ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักด้านประสิทธิภาพทางการตลาดและการสร้างความประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าทั่วโลก AI ยังคงมอบวิธีการใหม่ๆ ให้ธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลกสามารถเพิ่มการเติบโตและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้ได้สูงสุด ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมไปจนถึงการสร้างแคมเปญโฆษณาและการส่งข้อความทางธุรกิจ (Business Messaging) ถึงผู้รับจำนวนมาก จากรายงานล่าสุดของ Meta ร่วมกับ Deloitte ในหัวข้อ “เอไอสำหรับธุรกิจ: แนวโน้มการใช้แพลตฟอร์ม AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” (AI for Business: APAC Trends in AI-Platform Adoption) พบว่า 77% ของธุรกิจไทยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในกระบวนการดำเนินงานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้า (69%) หรือการหาลูกค้าใหม่ (51%) สะท้อนถึงความพร้อมและเปิดรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง
ในงาน Meta Marketing Summit ประจำปีนี้ ซึ่งเป็นงานสัมมนาสำหรับเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดมืออาชีพในประเทศไทย Meta ได้นำเสนอนวัตกรรมด้านการตลาดล่าสุด และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมแกร่งให้กับธุรกิจไทยด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อผลักดันการเติบโตและยกระดับอิทธิพลทางเศรษฐกิจของไทยบนเวทีระดับโลก
คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย เน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการนำ AI มาใช้ โดยกล่าวว่า “Meta เชื่อในศักยภาพของ AI ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจทุกขนาด งาน Meta Marketing Summit ในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมมือกับธุรกิจไทย และส่งมอบเครื่องมือและความรู้ในการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ในการยกระดับการบริการลูกค้า ปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้าง ROI ได้อย่างมีนัยสำคัญ ธุรกิจจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการปิดการขาย (Conversion) ได้ง่ายขึ้นด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมีความเป็นอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรต่างๆ ทำให้ Meta เป็นที่ที่ดีที่สุดที่จะมอบเครื่องมือการสร้างสรรค์ที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์จริง ที่สำคัญ เครื่องมือ AI เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับทีมนักการตลาดในประเทศ โดยเปิดโอกาสให้แต่ละทีมต่อยอดจากความเข้าใจเชิงลึกในตลาดประเทศไทย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เรามั่นใจว่านวัตกรรม AI และเทคโนโลยีดังกล่าวที่ให้บริการผ่านชุดเครื่องมือการตลาด Meta Advantage+ Creative จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจไทยบรรลุเป้าหมายในการสร้างความเติบโต รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย”
นวัตกรรม AI ล่าสุดของ Meta พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจทั่วประเทศไทย โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงตั้งแต่เริ่มแรกที่เปิดให้บริการ ได้แก่
- Opportunity Score เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญแบบเรียลไทม์ภายใน Ads Manager และ Advantage+ Leads Campaigns ซึ่งจากการทดสอบในช่วงแรกพบว่าช่วยลด Cost Per Lead (CPL) ได้เฉลี่ย 14%
- ในขณะเดียวกัน Advantage+ Sales Campaigns ที่ใช้ AI มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการช่วยธุรกิจให้สร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การวิจัยต่างๆ ยังชี้ให้เห็นว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้จ่ายใน Advantage+ Shopping Campaigns สามารถสร้างผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) ถึง 4.52 ดอลลาร์ โดยเฉลี่ย
ในไตรมาสที่ 4 ของพ.ศ. 2567 มีผู้ลงโฆษณามากกว่า 4 ล้านรายทั่วโลกที่ใช้เครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณาด้วย AI ของ Meta อย่างน้อย 1 อย่าง การโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนแพลตฟอร์มของ Meta ยังคงสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับธุรกิจ จากการศึกษาล่าสุดในต้นปี 2567 พบว่าผู้ลงโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) เฉลี่ยประมาณ 3.47 ดอลลาร์ต่อการลงทุนทุกๆ 1 ดอลลาร์บนแพลตฟอร์มของ Meta นับว่าเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2565 อัตราการเติบโตเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเครื่องมือ AI ของ Meta ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาดทั่วทั้งภูมิภาค
เทรนด์การใช้งาน AI ที่น่าจับตามองในปี 2568
- การเชื่อมต่อในวงกว้าง: การลงทุนด้าน AI ของ Meta เปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.4 พันล้านคนบนแพลตฟอร์มของ Meta รวมถึงวิธีที่ผู้ใช้งานเหล่านั้นเชื่อมต่อถึงกันและกัน ปัจจุบันเนื้อหาบน Instagram ถึง 50% เป็นเนื้อหาที่แนะนำโดย AI
- การตลาดที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น: ด้วยชุดเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Meta นักการตลาดและแบรนด์สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย เขียนข้อความโฆษณา และส่งเสริมการซื้อขายผ่านแอปส่งข้อความยอดนิยมของ Meta ได้ง่ายขึ้น ในไตรมาสที่ผ่านมา มีผู้ลงโฆษณาใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วย AI เพิ่มขึ้นถึง 30%
- การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ: ปัจจุบัน AI สามารถช่วยนักการตลาดและแบรนด์ขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะมากได้ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบเรียลไทม์และจับคู่โฆษณากับกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะมีส่วนร่วมมากที่สุด
- Conversion ที่คุ้มค่ามากขึ้น: วิดีโอสินค้าจากแคตตาล็อกและโฆษณาพาร์ตเนอร์ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและผลการตอบรับของกลุ่มเป้าหมายโดยตรง นำไปสู่ Conversion ที่เพิ่มขึ้น 20% และลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่ (Cost per Acquisition) ลง 19% ตามลำดับ นอกจากนี้ Conversion จากโฆษณาใน Reels บน Facebook ยังเพิ่มขึ้นอีก 5% ในไตรมาสที่ผ่านมา
- การสร้างเนื้อหา: เครื่องมือ Generative AI ล้ำสมัยของ Meta ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลา ทรัพยากร และผลลัพธ์ ด้วยความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย พร้อมปรับรูปแบบโฆษณาให้เหมาะกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย
Meta AI พร้อมใช้งานแล้ววันนี้
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ Meta ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวเครื่องมือและโซลูชัน AI ล่าสุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการสร้างประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ Meta จึงได้ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชัน Meta AI ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแอป AI ที่พัฒนาขึ้นมาต่างหากจากแพลตฟอร์มอื่นของ Meta สร้างขึ้นด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM) ซึ่งเป็นโมเดลโอเพ่นซอร์สชั้นนำของอุตสาหกรรมโมเดลล่าสุดของ Meta
แอปพลิเคชันนี้ถือเป็นขั้นเริ่มต้นของการนำเสนอประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นมาให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้ชาวไทยจะสามารถโต้ตอบกับ Meta AI ได้อย่างราบรื่น พร้อมด้วยฟีด Discover ใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้สำรวจและแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์และคำแนะนำต่างๆ ขณะนี้ Meta AI ติดตั้งอยู่บนแอปพลิเคชัน WhatsApp, Messenger, Facebook, Instagram และแอปพลิเคชันอื่นๆ ของ Meta อย่างไร้รอยต่อ ทำให้มั่นใจว่าผู้ใช้สามารถเข้าถึงผู้ช่วย AI ได้ทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการ ทั้งนี้ Meta AI ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากกว่าผู้ช่วยเสมือนรายอื่นๆ โดย Meta บันทึกสถิติผู้ใช้งานประจำเดือนกว่า 1 พันล้านคนทั่วทั้งกลุ่มแอปพลิเคชันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
Meta มุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเปลี่ยนวิธีการวางแผนชีวิตและเรียนรู้ข้อมูลของผู้คนให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น ในเร็วๆ นี้ Meta AI จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างง่ายดาย โดยสร้างสรรค์แผนการเดินทางที่เป็นไปตามความต้องการเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ความชอบ งบประมาณ และกิจกรรมที่สนใจ เพียงแค่ระบุข้อมูลพื้นฐาน นอกจากนี้ Meta AI จะนำเสนอความสามารถในการสรุปบทความและเอกสารที่มีเนื้อหายาวให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณสมบัตินี้จะมีเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการติดตามข่าวสารในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจประเด็นสำคัญจากบทความข่าวสาร งานวิจัย หรือแม้แต่กระทู้โซเชียลมีเดียที่มีความยาวได้ทั้งหมดภายในแพลตฟอร์ม Meta ที่พวกเขาคุ้นเคย