GARMIN เปิดตัว 2 อุปกรณ์ใหม่เอาใจสายปั่น Edge 550 / 850 และ Rally 110 / 210 ตัวช่วยติดตามและยกระดับสมรรถนะการปั่นให้ไปได้ไกลกว่าที่เคย

  • Edge 550 และ 850 คอมพิวเตอร์จักรยานขนาดกะทัดรัด จัดเต็มฟีเจอร์เพื่อการเตรียมตัวและการฝึกซ้อมขั้นสูง
  • Rally 110 และ 210 บันไดวัดวัตต์รุ่นใหม่ คล่องตัว ตอบสนองไวพร้อมรองรับทุกการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
กรุงเทพฯ (7 ต.ค. 68) – GARMIN ผู้ส่งมอบที่สุดของความหลากหลายทางเทคโนโลยี GPS ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง เอาใจนักปั่นด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 550 และ 850 และบันไดวัดวัตต์ Rally 110 และ 210 อุปกรณ์สำหรับการปั่นจักรยานที่มาพร้อมเทคโนโลยีติดตามและบันทึกข้อมูลพร้อมให้คำแนะนำเพื่อผลักดันประสิทธิภาพการปั่นให้ไปได้ไกลและดียิ่งกว่าที่เคย Edge 550 และ 850 เป็นคอมพิวเตอร์จักรยานขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยติดตามความก้าวหน้าของแผนการฝึกซ้อมที่ปรับเปลี่ยนได้จาก Garmin Cycling Coach โดยในระหว่างการปั่นจักรยานระบบแจ้งเตือนการเติมพลังงานอัจฉริยะ (Smart fueling alerts)1 จะให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการดื่มน้ำเฉพาะบุคคล พร้อมข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ที่จะแสดงผลพร้อมกันตลอดเส้นทางโดยไม่ต้องสลับหน้าจอ2 เพื่อให้นักปั่นได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนตั้งแต่เริ่มจนจบ ส่วนบันไดวัดวัตต์รุ่นใหม่ล่าสุด Rally 110 และ 210 ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักปั่นติดตามข้อมูลกำลังขาพร้อมสมรรถนะในการปั่นได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น บันไดวัดวัตต์แบบขาเดียวและแบบขาคู่ยังสามารถสลับระหว่างการปั่นบนถนนและทางวิบาก รวมถึงระหว่างจักรยานได้อย่างง่ายดาย พร้อมฟีเจอร์ Pedal IQ Smart Calibration ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ปั่นเมื่อถึงเวลาที่ควรปรับเทียบบันไดใหม่3 ยังมากับแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว และใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 90 ชั่วโมง ทั้งยังมีโหมดเดินทางซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ด้วยการเข้าสู่โหมดพักระหว่างการเดินทาง ช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับนักปั่นจักรยาน อุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยในการติดตามสมรรถนะในการปั่นเพื่อให้คำแนะนำในการพัฒนาศักยภาพของนักปั่นได้ก็คือคอมพิวเตอร์และบันไดจักรยาน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการนำทาง เก็บข้อมูลที่จำเป็น พร้อมมอบคำแนะนำในการปั่นจักรยานที่มีประสิทธิภาพจากการประมวลด้วยข้อมูลที่มี การ์มินจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และต่อยอดเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับ 2 อุปกรณ์นี้ จนนำมาสู่การเปิดตัวคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 550 และ 850 และบันไดวัดวัตต์ Rally 110 และ 210 ที่ครบครันด้วยฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการปั่นจักรยาน เช่น คำแนะนำด้านโภชนาการและการดื่มน้ำเฉพาะบุคคล กำลังขาและรอบขาในระหว่างการปั่น ทำให้นักปั่นมั่นใจได้เลยว่า จะมีเพื่อนคู่ใจที่พร้อมพัฒนาประสิทธิภาพการปั่นไปด้วยกันในทุกเส้นทาง”
 
Garmin ยังเพิ่มความพิเศษให้กับการเปิดตัว 2 อุปกรณ์ใหม่สำหรับนักปั่นชาวไทยในครั้งนี้ โดยได้ดึงคุณหนองน้ำ – อัญชลี คักคะนา ศิลปิน illustrator ชื่อดัง ร่วมนำเสนอจุดเด่นต่างๆ ของทั้ง 2 อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสีสันสดใส / ระบบ GPS ที่แม่นยำ / ฟีเจอร์ Smart fueling alert / ลำโพงและกระดิ่งจักรยานของคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 550 และ 850รวมทั้งฟีเจอร์การชาร์จเร็วของบันไดวัดวัตต์ Rally 110 และ 210 ผ่านลายเส้นสไตล์ Unchale ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณหนองน้ำ จนออกมาเป็นภาพ Key Visual สีสันสดใสสะท้อนความสนุกของการปั่นจักรยาน
นอกจากนี้ Garmin ยังได้จัดกิจกรรม Never Stop Cycling Together with Unchale ณ สนามลู่ปั่นเจริญสุขมงคลจิต เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้ชวนเหล่า Garmin Cycling Club Ambassador ทั้ง 4 คน อันประกอบด้วย คุณมอ – มรกต กรพิพัฒน์ / คุณเม – หงส์ปพัศ หงษาชุม / คุณบี – วาทินี ยุทธโยธิน และคุณเก๋ – สลักฤทัย อิงคกิตติ พร้อมด้วยคุณประวีณศรี ทองใหญ่ ไตรประคอง ผู้อำนวยการฝ่ายท่องเที่ยว บริษัท สิงห์ปาร์คเชียงรายและทีมนักปั่นจากงาน Chiang Rai Road Classic (CRC) กว่า 20 คน และคุณหนองน้ำ – อัญชลี คักคะนา ร่วมพูดคุยถึงโปรเจคการคอลแลปส์ร่วมกับ Garmin และปิดท้ายด้วยการประกาศความร่วมมือกับ Chiang Rai Road Classic ในการเป็นผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรม Chiang Rai Road Classic 2025 พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าใหม่ของ Garmin ผ่านทาง Facebook CRC 10 ท่านแรก จะได้รับสิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน Chiang Rai Road Classic 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2568 ณ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
 
อุ่นใจในทุกการปั่นด้วยคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 550 และ 850 (Ride with peace of mind)
Edge 550 และ 850 มาพร้อมหน้าจอสีสันสว่างสดใสขนาด 2.7 นิ้ว ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และแสดงแผนที่นำทางได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 36 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงานและสูงสุดถึง 12 ชั่วโมงในโหมดการใช้งานหนัก พร้อมรองรับนักปั่นตลอดเส้นทางที่ยาวนานได้อย่างมั่นใจ Edge 550 และ 850 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการ์มิน เพื่อช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับนักปั่น โดยสำหรับนักปั่นที่ใช้งาน Edge 850 จะสามารถส่งสัญญาณเตือนคนเดินถนนและนักปั่นคนอื่นๆ ได้ว่ามีจักรยานกำลังเข้าใกล้ด้วยกระดิ่งดิจิทัล Edge 550 และ 850 ยังแจ้งเตือนนักปั่นถึงอันตรายบนท้องถนนที่ถูกแจ้งรายงานโดยนักปั่นคนอื่นๆ ที่ใช้อุปกรณ์ของการ์มิน และยังเปิดโอกาสให้นักปั่นรายงานข้อมูลเพิ่มเติมได้เช่นกัน2 ครอบครัวและเพื่อนๆ ยังสามารถติดตามตำแหน่งของนักปั่นแบบเรียลไทม์ได้ผ่าน LiveTrack2 ขณะที่ฟีเจอร์ตรวจจับเหตุการณ์จะส่งข้อความพร้อมตำแหน่ง4 ไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินหากมีเหตุอันตรายเกิดขึ้น คอมพิวเตอร์จักรยานทั้งสองรุ่นนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับกล้องและเรดาร์ Varia™ ซึ่งจะแจ้งเตือนนักปั่นด้วยเสียงเมื่อตรวจพบยานพาหนะที่กำลังเข้ามาใกล้ พร้อมบันทึกวีดิโอขณะปั่น โดยนักปั่นสามารถควบคุมการตั้งค่าไฟหรือกล้องได้อย่างง่ายดายจากหน้าจอแสดงผล
Edge 550 และ 850 จัดเต็มฟีเจอร์เพื่อผลงานที่ท็อปฟอร์มตั้งแต่เริ่มจนจบ (Peak performance from start to finish)
 
  • เสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักปั่น ด้วยแผนการฝึกซ้อมฟรีจาก Garmin Cycling Coach ในแอป Garmin Connect ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามเส้นทางที่ต้องการ รวมถึงการติดตามการฝึกซ้อมและการฟื้นตัวของนักปั่น1 พร้อมคำแนะนำในการปรับแผนการซ้อมที่เหมาะสม
  • นักปั่นสามารถดูพัฒนาการสมรรถนะในการปั่น (Cycling ability) ของตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยให้นักปั่นเข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับสมรรถนะที่ต้องใช้ตามเส้นทางที่ปั่นได้อย่างชัดเจน
  • ระบบแจ้งเตือนการเติมพลังงานอัจฉริยะ (Smart fueling alerts) คอยเตือนให้นักปั่นดื่มน้ำและเติมพลังงานในระหว่างการปั่นจักรยานโดยประมวลจากความฟิตในปัจจุบัน พลังงานที่ต้องใช้ในการปั่นตลอดเส้นทาง ความร้อน และความชื้น2 เมื่อใช้ฟีเจอร์ Power Guide หรือทำตามแผนการฝึกซ้อมที่กำหนดไว้
  • ติดตามสภาพอากาศระหว่างการปั่น เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์อัปเดตสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่จะมีข้อมูลทิศทางลมและภาพเรดาร์สภาพอากาศซ้อนทับบนแผนที่ให้ผู้ใช้สามารถดูได้ในหน้าจอเดียว
  • ฟีเจอร์ GroupRide อัพเกรดใหม่ จากเดิมที่สามารถให้นักปั่นสามารถแข่งขัน สื่อสาร และเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมกลุ่ม ได้เพิ่มเติมการแสดงข้อมูลความเร็ว อัตราการเต้นหัวใจ พละกำลัง รอบขา (Cadence) และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย ให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลกันในกลุ่มนักปั่น2 ได้อีกด้วย
  • หลังเสร็จสิ้นการปั่น นักปั่นสามารถตรวจสอบข้อมูลสรุปผลการปั่น (Post-ride summary) เพื่อดูเวลาที่ใช้ในแต่ละเกียร์ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Gear Ratio Analysis (เมื่อเชื่อมต่อกับระบบเกียร์อิเล็กทรอนิกส์)
  • สำหรับนักปั่นที่ชอบลุยเส้นทางธรรมชาติ โปรไฟล์การปั่นจักรยานเสือภูเขา (Mountain bike ride profiles) จะช่วยติดตามสมรรถนะการปั่นได้ดียิ่งขึ้น โปรไฟล์ Enduro และ Downhill ยังรองรับการบันทึก GPS ที่ความถี่ 5 Hz ขณะลงเขา ทำให้นักปั่นสามารถดูเส้นทางที่เลือกได้อย่างละเอียด พร้อมฟีเจอร์ Timing Gates ที่ช่วยแสดงเวลาการปั่นแบบแยกต่อรอบหรือแต่ละเส้นทางได้แบบเรียลไทม์
พิเศษเฉพาะ Edge 850 (Get even more from Edge 850)
  • ลำโพงในตัว: ทำหน้าที่เป็นกระดิ่งดิจิทัลสำหรับนักปั่น นำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวพร้อมเสียง การแจ้งเตือนการออกกำลังกาย และอื่นๆ อีกมากมาย
  • หน้าจอสัมผัสตอบสนองไว: นอกจากปุ่มกด นักปั่นยังสามารถใช้หน้าจอสัมผัสเพื่อเลื่อนและซูมแผนที่ เพื่อดูรายงานอุบัติเหตุหรือสิ่งกีดขวางบนถนนได้อย่างรวดเร็ว และสลับหน้าจอได้อย่างง่ายดาย
  • ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส Garmin Pay: นักปั่นสามารถชำระค่าอาหารว่างหรือกาแฟระหว่างการปั่นได้ง่าย ๆ เพียงแตะชำระด้วย Edge5
  • เครื่องมือสร้างเส้นทาง: นักปั่นสามารถสร้างเส้นทางแบบจุดต่อจุดได้โดยตรงบนอุปกรณ์ ผ่านหน้าจอสัมผัส

เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าเดิมด้วยบันไดวัดวัตต์ Rally 110 และ 210 (Unlock even more insights)
แม้ว่าบันไดวัดวัตต์Rally 110 จะสามารถเก็บข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาการปั่นอย่างกำลังขาและรอบขาได้อยู่แล้ว แต่สำหรับนักปั่นที่อยากอัปเกรดสู่ระบบตรวจวัดแบบขาคู่ ก็สามารถเลือกใช้ Rally 210 เพื่อเข้าถึงข้อมูลการปั่นเชิงลึกที่มากขึ้นได้ อาทิเช่น ความสมดุลระหว่างขาซ้ายและขวา ระยะเวลาในการปั่นด้วยท่านั่งเทียบกับท่ายืน และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์ใน Rally 110 และ 210 ที่นักปั่นจะต้องหลงรัก (Top features cyclists will love)
  • ง่ายต่อการสลับเปลี่ยน: ถอดสลับมิเตอร์วัดกำลังระหว่างการปั่นบนท้องถนนและการปั่นวิบาก รวมถึงระหว่างจักรยานแต่ละคันได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือมาตรฐานทั่วไป
  • แบตเตอรี่แบบชาร์จได้: ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะ Rally 110 และ 210 สามารถชาร์จซ้ำได้และใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุด 90 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และหากใช้การชาร์จแบบด่วนเพียง 15 นาที นักปั่นก็สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมง
  • ตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำ: แกนเซ็นเซอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ช่วยให้บันไดตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างแม่นยำในระดับความคลาดเคลื่อน ±1% อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับใบจานโซ่รูปวงรี (Oval chain rings) เพื่อการวัดผลที่แม่นยำในทุกการปั่น
  • ดีไซน์โฉมใหม่: แป้นบันไดสำหรับการปั่นบนถนนรุ่น RS และ RK มาพร้อมดีไซน์ใหม่ด้วยวัสดุคาร์บอนโพลีเมอร์ ส่วนแป้นบันไดสำหรับปั่นบนทางวิบากรุ่น XC จะมีโครงสร้างเป็นโลหะทั้งหมดเพื่อเสริมความทนทาน พร้อมค่าความสูงของรองเท้า (Stack Height) ที่ต่ำลง เพื่อช่วยให้นักปั่นมีระยะห่างจากก้อนหินและรากไม้มากยิ่งขึ้น
  • โหมดการเดินทาง: ปิดการทำงานของบันไดวัดวัตต์ให้เข้าสู่โหมดพัก เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทาง
  • Pedal IQ Smart Calibration: ระบบจะแจ้งเตือนนักปั่นเมื่อถึงเวลาที่ควรปรับเทียบบันไดใหม่ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ระยะเวลาในการปรับเทียบบันไดครั้งล่าสุด และการสลับแป้นบันไดไปใช้กับจักรยานคันอื่น
  • ฟีเจอร์ Force Data: รับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมรรถนะการปั่นและความสัมพันธ์ระหว่างกำลังขากับรอบขา (Cadence) เมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จักรยานหรือสมาร์ทวอทช์ของการ์มินที่รองรับการใช้งานร่วมกัน
บันไดวัดวัตต์ทั้งสองรุ่น Rally 110 และ 210 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับบันไดคลีท (Cleats) ทั้งรุ่น SHIMANO SPD / SHIMANO SPD-SL และ LOOK KEO โดยบันไดวัดวัตต์ Rally 210 มีวางจำหน่ายทั้งแบบเป็นเซ็ตสำหรับการปั่นบนถนนและการปั่นแบบวิบาก สามารถเลือกได้ทั้งบันไดสำหรับการปั่นบนถนนแบบตรวจวัดขาคู่รุ่น RS หรือ รุ่น RK และการปั่นแบบวิบากรุ่น XC ในชุดเดียว นอกจากนี้นักปั่นยังสามารถซื้อแป้นบันไดรุ่น RS / RK หรือ XC แยกต่างหากได้อีกด้วย
Edge 550 / Edge 850 / Rally 110 และ Rally 210 พร้อมให้นักปั่นชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของการ์มินทุกสาขา โดย Edge 550 มาในราคา 15,890 บาท Edge 850 มาในราคา 18,990 บาท ส่วน Rally 110 แบบวัดวัตต์ขาเดียว มาในราคา 23,990 บาท และ Rally 210 แบบวัดวัตต์ขาคู่ มาในราคา 38,790 บาท ติดตามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.garmin.com/th-TH/c/sports-fitness/cycling-bike-computers-bike-radar-power-meter-headlights/ หรือที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และ อินสตาแกรม Garmin Thailand
1  เมื่อปั่นโดยใช้ร่วมกับบันไดวัดวัตต์และเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่รองรับ
2 เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่รองรับและแอปพลิเคชัน Garmin Connect
3 เมื่อจับคู่กับคอมพิวเตอร์จักรยานหรือสมาร์ทวอทช์ของการ์มินที่รองรับการใช้งานร่วมกัน
4 เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ สำหรับข้อกำหนดและข้อจำกัดของคุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตาม โปรดดู Garmin.com/safety.
5  ดูข้อมูลประเทศ เครือข่ายการชำระเงิน และธนาคารผู้ออกบัตรที่รองรับในปัจจุบัน

Loading