เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายแล้วสำหรับ Redmi Note 13 Pro 5G โดยรุ่นนี้ให้สเปคมาถือว่าดีมากๆในงบเบาๆเพียง 12,990 บาท มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ความลึกของสีแบบ 12Bit รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ส่วนชิปประมวลผลจะเป็น Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 หน่วยความจำ RAM 12GB / ROM 512GB ส่วนกล้องหลังเลนส์หลักมากับความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมระบบกันสั่น OIS สามารถใช้งานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ 5100mAh รองรับชาร์จไว 67W
พิเศษสุดสำหรับรีวิวนี้ จะมาพร้อมกับ Redmi Note 13 Pro 5G สีใหม่ล่าสุดนั้นคือสี Olive Green นั้นเองครับ
SPEC Redmi Note 13 Pro 5G
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K 2712×1220 พิกเซล Refresh Rate 120Hz
- รองรับ 5G NSA + SA
- ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2
- GPU Adreno 710
- RAM 12GB
- ROM UFS2.2 ขนาด 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย hyperOS 1.0
- กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 200+8+2 ล้านพิกเซล เลนส์หลักมีกันสั่น OIS
- ลำโพงคู่สเตอริโอ ระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมช่องหูฟัง 3.5 มม.
- Bluetooth 5.2 / NFC / IR
- กันน้ำ กันฝุ่น ระดับ IP54
- ราคา 12,990 บาท สีที่วางจำหน่าย Midnight Black, Aurora Purple, Ocean Teal และใหม่ล่าสุด Olive Green
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Redmi Note 13 Pro 5G (ติดฟิมล์หน้าจอมาให้แล้ว)
- Adapter 67W
- สาย USB-C
- เคสซิลิโคน
- เข้มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบ
Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ CrystalRes ขนาด 6.67 นิ้ว พาแนลแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K 2712×1220 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซล 446PPI, ความสว่างสูงสุด 1800nits, ช่วงความลึกของสีแบบ 12Bit หรือสามารถแสดงผลมากกว่า 68 พันล้านสี, ให้ค่าช่วงสี DCI-P3 100% รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ทำให้การชมคอนเท็นต่างๆภาพสวยงามยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นหน้าจอที่ดีมากๆรุ่นหนึ่งกับสมาร์ตโฟนระดับค่าตัวหมื่นต้นๆ
เพิ่มอรรรถการชมคอนเท็นต่างๆกับลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
อัตรา Refresh Rate 120Hz และมีโหมดถนอมสายตามาให้พร้อมกับป้องกันการหรี่ไฟ PWM 2880Hz, รองรับการแสดงผลแบบ Always on Display, กระจกครอบทับแบบ Corning Gorilla Victus รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ด้านล่างตัวเครื่องจะมี ถาดซิมการ์ด, ไมค์สนทนา, พอร์ต USB-C และลำโพงตัวเครื่อง
ด้านซ้ายจะไม่มีอะไรครับ ปล่อยโล่งๆ / ฝั่งด้านขวาจะเป็นตำแหน่งปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power
ด้านบนจะมีอินฟราเรด(IR), ไมค์ตัดเสียงรบกวน, ลำโพงตัวที่สอง และพอรืตหูฟังขนาด 3.5 มม.
ฝาหลังแบบเรียบคล้ายๆกับกระจกหน้าจอ จะมีชุดเลนส์กล้อง 3 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED วางในกรอบเดียวกัน, ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำมาตราฐาน IP54
ขนาดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 161.2 x 74.2 x 8 มม. น้ำหนัก 187 กรัม
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย hyperOS 1.0 รองรับการใช้งานแอพคู่พร้อมโหมดสำหรับเด็กมาให้ สามารถปรับเปลี่ยนธีมได้เช่นเคยครับ
ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Note 13 Pro 5G เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 เป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ระดับกลางๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิต 4nm. ความเร็ว 2.4GHz / GPU Adreno 710 จุดเด่นของชิปรุ่นนี้คือแรงและประหยัดพลังงาน สามารถเล่นเกมได้ดี เล่นเกมได้นานโดยตัวเครื่องแทบไม่ร้อน
หน่วยความจำ
- RAM LPDDR4X ขนาด 12GB
- ROM UFS2.2 ขนาด 512GB
สำหรับการเล่นเกมจะมีฟังก์ชั่น Game TURBO เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตัวเครื่อง รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกม เพิ่มความฟินของการเล่นเกมกับชุดมอร์เตอร์แบบลิเนียร์แกน X
กล้องถ่ายรูป
กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอ FHD มีโหมดปรับหน้าสวยมาให้
กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้
- เลนส์หลัก ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4” ค่ารูรับแสง f/1.65, มีระบบกันสั่น OIS, สามารถซูมแบบ in-sensor ได้ที่ 2x-4x โดยไม่เสียรายละเอียด
- เลนส์ Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2
- เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
โหมดการถ่ายภาพหลักๆจะมีดังนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะปกติ
ภาพถ่ายระยะซูม 2x สำหรับผมชอบระยะนี้สุดแล้วครับ
ภาพถ่ายระยะปกติและซูม 4x
ภาพถ่ายโดยใช้โหมดเปิดรับแสงนาน(ถ่ายน้ำตก)
แบตเตอรี่
Redmi Note 13 Pro 5G เห็นตัวเครื่องเล็กบางเบาแบบนี้แต่ติดตั้งแบตเตอรี่มาให้มากถึง 5100mAh สามารถเล่นเกมได้นานติดต่อกัน 11 ชม./ ชมคอนเท็นวิดีโอได้ 16 ชม. และรองรับชาร์จไว TurboCharge 67W ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาเพียง 44 นาที พร้อมฟังก์ชั่น Battery Health 3.0 เพื่อช่วยยืดอายุของเซลล์แบตเตอรี่ ภายในกล่องแถมที่ชาร์จไว 67W มาให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเพิ่มแล้วครับ
สรุป
Redmi Note 13 Pro 5G จบครบกับงบ 12,990 บาท สเปคที่ใส่มาให้ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป หน้าจอแสดงผลได้คมชัดสวยงามพร้อมลำโพงคู่ช่วยเพิ่มอรรรถทั้งการเล่นเกมหรือชมคอนเท็น กล้องหลังถือว่าถ่ายสวยครับและใช้งานง่ายสำหรับคนทั่วไป ถ่ายปุีบพร้อมอัพโซลเชียลได้เลยไม่ต้องเสียเวลาตกแต่ง หน่วยความจำขนาดใหญ่เก็บข้อมูลได้จุใจยิ่งขึ้น อุปกรณ์ภายในกล่องมีให้พร้อมใช้งานไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่คุ้มครับ