VMware เปิดตัว VMware Private AI เพื่อเร่งขับเคลื่อนแอปเจเนอเรชันใหม่ ขยายความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม Generative AI ที่ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐาน VMware Cloud

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย– VMware Explore 2023 – วีเอ็มแวร์อิงค์ (NYSE: VMW) ได้เปิดตัวPrivate AIเพื่อขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยี generative AI มาใช้ในระดับองค์กรและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เชื่อถือได้โดย Private AIเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างสมดุล เพื่อช่วยให้ธุรกิจยังสามารถได้ประโยชน์จากการใช้ AI แต่ยังสามารถรักษา ตอบโจทย์ ความเป็นส่วนตัวขององค์กรและข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่ต้องปฎิบัติตาม (Compliances) ต่างๆ ได้

เพื่อให้Private AI สามารถใช้งานได้จริงสำหรับองค์กรเอนเตอร์ไพรส์และขับเคลื่อนการสร้างแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่เน้นAI-enabled วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ดังนี้:

  • VMware Private AI FoundationกับNVIDIA ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทเพื่อเตรียมธุรกิจโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของVMware สำหรับยุคgenerative AI ที่กำลังจะมาถึง
  • สถาปัตยกรรม VMwarePrivate AI Reference Architectureสำหรับโอเพ่นซอร์สเพื่อรองรับการทำงานร่วมเทคโนโลยีซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ดีที่สุด (OSS) ในปัจจุบันและในอนาคตเพื่อช่วยลูกค้าในการบรรลุผลลัพธ์จากการนำเทคโนโลยีAI ไปใช้

VMware Private AI ได้นำความสามารถในการประมวลผล(Compute Capacity) และโมเดลAI ไปยังจุดที่มีการสร้างข้อมูล การประมวลผลข้อมูลและใช้งานข้อมูลขององค์กรไม่ว่าจะอยู่ในพับบลิกคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กรหรือที่Edge ด้วยข้อเสนอใหม่เหล่านี้วีเอ็มแวร์กำลังช่วยเหลือลูกค้าในการบรรลุความสมดุลระหว่างความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่ก็มีการควบคุมในเรื่องที่จำเป็นในการขับเคลื่อนAI-enabled แอปพลิเคชันรุ่นใหม่ๆซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอย่างมีนัยสำคัญสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงฟังก์ชันทางธุรกิจหลักๆและขับเคลื่อนผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยรายงานของMcKinsey ประมาณการว่าgenerative AI อาจเพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจโลกได้มากถึง4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี1

สภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์เป็นรากฐานสำหรับแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยAI แบบใหม่เนื่องจากทำให้ข้อมูลส่วนตัวต่างๆที่มีการทำงานอยู่กระจัดกระจายในระบบการประมวลผลแบบคลาวด์ง่ายต่อการควบคุมและใช้ประโยชน์กลยุทธ์มัลติคลาวด์ที่VMware นำเสนอสามารถนำมาใช้ทำให้ธุรกิจมีทางเลือกและความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้งานปรับแต่งและใช้งานAI โมเดลในขณะที่ยังคงรักษาระดับความปลอดภัยและความยืดหยุ่นที่จำเป็นในทุกสภาพแวดล้อม

นายรากู รากูราม ซีอีโอของวีเอ็มแวร์

นายรากู รากูราม ซีอีโอของวีเอ็มแวร์กล่าวว่า “ศักยภาพอันน่าทึ่งของgenerative AI นั้นไม่สามารถปลดล็อกได้เต็มที่เว้นแต่องค์กร Enterprise ต่างๆจะสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของตนและลดความเสี่ยงด้านทรัพย์สินทางปัญญา(IP) ในขณะที่เทรนนิ่งปรับแต่งและให้บริการโมเดลAI ของตนได้ซึ่งด้วยVMware Private AI เราช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อให้สามารถสร้างและทดสอบโมเดลAI ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์”

องค์กรขนาดใหญ่แบบเอนเตอร์ไพรส์ในปัจจุบันเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในเรื่องของการใช้งานgenerative AI องค์กรเอนเตอร์ไพรส์อาจจะใช้ประโยชน์จาก pubic AI โมเดล เพื่อมาช่วยสร้าง AI แอปพลิเคชัน แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลและแหล่งการเทรนนิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือเมื่อใช้โมเดลAI หรืออาจลองใช้แนวทาง“โมเดลแบบที่ทำขึ้นมาเอง(do-it-yourself)”ซึ่งก็อาจจะเจอความลำบากในการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาให้คุ้มกับต้นทุนซึ่ง VMware AI Labs ได้สร้างVMware Private AIมาเพื่อแก้ไขปัญหา และความท้าทายต่างๆเหล่านี้

VMware Private AI Foundation พร้อมด้วยNVIDIA ช่วยให้องค์กรต่างๆมีความพร้อมด้านAI

VMware Private AI Foundation พร้อมด้วยNVIDIA ประกอบด้วยชุดเครื่องมือAI แบบบูรณาการจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆสามารถปรับใช้AI โมเดลที่ได้รับการพิสูจน์ซึ่งได้รับการเทรนบนข้อมูลส่วนตัว และมีการบริหารต้นทุนได้อย่างคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าบนพับบลิกคลาวด์ชั้นนำและที่Edge โดย VMware Private AI Foundation พร้อมด้วยNVIDIA จะรวมซอฟต์แวร์NVIDIA AI Enterprise และการประมวลผลแบบเร่งความเร็วเข้ากับสถาปัตยกรรมPrivate AI ของVMware ซึ่งใช้VMware Cloud Foundation ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งพวกเขาต้องการเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันAI ทั่วไปเช่นแชทบอทอัจฉริยะผู้ช่วยการค้นหาและการสรุปDell Technologies, HPE และLenovo จะให้การสนับสนุนVMware Private AI Foundation ควบคู่ไปกับNVIDIA

จะช่วยให้องค์กรต่างๆสามารถรันโมเดลที่ได้รับการพิสูจน์แล้วซึ่งได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของตนในลักษณะที่คุ้มต้นทุนและจะทำให้โมเดลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลบนพับบลิกคลาวด์ชั้นนำได้และที่EdgeVMware Private AI Foundation พร้อมด้วยNVIDIA จะผสานรวมสถาปัตยกรรมPrivate AI ของVMware ที่สร้างขึ้นบนVMware Cloud Foundation เข้ากับซอฟต์แวร์NVIDIA AI Enterprise และการประมวลผลแบบเร่งความเร็วข้อเสนอแบบครบวงจรนี้จะช่วยให้ลูกค้าได้รับโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่รวดเร็วและซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่พวกเขาต้องการในการปรับแต่งโมเดลและเรียกใช้แอปพลิเคชันAI ทั่วไปรวมถึงแชทบอทอัจฉริยะผู้ช่วยการค้นหาและการสรุปVMware Private AI Foundation พร้อมNVIDIA จะได้รับการสนับสนุนจากDell Technologies, Hewlett Packard Enterprise และLenovo อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างVMware และNVIDIA ที่นี่

การเชื่อมต่อ (อินเตอร์คอนเน็ค) และ การเปิดให้อีโคซิสเต็มต่างๆ สนับสนุนกลยุทธ์ AI ให้กับลูกค้า

สถาปัตยกรรมVMware Private AI Reference ของVMware สำหรับโอเพ่นซอร์สรวมเข้ากับเทคโนโลยีโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ (OSS)ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อส่งมอบสถาปัตยกรรมอ้างอิงแบบเปิดสำหรับการสร้างและให้บริการโมเดลโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ (OSS)บนVMware Cloud Foundation ซึ่งในงานVMware Explore 2023 วีเอ็มแวร์ได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทุกส่วนในการแสดงศักยภาพของAI ดังนี้:

  • Anyscale:วีเอ็มแวร์นำเฟรมเวิร์กการประมวลผลแบบรวมโอเพ่นซอร์สที่เชื่อว่าRay (https://www.ray.io/) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมาสู่การทำงานของVMware Cloudซึ่งโปรเจค Ray บน VMware Cloud Foundation ช่วยให้Data Scientist และMLOps Engineers สามารถขยายเวิร์กโหลดAI และPython ได้ง่ายขึ้นมากโดยการใช้พื้นที่การประมวลผลปัจจุบันสำหรับเวิร์กโหลด ML แทนที่จะต้องเริ่มต้นเป็นระบบพับบลิกคลาวด์
  • Domino Data Lab: VMware, Domino Data Lab และNVIDIA ได้ร่วมมือกันเพื่อนำเสนอความสามารถในการวิเคราะห์แบบครบวงจร(Unified Analytics), การทำ Data Science และแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Platform) ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมมีการตรวจสอบและช่วยสนับสนุนAI/MLโมเดลในอุตสาหกรรมการเงิน (Financial Services Industry) ต่างๆอีกด้วย
  • Global Systems Integrators:วีเอ็มแวร์กำลังทำงานร่วมกับบริษัท Global Systems Integrators ชั้นนำเช่นWipro และHCL เพื่อช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงประโยชน์ของPrivate AIโดยการสร้างและนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรที่รวมVMware Cloud เข้ากับโซลูชันระบบนิเวศของพันธมิตรAI
  • Hugging Face: VMware ร่วมมือกับHugging Face เพื่อเปิดตัวSafeCoder ซึ่งเป็นโซลูชันผู้ช่วยโค้ดเชิงพาณิชย์ที่สมบูรณ์แบบที่สร้างขึ้นสำหรับองค์กรรวมถึงบริการซอฟต์แวร์และการซัพพอร์ตการให้บริการต่างๆโดยวีเอ็มแวร์เองก็มีการใช้ประโยชน์จากSafeCoder ภายในองค์กรและเผยแพร่สถาปัตยกรรมอ้างอิงที่เราใช้งานมาแล้ว พร้อมตัวอย่างโค้ดเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ (time-to-value) ได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อใช้งาน โดยสามารถใช้งานSafeCoder บนโครงสร้างพื้นฐานของวีเอ็มแวร์อ่านบล็อกเปิดตัวฉบับเต็มได้ที่นี่
  • Intel: VMware vSphere/vSAN 8 และTanzu ได้รับการปรับให้เหมาะสมด้วยชุดซอฟต์แวร์AI ของIntel เพื่อใช้ประโยชน์จากตัวเร่งความเร็วbuilt-in AI บนโปรเซสเซอร์Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชัน4 รุ่นล่าสุด

นอกจากนี้วีเอ็มแวร์ยังเปิดตัวโปรแกรมVMware AI Readyซึ่งจะช่วยให้ISVมีเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นในการประเมินและรับรองผลิตภัณฑ์ของตนบนVMware Private AI Reference Architecture ซึ่งโปรแกรมนี้ถือเป็นการช่วยพัฒนาอีกรูปแบบหนึ่งที่ประกาศโดยVMware ISVที่เชี่ยวชาญด้านMLและLLM Ops,Data Engineerและฟีเจอร์เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาสำหรับAI และแอปพลิเคชันที่มีAIรวมอยู่จะสามารถเข้าถึงโปรแกรมนี้ได้คาดว่าโปรแกรมใหม่นี้จะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี พ.ศ.2566

ระบบIntelligent AssistผสมผสานGenerative AIเข้ากับมัลติคลาวด์ของVMware

วีเอ็มแวร์กำลังเปิดตัวระบบช่วยเหลืออัจฉริยะ(Intelligent Assist) ซึ่งเป็นกลุ่มโซลูชันgenerative AIที่ได้รับการเทรนโดยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของวีเอ็มแวร์เพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพและทำให้ทุกแง่มุมของไอทีระดับองค์กรเอนเตอร์ไพรส์ในยุคมัลติคลาวด์เป็นไปโดยอัตโนมัติVMware Private AI จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับขีดความสามารถIntelligent Assist ซึ่งจะเป็นการขยายการลงทุนของVMware Cross-Cloud Services ที่ดำเนินการโดยธุรกิจต่างๆได้อย่างราบรื่นผลิตภัณฑ์VMware ที่มีIntelligent Assist จะประกอบไปด้วย:

  • VMware Tanzu พร้อมด้วยIntelligent Assist (Tech Preview) จะจัดการกับความท้าทายของvisibility และการกำหนดค่ามัลติคลาวด์โดยอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถสนทนาและปรับแต่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ขององค์กรของตนผ่านระบบได้
  • Workspace ONE พร้อมด้วยIntelligent Assist (Tech Preview) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสคริปต์คุณภาพสูงโดยใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติเพื่อประสบการณ์การเขียนสคริปต์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • NSX+ พร้อมด้วยIntelligent Assist (Tech Preview) จะช่วยให้นักวิเคราะห์ความปลอดภัยสามารถระบุการค้นพบความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นซึ่งช่วยให้แก้ไขภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวประชาสัมพันธ์และข้อมูลเพิ่มเติม

อ้างอิง

  1. McKinsey & Company, “The economic potential of generative AI: The next productivity frontier,” June 2023.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *