vivo ประกาศท้าชนทุกสเปก เปิดตัว Y200 5G ในราคาเริ่มต้น 9,999 บาท พร้อมวางจำหน่าย Watch 3 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกในไทยอย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ 24 ตุลาคม 2567 – ท้าชนทุกสเปก! vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัว Y200 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y Series ที่ได้พรีเซนเตอร์นักแสดงสาวสวย ‘ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร’ มาเป็นตัวแทนพาผู้ใช้งานไปพิสูจน์ความแกร่งของน้องเล็กทนทานเหนือระดับภายใต้แนวคิด ‘สุดทน! ท้าชนทุกสเปก’ โดดเด่นด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เพื่อการใช้งานต่อเนื่องตลอดวัน การันตีอายุการใช้งานยาวนานถึง 4 ปี ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,999 บาท พร้อมกันนี้ยังส่งสมาร์ตวอตช์ vivo Watch 3 สู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ให้ vivo fans ได้สัมผัส 2 ตัวเลือกดีไซน์ทันสมัย และฟีเจอร์เพื่อสุขภาพอันครบครันในราคาสุดคุ้มค่า เริ่มต้น 6,499 บาท

ทนทาน! พร้อมท้าทุกชาเลนจ์

vivo Y200 5G ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกสถานการณ์การใช้งานที่ท้าทายด้วยจุดขายด้านความแข็งแกร่งและฟีเจอร์จัดเต็มเกินราคา ผ่านการทดสอบด้านคุณภาพอุปกรณ์อย่างเข้มงวดเพื่อการันตีการใช้งานลื่นไหลยาวนานและป้องกันทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิตประจำวัน ไร้กังวลแม้ต้องสัมผัสละอองฝน ทำเครื่องหล่น หรือน้ำหกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจด้วยตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงเสริมด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP64 ใช้งานได้เต็มที่ตลอดทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ผสานเทคโนโลยีชาร์จไว 80W FlashCharge ที่สามารถชาร์จถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที ทำให้ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์แบบไหนก็พร้อมลุยได้ทุกกิจกรรม

นอกจากนี้ vivo ยังจัดเต็มเทคโนโลยีระดับแนวหน้าในทุกฮาร์ดแวร์และการออกแบบฟีเจอร์ ตั้งแต่ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 เสริมด้วย 2 ตัวเลือกความจุ 8GB+256GB และ 12GB+512GB ช่วยบูสต์การทำงานให้ลื่นไหล สลับแอปได้ไม่สะดุด เพลิดเพลินกับการเล่นเกมและรับชมทุกคอนเทนต์ด้วยจอแสดงผล FHD+ AMOLED รีเฟรชเรท 120Hz และระบบภาพคุณภาพสูง พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ เพิ่มพลังเสียงได้สูงสุด 300% ให้ผู้ใช้งานสามารถดื่มด่ำกับเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ทุกรูปแบบ

ภาพพอร์ตเทรตสวย คมชัดทุกช็อต

vivo ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพอร์ตเทรตด้วยการยกระดับระบบการถ่ายภาพให้กับสมาร์ตโฟนตระกูล Y Series ผ่านกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา มาพร้อมเทคโนโลยี AI Aura Light ที่ช่วยเติมและปรับอุณหภูมิแสงได้อัตโนมัติเพื่อส่งมอบผลลัพธ์ภาพถ่ายที่สว่าง สวยงาม และคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติแม้ในที่แสงน้อย พร้อมอัปเกรดฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ อาทิ AI Photo Enhancement AI Erase และ Photo Borders เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์

ดีไซน์ระดับพรีเมียม พร้อม 3 สีสัน

Y200 5G นำเสนอการออกแบบทันสมัยบนตัวเครื่องบางเฉียบ 7.79 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา จับถนัดมือ มาพร้อมโมดูลกล้องรูปแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพชรทรงสี่เหลี่ยม ผสานกับขอบตัวเครื่องแบบ Metallic High-Gloss ให้ความรู้สึกหรูหราแต่ยังคงความคลาสสิก เปิดตัวใน 3 ตัวเลือกสีใหม่ ได้แก่

  • สีไทเทเนียม ซิลเวอร์ (Titanium Silver) สีเงินสุดไฮเอนด์ ผสานความบริสุทธิ์และความเรียบง่ายเข้ากับความทันสมัยของเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว มาพร้อมสัมผัส Diamond Starry Texture ที่ช่วยเพิ่มความประกายระยิบระยับให้กับตัวเครื่องหลังกระทบกับแสงไฟ
  • สีดรีมมี่ ไวโอเลต (Dreamy Violet) เฉดสีม่วงที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเสมือนกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน เสริมลูกเล่นและความมีชีวิตชีวาด้วย 3D Petal Texture ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงดงามของดอกไม้
  • และอีกหนึ่งตัวเลือกคลาสสิกอย่าง สีไดนามิก แบล็ก (Dynamic Black) ที่ผสมผสานความสงบและเงางามของเฉดสีดำเข้ากับเฉดสีม่วงอย่างลงตัว มอบความรู้สึกหรูหราและลึกลับน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน

 

vivo Watch 3: เทคโนโลยีสวมใส่รุ่นแรกจาก vivo สู่มือผู้ใช้งานชาวไทย

นอกจากสมาร์ตโฟนสุดแกร่งที่พร้อมท้าชนทุกสเปกแล้ว งานนี้ vivo ยังเปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่หลายคนรอคอยอย่างสมาร์ตวอตช์ vivo Watch 3 ให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โดยตัวเรือนผลิตด้วยวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง น้ำหนักเบาเพียง 36 กรัม มอบสัมผัสระดับไฮเอนด์ สวมใส่สบาย แต่ยังการันตีการทนน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร (5ATM) มาพร้อมหน้าจอ 3D Curved Glass ที่มีการรองรับ Full Always-on Display สามารถเลือกปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธีม ภาพหน้าจอ หรือสีสันต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนอย่างราบรื่นผ่านแอปพลิเคชัน vivo health

vivo จัดเต็มฟีเจอร์ Watch 3 มาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในชีวิตประจำวัน อาทิ การควบคุมเพลงบนสมาร์ตโฟน การโทรผ่านบลูทูธ และ Motion Gesture นอกจากนี้ยังมีระบบมอนิเตอร์สุขภาพและกิจกรรมแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับสายแอคทีฟ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเครียด การนอนหลับ หรือระดับออกซิเจนในเลือด อีกทั้งยังมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกหลากหลายมากกว่า 100 โหมดจากกีฬา 9 ประเภทเพื่อตรวจสอบและยกระดับประสิทธิภาพการทำกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์

Watch 3 นำเสนอบน 2 ดีไซน์ทันสมัย ได้แก่ สีดำแอสเทียรอยด์ แบล็ก (Asteroid Black) พร้อมสายซิลิโคน มอบความรู้สึกเรียบง่ายเหมาะกับการใช้งานในทุก ๆ วัน และสีขาวมูนไลท์ ไวท์ (Moonlight White) ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูด้วยวัสดุหนังแบบคลาสสิก โดยสายนาฬิกาสามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อตอบโจทย์สไตล์ที่แตกต่าง

รายละเอียดการวางจำหน่าย

Y200 5G เปิดตัวพร้อมท้าทายทุกชาเลนจ์และให้ผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ใน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB+256GB ในราคา 9,999 บาท และ 12GB+512GB ในราคา 12,999 บาท

  • พิเศษสำหรับ vivo fans ที่สั่งซื้อ Y200 5G ทุกรุ่นความจุ ภายในวันที่ 25 ตุลาคม – 30 พฤจิกายน 2567 จะได้สิทธิ์ E-VIP รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ฟรี 1 ครั้ง (มูลค่า 999 บาท) หากสุขภาพลดลงต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 4 ปีแรก
  • พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 24 ตุลาคม – 3 พฤจิกายน 2567 ณ vivo Brandshop ทั่วประเทศและตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา สามารถรับส่วนลด 1,000 บาทเพื่อแลกซื้อ Watch 3 ในราคาพิเศษ พร้อมรับฟรี หูฟัง TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)

พร้อมกันนี้ vivo ยังวางจำหน่าย Watch 3 อย่างเป็นทางการใน 2 ตัวเลือกสี ได้แก่ สีดำแอสเทียรอยด์ แบล็ก (Asteroid Black) ในราคา 6,499 บาท และสีขาวมูนไลท์ ไวท์ (Moonlight White) ในราคา 6,999 บาท โดย

  • ผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 24 ตุลาคม – 3 พฤจิกายน 2567 ผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณเป็น หูฟัง TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand และเว็บไซต์ https://www.vivo.com/th

#vivoY2005G #สุดทนท้าชนทุกสเปก #vivoWatch3

Loading