realme ร่วมปฏิวัติไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของคนรุ่นใหม่ด้วย AI เปิดการประชุมโต๊ะกลมร่วมกับกลุ่มเยาวชนระดับโลก

กรุงเทพฯ 21 มิถุนายน 2567 – realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ร่วมกับองค์กรเยาวชนระดับสากลอย่าง AIESEC และกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก จัดงานประชุมเสวนาโต๊ะกลม “AI for Youth: Revolutionizing Digital Lifestyles” เพื่อเป็นเวทีแห่งการพูดคุยถึงประเด็นต่าง ๆ ในการค้นหาประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสมาร์ตโฟนที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน พร้อมตรวจสอบศักยภาพของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่จะกลายเป็นแกนหลักของประสบการณ์สมาร์ตโฟนในอนาคต

การพัฒนา AI แบบก้าวกระโดด จุดประกายนวัตกรรมที่พลิกโฉมโลก
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI ก่อให้เกิดนวัตกรรมที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งการที่ AI กำลังบูรณาการเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอื่น ๆ ในปัจจุบัน เช่น หุ่นยนต์ การประมวลผลบนคลาวด์ และ IoT ยิ่งทำให้ AI แพร่หลายไปในแทบทุกแง่มุมของเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของเรา อิทธิพลของ AI จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เพียงประยุกต์ใช้ AI เพื่อยกระดับความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและปลูกฝังวิธีคิดแบบข้ามสาขาวิชาไปพร้อม ๆ กัน การนำ AI มาใช้อย่างกว้างขวางจึงช่วยให้คนหนุ่มสาวมีส่วนร่วมในการคิดค้นนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันในระดับโลกมากขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุด AI ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนามุมมองระดับสากลและเพิ่มพูนทักษะความเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่ได้อีกด้วย

สมาร์ตโฟนคืออุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้งานและนำแอปพลิเคชัน AI มาใช้เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับเทคโนโลยีนี้ โดย มร.ฟรานซิส หว่อง หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ realme ได้นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของสมาร์ตโฟนในการเพิ่มศักยภาพของคนหนุ่มสาวผ่าน AI ว่า “ไม่ว่าฟีเจอร์ของ AI จะพัฒนาไปอย่างไร โทรศัพท์มือถือจะยังคงเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ผู้คนจะใช้เพื่อการเชื่อมโยงกับ AI ในอนาคต” หว่อง กล่าว “เราคาดการณ์ว่าในอนาคต บรรดาบริษัท AI รายใหญ่จะมีการร่วมมือกับผู้ผลิตสมาร์ตโฟน เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานและจำหน่ายโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทตนเองผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านี้ ดังนั้น สมาร์ตโฟนจึงมีความสำคัญต่อการกำหนดแนวทางที่ผู้ใช้งานจะเกิดการรับรู้และมีประสบการณ์กับ AI ในอนาคต”

เมื่อพิจารณาแนวโน้มปัจจุบันของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน คุณสมบัติของ AI บนสมาร์ตโฟนจะมุ่งเน้นไปที่การทำงาน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การประมวลผลภาพ การเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ และการประมวลผลแบบหลายภาษา ในแง่ของการประมวลผลภาพ การผสานการทำงานของ AI จะช่วยให้สมาร์ตโฟนยกระดับคุณภาพของภาพถ่ายได้ดีที่สุดด้วยอัลกอริธึม เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมภาพที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สำหรับงานผู้ช่วยอัจฉริยะ การใช้เทคโนโลยีการประมวลผลด้วยภาษาธรรมชาติจะช่วยให้สมาร์ตโฟนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้คล้ายกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของการทำงานและการพักผ่อน นอกจากนี้ ความล้ำหน้าในการประมวลผลแบบหลายภาษายังช่วยทำลายอุปสรรคทางภาษา โดยเพิ่มความสะดวกในการสื่อสารและความเข้าใจระหว่างผู้คนที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมแตกต่างกัน กล่าวได้ว่า สมาร์ตโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเป็นสะพานที่เชื่อมโยงมนุษย์เข้าสู่โลกอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็ว

ระหว่างการประชุมโต๊ะกลม ริต้า เอล คูรี บรรณาธิการอาวุโส Android Authority ชี้ว่า สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในยุคที่เครือข่าย 4G ได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมมือถือไปอย่างสิ้นเชิง และปูทางสู่การใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างแพร่หลายเฉกเช่นในปัจจุบัน เทคโนโลยี Generative AI ก็ถูกกำหนดให้เป็นตัวพลิกเกมของวงการสมาร์ตโฟน โดย Generative AI จะช่วยให้สมาร์ตโฟนมีการสนทนาโต้ตอบที่สะดวกง่ายดาย มีความเป็นส่วนตัว และเปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิวัติประสบการณ์ผู้ใช้งานอีกครั้งหนึ่ง

สมาร์ตโฟน AI จ่อปฏิวัติไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคนยุคใหม่วันนี้
ภายในการประชุมโต๊ะกลม เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าร่วมงานได้ร่วมสำรวจว่าการเปลี่ยนแปลงของสมาร์ตโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะส่งผลกระทบเชิงลึกต่อชีวิตในด้านต่าง ๆ ของคนหนุ่มสาวอย่างไรบ้าง นับตั้งแต่วิธีการศึกษาเล่าเรียนและการทำงาน ไปจนถึงรูปแบบการเข้าสังคมและการสร้างความบันเทิงส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น เมื่อพูดถึงการศึกษา ในสภาพแวดล้อมในห้องเรียนแบบเดิม ๆ นักเรียนอาจพลาดข้อมูลสำคัญเนื่องจากฟังการบรรยายไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของ AI และกล้องในสมาร์ตโฟน นักเรียนจะสามารถดึงประเด็นสำคัญจากข้อความบนกระดานหรือจากสไลด์ได้อย่างง่ายดาย โดย AI จะช่วยแปลงเป็นข้อความที่ตรวจสอบและจัดระเบียบได้ง่ายขึ้น อุปกรณ์เสริมการเรียนรู้อันชาญฉลาดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการศึกษาได้อย่างมาก และช่วยให้นักเรียนมีเวลามากขึ้นสำหรับการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ อย่างถ่องแท้และการอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน

ในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีที่เข้าใจความต้องการของคนวัยหนุ่มสาว realme มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกสามารถก้าวหน้าทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากการอภิปรายในงานโต๊ะกลมซีฉวน หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ realme ยังได้สาธิตการใช้ฟีเจอร์ AI Smart Loop บน realme GT 6 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะ โดย AI Smart Loop จะทำความเข้าใจบริบทและข้อมูลต่าง ๆ ในสมาร์ตโฟนของผู้ใช้งาน เช่น การรับข้อมูลสถานที่ประชุมขณะผู้ใช้งานกำลังยุ่งอยู่กับงานอื่น และ AI Smart Loop จะช่วยเตรียมขั้นตอนต่อไป เช่น การเปิดหาที่อยู่ใน Google Maps โดยจะทำงานเหมือนกับผู้ช่วยส่วนตัวที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง AI Smart Loop จึงช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดแรงและเวลาได้ในหลายสถานการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถใช้เวลาอันมีค่าในการมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญมากกว่าได้ในแต่ละวัน

“AI ไม่ควรเป็นเพียงแค่เกมเรียงตัวเลข แต่ต้องเน้นที่ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน” หวัง กล่าว “ผู้ใช้ realme จำนวนมากเป็นคนทำงานอายุน้อยในช่วงเริ่มต้นอาชีพและพวกเขาล้วนมีจิตวิญญาณเช่นเดียวกับ realme นั่นคือพวกเขามีความทะเยอทะยาน ภูมิใจ ฉลาดและมั่นใจในอนาคต เป้าหมายของเราคือการมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมและดีไซน์สมาร์ตโฟนที่เหนือล้ำเกินความคาดหมายให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นเหล่านี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในการทำงานและคุณภาพชีวิตของพวกเขาในภาพรวม”

AI Popularizer ขยายการเข้าถึงและมอบประโยชน์แก่เยาวชน
แม้ว่าเทคโนโลยี AI จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านการศึกษา ผ่านการมอบประสบการณ์และทรัพยากรการเรียนรู้ส่วนบุคคลที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็นับว่ายังมีความท้าทายอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเป็นสากล โดยผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกต่างลงความเห็นว่าจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ และเพื่อรับประกันว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถมอบประโยชน์ด้านการศึกษาให้แก่ทุกคนได้จริง ๆ

ด้วยการเปลี่ยนจาก AI มาเป็นสมาร์ตโฟน AI จึงทำให้ทำให้คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ทั่วโลกได้สัมผัสกับประโยชน์ของ AI อย่างเท่าเทียมมากขึ้น วันนี้ realme กำลังทำให้กระบวนการนี้เดินหน้าไปไกลกว่าเดิมด้วยการนำเสนอสมาร์ตโฟน AI ที่ทำงานได้เหนือความคาดหมายในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง ซึ่งนอกจากการเปิดตัว GT 6 แล้ว realme ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยี Next AI โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความนิยมให้ AI แพร่หลายในกลุ่มเยาวชน และภายใต้ความมุ่งมั่นนี้ realme จะนำขีดความสามารถเต็มรูปแบบของ AI ไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งใน GT series, Number series และ C series เพื่อสร้างความมั่นใจว่า AI จะไม่ได้มีเฉพาะในรุ่นเรือธงเท่านั้น แต่จะต้องเป็นไปตามพันธกิจของแบรนด์ realme ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้วัยหนุ่มสาวทั่วโลกได้สนุกสนานกับเทคโนโลยีด้วยประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายต่อไป

และเพื่อการส่งเสริมความมุ่งมั่นนี้ realme ยังได้จัดตั้ง NEXT AI Lab และเปิดตัว “AI+UI Popularizer Plan” เพื่อทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทั่วโลกและผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูงจากบรรดาพันธมิตรอย่าง Google, Qualcomm และ Microsoft เพื่อพัฒนาคุณสมบัติ AI และนวัตกรรม UI ที่เหนือกว่า ขณะเดียวกัน realme ก็จะพยายามปูธุรกิจสู่ตลาด เพื่อให้ผู้ใช้รุ่นใหม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล่าสุดได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

“อีก 5 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้คนต่างภาษาจะสามารถสนทนากันด้วยสมาร์ตโฟน โดยใช้ทั้งเพื่อการสื่อสารและการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้โดยไม่ต้องดำเนินการเองบ่อย ๆ” หวัง กล่าวเสริม “หากนี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า อุปกรณ์เคลื่อนที่อาจมีหน้าตาไม่เหมือนในปัจจุบัน โดยอาจจะเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่เข้าใจความต้องการทั้งหมดของเราและสนทนากับเราได้เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว แต่ไม่ว่าตัวอุปกรณ์จะมีมีวิวัฒนาการอย่างไรก็ตาม บทบาทของสมาร์ตโฟน AI ที่เป็นแกนหลักก็ยังคงเหมือนเดิม โดยมุ่งเน้นการออกแบบซึ่งกำหนดผู้คนเป็นศูนย์กลางและการมุ่งตอบโจทย์ผู้ใช้งานเป็นหลัก”

เกาะติดรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง
Facebook: (https://www.facebook.com/realmeTH)
Instagram: (https://www.instagram.com/realme_thailand)
Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand)
Twitter: (https://twitter.com/realmeTH)
Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH)

Loading