แคนนอนประกาศความพร้อมครองอันดับ 1 ตลาดพรินเตอร์ไทย ชูจุดแข็ง Supply จัดเต็มรุกทุกเซกเมนต์เน้น B2B เสิร์ฟธุรกิจทุกขนาด พร้อมเปิดแคมเปญการตลาดแห่งปี “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์”

ตอบโจทย์การทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ง่ายดายด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 กลุ่ม

ทั้ง GSeries – Mini Ink, Business Ink Tank, Laser Printers และ Desktop Large Format

กรุงเทพฯ11 พฤษภาคม2566 – บริษัทแคนนอนมาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon)จัดงานแถลงข่าวครั้งสำคัญเผยความสำเร็จและแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้แคนนอนครองตำแหน่งพรินเตอร์อันดับ 1 ของเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2020 รวมถึงปี 2022 ที่ผ่านมา และเปิดแผนกลยุทธ์ปี 2023เพื่อรุกตลาดพรินเตอร์ไทยเจาะกลุ่มลูกค้าในทุกเซกเมนต์ โดยปีนี้เน้นกลุ่ม B2B หลังผ่านพ้นภาวะการแพร่ระบาด พร้อมประกาศแคมเปญการตลาดแห่งปี“แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์” ภายในงานยังมีการจัด Products and Solutions Showcaseเพื่อโชว์ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานของผู้บริโภคทุกระดับพร้อมเปิดตัวพรินเตอร์ซีรีย์ใหม่ ได้แก่ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์รุ่นG Series แบบ‘มินิอิงค์’(G-Series – Mini Ink), อิงค์เจ็ทพรินเตอร์แบบหมึกแทงค์เพื่อธุรกิจ (Business Ink Tank), เลเซอร์พรินเตอร์ (Laser Printers) และพรินเตอร์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะ (Desktop Large Format)

มร.ฮิโรชิโยโกตะประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหารบริษัทแคนนอนมาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แคนนอนพร้อมกลับมาครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์พรินเตอร์อีกครั้ง หลังจากที่เราสามารถครองตำแหน่งผู้นำพรินเตอร์อันดับ 1 ของตลาดเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2000 รวมถึงปี 2022 ที่ผ่านมาซึ่งแคนนอนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 32% เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่งแบบขาดลอย และสำหรับในปี 2023 นี้ แคนนอนขอประกาศความพร้อมในการตอบสนองของลูกค้าพรินเตอร์ได้ครบทุกเซกเมนต์ผ่านการดำเนินงานที่สมบูรณ์แบบใน 4 ด้าน ได้แก่ความเข้าใจในDemand (อุปสงค์)ของลูกค้าทุกกลุ่มการยกระดับSupply (อุปทาน)ให้เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอนซึ่งก็คือProduct (ผลิตภัณฑ์)คุณภาพสูงที่ใช้ง่ายไม่มีสะดุดรวมไปถึงการมีService Partner (พันธมิตรผู้ให้บริการ) โดยกล่าวได้ว่าแคนนอนเป็นแบรนด์พรินเตอร์ที่มีสาขาให้บริการมากที่สุดถึง 164 แห่งครอบคลุม77 จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์พรินเตอร์ชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งเราตั้งใจจะเพิ่มให้ได้ถึง 180 แห่งภายในปีนี้ เพื่อยกระดับความอุ่นใจและความสะดวกสบายแก่ลูกค้าแคนนอนในทุกภูมิภาค”

เผยทิศทางธุรกิจพรินเตอร์แคนนอนในปี 2023

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2023 ผู้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน เริ่มกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านและออกไปทำงานกันตามปกติมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B)อย่างชัดเจน ในขณะที่ลูกค้ารายบุคคล (B2C) เริ่มมีอัตราเติบโตคงที่ ประกอบกับข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ประจำปี 2022 แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาด โดยจำนวนผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มจาก58,058รายในปี2021เป็น72,480รายในปี2022ซึ่งในจำนวนนี้คิดเป็นธุรกิจก่อสร้างทั่วไป 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์6% และธุรกิจอาหาร4%

“แคนนอนเล็งเห็นว่าธุรกิจ SMEs จะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมาก จึงต้องการสนับสนุนการใช้งานพรินเตอร์ของลูกค้ากลุ่มB2B มากเป็นพิเศษ ทำให้ทิศทางการพัฒนาและเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่จะพุ่งเป้าหมายไปที่ลูกค้าเหล่านี้” มร.ฮิโรชิโยโกตะ กล่าว “อย่างไรก็ดี เนื่องจากแนวคิดความยืดหยุ่นของสถานที่ปฏิบัติงานและการทำงานที่บ้าน (Work from Home)ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทำให้เรายังเห็นถึงความสำคัญของลูกค้ากลุ่ม B2Cซึ่งแคนนอนเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมากในตลาด B2C มาอย่างยาวนาน และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อลูกค้ากลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง”

กล่าวได้ว่าแคนนอนพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าพรินเตอร์ครบทุกเซกเมนต์ ซึ่งในปัจจุบัน แคนนอนนำเสนอพรินเตอร์ทั้งINKJET Printer ได้แก่ TS Series, G Series, E Series, GX Series และ LASER Printerทั้งสีและขาวดำที่สามารถตอบทุกความต้องการตั้งแต่การใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจทุกขนาดและหน่วยงานภาครัฐได้อย่างครบครัน

เปิดตัวแคมเปญการตลาดแห่งปี “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์”

“แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แคนนอนยึดมั่นมาโดยตลอดคือความง่ายSimple to Use”เพราะเราตระหนักดีว่าชีวิตการทำงานในปัจจุบันมีความยุ่งยากมากพอแล้วพรินเตอร์จึงต้องเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดอีกทั้งการใช้งานที่ไร้ปัญหากวนใจย่อมทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้จริงๆแนวคิดเหล่านี้จึงเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดประจำปีของแคนนอนนั่นคือ“แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วย แคนนอนพรินเตอร์” นางสาวเนตรนรินทร์จันทร์จรัสสุขผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่นบริษัทแคนนอนมาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว

แคนนอนคำนึงถึงพฤติกรรมผู้ใช้งาน (Consumer behavior basis) ในการพัฒนาสินค้าและแก้ไขPain pointของการใช้พรินเตอร์ในแต่ละกลุ่มเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ามากที่สุดผ่านการพิจารณาผู้ใช้งาน5กลุ่มหลักเพื่อส่งมอบมูลค่า(Value)ที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานซึ่งได้แก่

  • นักเรียนนักศึกษา>>งบประมาณน้อย>> Value: ลงทุนครั้งเดียวประหยัดตลอดไป
  • ผู้ใช้งานในครัวเรือน>>การใช้งานมากน้อยต่างกันในแต่ละวัน>> Value: ใช้ง่ายได้ทุกคนยังไงก็คุ้ม
  • พนักงานบริษัทหรือสตาร์ตอัป>> ใช้ไม่เป็นซ่อมเองไม่ได้ ปัญหาเยอะ >>Value: ใช้ง่ายซ่อมก็ยังง่าย
  • ธุรกิจขนาดเล็กSMEs>> งานพิมพ์ซับซ้อนหลายประเภท >>Value: ประหยัดเวลา ทำให้ธุรกิจง่ายขึ้น
  • มืออาชีพขั้นสูง>>ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูง>>Value: งานโปรแค่ไหนก็ง่าย

และเพื่อตอบโจทย์ด้านการใช้งานที่ง่ายสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่มภายในงานแคนนอนจึงได้เปิดตัวสินค้าใหม่ใน4กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่

  • MINI INK (รุ่นG1730, G2730และG3730) รองรับผู้ใช้งานกลุ่มB2C โดยเฉพาะรวมถึงกลุ่มB2B ระดับต้นเช่นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กชูจุดเด่นการลดต้นทุนค่าหมึกผู้ใช้งานยังสามารถเปลี่ยนหัวพิมพ์และแผ่นซับหมึกเองได้โดยที่ยังคงได้งานพิมพ์คุณภาพดีที่คุ้มค่าสุงสุด
  • BUSINESS INK TANK (รุ่นGX3070และGX4070) จับกลุ่มB2B ที่เป็นธุรกิจSMEs หรือHome Office ที่มีการใช้งานมากกว่าในครัวเรือนโดยมอบงานพิมพ์คุณภาพสูงขึ้นแต่ยังคงความคุ้มค่าใช้งานและดูแลรักษาง่าย
  • LASER FULL RANGEในครึ่งปีแรกนี้แคนนอนเปิดตัวเครื่องพิมพ์เลเซอร์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง13รุ่น
    • เลเซอร์พรินเตอร์6 รุ่นได้แก่LBP121dn/LBP122dw/ LBP361dw / LBP456w / LBP458x / LBP 722cx
    • เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน7 รุ่นได้แก่ MF271dn / MF272dw / MF274dn / MF275dw / MF264dwII / MF266dnII / MF269dwII

พร้อมตอบโจทย์ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงระดับเอ็นเตอร์ไพรส์โรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาลหรือแม้แต่หน่วยงานรัฐบาลขนาดใหญ่

  • DESKTOP LARGE FORMAT (รุ่นTC-20M) ตอบโจทย์งานพิมพ์หน้ากว้างที่จัดวางได้ในสำนักงานทุกขนาดพร้อมมอบประสิทธิภาพและความคุ้มค่าเหนือแบรนด์คู่แข่ง

ภายในงานแถลงข่าว “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์ ยังได้มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันแก่ดีลเลอร์ชั้นนำในประเทศ เพื่อนำเสนอโซลูชันการพิมพ์หลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งกลุ่มB2C, B2B และB2G อย่างครบครันตลอดจนแคมเปญส่งเสริมความยั่งยืนอย่างRecycle Campaign รวมถึงบริการVending Machine และอื่นๆอีกมากมายเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าและพันธมิตรทุกฝ่ายว่าแบรนด์แคนนอนได้กลับมาครองบัลลังก์เครื่องพิมพ์ตลาดเมืองไทยอย่างแท้จริง และยังเป็นแบรนด์เดียวที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ครบทุกเซกเมนต์ด้วย Supply สินค้าแบบจัดเต็มและศูนย์บริการที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่https://youtu.be/yiPC9zn6X2o

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *