กรุงเทพฯ2 ธันวาคม2567 –พร้อมให้ชาวไทยบันทึกทุกเรื่องราวได้ชัดกว่าที่เคย!vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวvivo X200 Series สองเรือธงใหม่ล่าสุดจากตระกูล X Series อย่างเป็นทางการภายใต้แนวคิด “ซูมชัด ทุกเรื่องราว” (ZEISS Image, Go Far)ชูจุดขายกล้องเลนส์ZEISS APO Telephoto Cameraความละเอียดสูง 200MPพลังซูมเหนือระดับ พร้อมเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอคมชัดทุกมิติเหมือนจับภาพจากขอบเวทีเสริมความแรงแบบจัดเต็มด้วยขุมพลังสุดแรงอย่างMediaTek Dimensity 9400 ผสานการทำงานกับ vivo BlueChip และชิปประมวลผลภาพและวิดีโอV3+ ที่บูสต์ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพกลางคืนและภาพพอร์ตเทรตตลอดจนอัปเกรดเทคโนโลยีและฟีเจอร์มาอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ ระบบปฏิบัติการ หรือผู้ช่วย AIเพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกสบายที่มากกว่า วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเริ่มต้น 29,999 บาท
ภาพบรรยากาศเวทีคอนเสิร์ต ‘ZOOMTOPIA’ แสดงพลังซูมสมาร์ตโฟน X200 Pro
ขยายพลัง ‘ซูมชัด ทุกเรื่องราว’
vivoจับมือ ZEISS ส่ง X200 Series กลับมาสานต่อตำนานเรือธงกล้องเทพอีกครั้งด้วยกล้องความละเอียด 50MP ทุกเลนส์บน X200Seriesตั้งแต่กล้องหลักZEISSVCS Ture Color, กล้อง ZEISS Telephoto,ไปจนถึงกล้องUltra-Wide Angle มุมมองกว้าง 119 องศา พร้อมนำเสนอการอัปเกรดใหม่ล่าสุดเอาใจสายซูมโดยเฉพาะกับกล้องZEISS APO Telephoto ความละเอียดสูง 200MP ครั้งแรกของวงการสมาร์ตโฟนบนX200 Proที่สามารถซูมได้ไกลถึง50x โดยไม่เสียรายละเอียดภาพเสริมด้วยฟีเจอร์High-Quality Imaging ที่ใช้เทคโนโลยีAI เข้ามาซัพพอร์ตการจับภาพการเคลื่อนไหวบนเวทีได้อย่างแม่นยำ แถมตัวช่วยสลับไปยังโหมด Telephoto Super Stage อัตโนมัติ และฟังก์ชัน Zero-Shutter-Lag Motion Snapshotให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญ สามารถบันทึกภาพการแสดงอย่างคมชัดได้ทันที นอกจากนี้ยังไม่ลืมใส่ฟีเจอร์ ZEISS Multifocal Portraitพร้อมตัวเลือกระยะโฟกัส85 มม. และ 135 มม.เพื่อสายพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพ รวมถึงเทคโนโลยีการเคลือบเลนส์แบบ ZEISS T* Coatingที่ช่วยลดการสะท้อน ลดการเกิดภาพโกสต์หรือแสงแฟลร์ ให้ภาพคมชัด ใสเคลียร์
สำหรับสายเก็บฟุตเทจ X200 Proตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีProfessional Video Recordingที่สามารถบันทึกวิดีโอขณะซูมได้สูงสุดถึง 30x รวมถึงสามารถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ4K HDR พร้อมระบบปรับสีและแสงอัจฉริยะเพื่อการบันทึกเรื่องราวแบบไม่สะดุดทุกสเตจเสริมด้วยเทคโนโลยี Pure Sound Recordingที่ช่วยซูมเสียงให้ชัดเจนพร้อมตัดเสียงรบกวนโดยรอบให้เสียงศิลปินสมจริงและมีมิติยิ่งขึ้น
ผสาน 2 ขุมพลังเพื่อประสิทธิภาพเหนือชั้น
vivo X200 Proเปิดตัวด้วยชิปเซ็ตเรือธงแบบคู่ ผสานความทรงพลังของชิปประมวลผลหลักMediaTek Dimensity 9400 ผสานการทำงานกับ vivoBlueChip และชิปประมวลผลภาพปรับแต่งพิเศษV3+การันตีประสิทธิภาพการทำงานแข็งแกร่งเหนือระดับ อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 30%
ดื่มด่ำกับทุกความบันเทิงแบบเต็มที่ด้วยหน้าจอมาตรฐานZEISS Master Colorอัตราการรีเฟรช 120Hz ความสว่างสูงสุด 4500nits มอบสีสันธรรมชาติในแบบ ZEISS ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมภาพที่ชัดเจน สดใส และสวยสมจริงมอบการมองเห็นที่คมชัดในทุกระดับความสว่าง แต่ยังคงปกป้องดวงตาผ่านเทคโนโลยี Full Range Luminance2160Hz PWM Dimmingที่ช่วยลดการกะพริบของหน้าจอในทุกระดับของความสว่างและช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา รับชมเอนเทอร์เทนเมนต์ได้เต็มที่ทั้งกลางวันและกลางคืน
ใช้งานเต็มที่ตลอดวันด้วยแบตเตอรี่เทคโนโลยี vivo BlueVolt ซึ่งเป็นแบตSilicon Anode รุ่นที่ 3ครั้งแรกในอุตสาหกรรมรวมถึงยังมีเทคโนโลยี Semi-Solid มอบขนาดแบตที่บางเฉียบแต่จัดเต็มความจุได้มากกว่าที่เคยและใช้งานภายใต้อุณหภูมิหนาวเย็น -20 องศา โดย X200 เปิดตัวพร้อมแบตเตอรี่ความจุ5800mAh ในขณะที่ X200 Pro จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ6000mAh พร้อมชาร์จไว 90Wและชาร์จไร้สาย 30W นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP68&IP69 ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพเสริมแกร่งด้วยกระจกหน้าจอ Armor Glass เฉพาะใน X200 Pro ต่อการตกกระแทกกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 11 เท่า พกพาติดตัวไปได้ทุกงานอย่างไร้กังวล
vivo X200 Series เปิดตัวพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดFuntouch OS 15ที่ทำงานบนAndroid 15 มาพร้อมตัวเลือกการปรับแต่งอันหลากหลาย ฟีเจอร์ครบครัน และผู้ช่วย AI อัจฉริยะGemini Assistantเพื่อการเรียนรู้และความสะดวกสบายที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมล วางแผนกิจกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิCircle to Search,AI Note Assist,AI Transcript Assist, และAI Erase ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของผู้ใช้งานยุคดิจิทัล
ดีไซน์พรีเมียมระดับเรือธง
ครั้งนี้ vivo ออกแบบ X200 Series มาในโทนสีที่ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยในรุ่น X200 Pro มาพร้อมกับ 2สีใหม่ Midnight Black สีดำด้านที่ให้ความรู้สึกทรงพลังตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบความคลาสสิก และสีTitanium Gray สีเทาขัดเงาแบบลายพิเศษเพิ่มความเปล่งปลั่งประกายดูหรูหราทนทานยิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่น X200 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่Aurora Greenสีเขียวใหม่ที่สื่อถึงความสง่างามของธรรมชาติ Ocean Blueสีน้ำเงินเข้มสุดเรียบหรูช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ผู้ใช้งาน และสีMidnight Blackแบบเดียวกันกับรุ่น Pro นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการดีไซน์หน้าจอที่ถูกอัปเกรดให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ Micro Quad Curved Screen นำเสนอหน้าจอแบนที่มีขอบมุมโค้งเล็กน้อยทั้ง 4 ด้าน แบบ 3D Curved Screen ตัดปัญหากวนใจคนที่เคยใช้จอโค้งแบบเดิม ช่วยลดการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจและยังจับหน้าจอได้กระชับมือยิ่งขึ้น ในขณะที่มอบความคมชัดและประสบการณ์รับชมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มอิ่ม
รายละเอียดการวางจำหน่าย
vivo X200 Seriesจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป สำหรับ vivo fans ที่ต้องการเป็นเจ้าของก่อนใคร สามารถจับจองในรอบ Pre-order ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 3 ธันวาคม 2024ณ ร้านค้า Official Shop ทั่วประเทศ ในราคาและรุ่นความจุ ดังนี้ vivo X200 5G (12GB + 256GB) ราคา 29,999 บาท และ vivo X200 Pro 5G (16GB + 512GB) ราคา 39,999 บาทพร้อมรับสิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุด 17,187 บาท
- ต่อที่ 1vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง (มูลค่า 10,999บาท)
- ต่อที่ 2Premium Case (มูลค่า 890 บาท)
- ต่อที่ 3หูฟัง vivo TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)
- ต่อที่ 4 ส่วนลดเพิ่มเติม50% สำหรับแลกซื้อ vivo Watch 3
- ต่อที่ 5โปรเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินสูงสุด 8,000บาท
* หมายเหตุ: รายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาโปรโมชันและของสมนาคุณสำหรับช่วงวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สามารถสอบถามได้ที่จุดจำหน่าย
ผู้ใช้งานชาวไทยสามารถสัมผัสประสบการณ์ซูมชัดทุกเรื่องราวไปกับ vivo X200 Series พร้อมกันทั่วประเทศได้แล้ววันนี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand หรือเว็บไซต์ https://vivo.com/th/
#vivoX200Series #ซูมชัดทุกเรื่องราว #vivoxZoomtopia