าที่ทำให้ครอบครัวผูกพันกันผ่านมื้ออาหารแสนอร่อย ญาญ่ามีความสุขมากทุกครั้งที่มานอร์เวย์เพราะได้สัมผัสประสบการณ์อบอุ่นใจแบบนี้ค่ะ”
ญาญ่าและครอบครัว ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
เมื่อปลายปีที่แล้ว ญาญ่า และสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ได้จับมือเปิดตัวแคมเปญ ‘The Story from the North’ เพื่อเล่าเรื่องราวของผู้คน ธรรมชาติ และความยั่งยืนของประเทศนอร์เวย์ น้อยคนที่จะรู้ว่าอาหารทะเลอย่างแซลมอน ฟยอร์ดเทราต์ และนอร์วีเจียนซาบะ ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย มาจากประเทศนอร์เวย์ คลิปวิดีโอความยาว 2.40 นาที จึงเป็นตัวแทนที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวของนอร์เวย์ผ่านสายตาของ ญาญ่า-อุรัสยา ที่ได้เดินทางไปนอร์เวย์เพื่อกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว ลองทำอาหารไทยกับเชฟเทเรียร์ ออมมุนเซนต์ ที่กรุงออสโล เห็นถึงความใส่ใจในความยั่งยืนและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่กระชังปลาแซลมอนแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ล่าสุดใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติกที่เวสเตอโรลน์เดินขึ้นเขาที่โลโฟเทน ล่าแสงเหนือสุดอลังการ และสัมผัสประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจกับคนท้องถิ่นที่ได้เจอตลอดทาง
แซลมอนย่าง ยำส้มโอ
นอร์เวย์ยังเป็นประเทศที่สร้างเทรนด์ซูชิแซลมอน[4] หนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่เป็นอาหารจานโปรดของผู้คนทั่วโลก ภายใต้ไอเดียของโปรเจ็กท์เจแปน เมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว ในวันนี้ วัตถุดิบยอดนิยมอย่างแซลมอนได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารหลากหลายเชื้อชาติ ด้วยเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ปรุงได้แตกต่าง พูดได้ว่าแซลมอนเปรียบเสมือนทูตจากประเทศนอร์เวย์ที่ทำให้เกิดการทำอาหารแบบ ‘East meets West’ หรือการผสมผสานอาหารตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน สำหรับอาหารไทยเอง แซลมอนก็เป็นตัวชูโรงที่ช่วยให้รสชาติจัดจ้านยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก เมนูเด็ด ๆ ที่น่าจะคุ้นกัน เช่น ยำแซลมอน และแซลมอนย่าง ยำส้มโอ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศไทยและนอร์เวย์เชื่อมโยงผู้คนผ่านความหลงใหลในอาหารหยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของทั้งสองประเทศ
[1]https://data.worldbank.org/indicator/SP.DYN.LE00.IN?locations=NO
[2]https://www.thelocal.no/20220323/why-are-norwegians-among-the-happiest-people-in-the-world#:~:text=Overall%2C%20Norway%20was%20rated%207.365,the%20%22life%20expectancy%22%20one.
[3] WHY IS THE QUALITY OF LIFE IN NORWAY SO GOOD? – https://norwayomega.com/blog/why-is-the-quality-of-life-in-norway-so-good/
[4] The history of farmed salmon in Norway, Medium, Moritz Mueller – https://medium.com/hatch-blue/the-history-of-farmed-salmon-in-norway-84fc7fd27651