จากการขยายขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการ Open Composable Compatibility Lab ไปจนถึงแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลใหม่และการรับรอง SSD ที่หลากหลาย เวสเทิร์น ดิจิตอล (Western Digital) กลายเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับการทำงานร่วมกันและการออกแบบที่มุ่งเน้นลูกค้าในสถาปัตยกรรมดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่
ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย และ ไทเป, 20 พฤษภาคม 2568 – เวสเทิร์น ดิจิตอล (Nasdaq: WDC) ยกระดับคำนิยามของความเป็นไปได้ในโครงสร้างพื้นฐานการเก็บข้อมูลสำหรับ AI และ แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning: ML) ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแยกส่วน (Disaggregated Storage) และการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Storage หรือ SDS) สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Solution Providers: CSPs) องค์กรธุรกิจ และผู้ให้บริการ STaaS ครอบคลุมตั้งแต่ JBOD (Just a Bunch of Disks) ที่มีความจุสูงและเชื่อถือได้ ไปจนถึง โซลูชันจัดเก็บข้อมูลแบบแยกส่วนความเร็วสูงสำหรับงานด้าน AI ด้วยเทคโนโลยี EBOF (Ethernet Bunch of Flash) บนมาตรฐาน NVMe-oF™ ที่มีความเร็วสูงสำหรับ AI ธุรกิจแพลตฟอร์ม (Platforms Business) ของบริษัทฯ นำเสนอโซลูชันระดับโลกที่ใช้ HDD และ SSD ที่สามารถรองรับงานที่ต้องการมากที่สุดในปัจจุบัน
ท่ามกลางเวิร์กโหลดที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ ML และข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดเก็บข้อมูลที่มีความยืดหยุ่น ขยายขนาดได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ระบบแบบเดิมอาจไม่สามารถรองรับความต้องการยุคใหม่ได้ทัน เพื่อตอบโจทย์นี้ เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้มอบทางเลือกให้ลูกค้าขยายระบบได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมลดข้อจำกัดจากการผูกขาดกับผู้ผลิตรายเดียว (Vendor Lock-in) โดยล่าสุด บริษัทฯ ประกาศขยายขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการ Open Composable Compatibility Lab (OCCL) พร้อมเปิดตัว Ultrastar® Data102 ORv3 JBOD รุ่นใหม่ และ OpenFlex® Data24 4100 ที่มาพร้อม SSD แบบพอร์ตเดี่ยว รวมถึงเพิ่มการรองรับ SSD รุ่นใหม่สำหรับแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลแบบ NVMe-oF ของ OpenFlex Data24 อีกด้วย
เปิด “OCCL 2.0” หรือ Open Lab เพื่อโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น
ห้องปฏิบัติการ Open Composable Compatibility Lab (OCCL) ของ เวสเทิร์น ดิจิตอล ในเมืองโคโลราโด สปริงส์ สหรัฐอเมริกา เร่งทดสอบการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่าย (Fabric-Attached Devices) และระบบการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (SDS) ทั่วทั้งอุตสาหกรรม ห้องปฏิบัติการ OCCL ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) และลูกค้าองค์กร โดยเป็นพื้นที่ทดสอบกลางที่ไม่ขึ้นกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง (Vendor-Neutral) เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมและเวิร์กโหลดจริง ช่วยให้สามารถประเมินความเข้ากันได้ของระบบ การทำงานร่วมกัน ประสิทธิภาพด้านพลังงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบได้อย่างแม่นยำ สำหรับสถาปัตยกรรม NVMe-oF รุ่นใหม่ ห้องปฏิบัติการ OCCL ให้บริการทดสอบที่ครอบคลุมทั้งระบบประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และเครือข่ายแบบแยกส่วน เพื่อช่วยให้องค์กรขยายระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสามารถใช้งานในสถานการณ์จริงได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยไฮไลต์สำคัญของห้องปฏิบัติการ OCCL 2.0 ได้แก่:
- สถาปัตยกรรมโซลูชัน: OCCL 2.0 จะสร้างแผนผังสถาปัตยกรรมโดยละเอียด เพื่อแนะนำแนวทางการปรับใช้และบริหารจัดการระบบแบบแยกส่วนที่สามารถประกอบได้ (Composable Disaggregated Infrastructure) อย่างมีประสิทธิภาพ
- แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแยกส่วน: OCCL 2.0 เน้นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบแยกส่วนเพื่อเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการขยายขนาดได้สูงสุดสำหรับองค์กร
- ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม: OCCL 2.0 เป็นแหล่งบ่มเพาะความเป็นผู้นำทางแนวคิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน (Composable Infrastructure) ตลอดจนแบ่งปันข้อมูลเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมล่าสุด
- การประเมินผลพาร์ตเนอร์ SSD: OCCL 2.0 รวบรวมผลลัพธ์การทดสอบจากเครื่องมือเปรียบเทียบ SSD เพื่อประเมินประสิทธิภาพของพันธมิตร SSD และเพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้ามีโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด
การพัฒนานี้ เสริมสร้างบทบาทของห้องปฏิบัติการ OCCL ในฐานะศูนย์ทดสอบชั้นนำของอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความร่วมมือกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ วางมาตรฐานผ่านการทดสอบเปรียบเทียบเพื่อกำหนดจุดควบคุมทางสถาปัตยกรรม และผลักดันการนำระบบนิเวศแบบเปิดมาใช้อย่างแพร่หลายแทนที่สถาปัตยกรรมแบบปิด (Proprietary Architectures)
รายชื่อพันธมิตรในระบบที่เข้าร่วมใช้ห้องปฏิบัติการ OCCL 2.0 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำ อาทิ Arista Networks, Broadcom, DapuStor, Graid Technology Inc., Ingrasys, Intel, Kioxia, MinIO, NVIDIA, OSNexus, PEAK:AIO, Phison, Sandisk, ScaleFlux, ThinkParq GmbH/BeeGFS และ Xinnor
เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์เวิร์กโหลดของคลาวด์ (Cloud) และองค์กร
ภายในงาน COMPUTEX 2025 เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ OpenFlex Data24 4100 EBOF ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Data24 4000 เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมอย่าง Data24 4200 ที่มี SSD แบบพอร์ตคู่อยู่แล้ว โดย Data24 4100 ได้รับการออกแบบมาสำหรับการทำงานที่คล้ายคลาวด์ โดยไม่จำเป็นต้องมีความพร้อมใช้งานระดับสูง (High Availability) เป็นข้อกำหนดหลัก ระบบนี้ จะใช้ SSD แบบพอร์ตเดี่ยว ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงสุดผ่านการเชื่อมต่อแบบจุดเดียว พร้อมความสามารถในการทำซ้ำข้อมูล (Mirroring) เพื่อรองรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง โซลูชันใหม่นี้ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงตัวเลือกที่ดีที่สุดในการปรับโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูล โดย Data24 4100 จะเริ่มวางจำหน่ายใน ไตรมาส 3 ของปี 2568
ในขณะเดียวกันนั้น เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังได้เปิดตัว Ultrastar® Data102 3000 ORv3 JBOD รุ่นใหม่ เพื่อรองรับความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของดาต้าเซ็นเตอร์ระบบคลาวด์ (Cloud Data Center) สอดคล้องกับแนวคิดของโครงการ Open Compute Project (OCP) รุ่นนี้ออกแบบตามข้อกำหนด Open Rack v3 (ORv3) ซึ่งให้ความสำคัญกับการออกแบบแร็คและการควบคุมแหล่งจ่ายไฟ โดยเป็นไปตามมาตรฐาน Rack Geometry Option 1 ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น ระบายอากาศได้มากกว่า และจัดการระบบได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ Ultrastar Data102 3000 ORv3 ยังใช้โครงสร้างร่วมกับผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ 3000 เช่น คอนโทรลเลอร์ โครงเครื่อง และชิ้นส่วนที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเองได้ (Customer Replaceable Units: CRUs) เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย FIPS 140-3 ระดับ 3 และข้อกำหนดของ TAA จึงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ โดยคาดว่า ผลิตภัณฑ์นี้ จะพร้อมจำหน่ายในไตรมาส 4 ของปี 2568
ความยืดหยุ่นและทางเลือก เพื่อรองรับผู้จำหน่าย SSD หลากหลายราย
ธุรกิจแพลตฟอร์ม (Platforms Business) ของ เวสเทิร์น ดิจิตอล เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการสนับสนุนกลยุทธ์ผู้จำหน่าย SSD หลายราย (Multi-SSD Vendor Strategy) ขณะนี้ บริษัทฯ ได้รับรอง SSD จากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำ เช่น DapuStor, Kioxia, Phison, SanDisk และ ScaleFlux โดยมีผู้จำหน่ายเพิ่มเติมอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรับรอง
แนวทางนี้ช่วยให้ทั้ง เวสเทิร์น ดิจิตอล และ ลูกค้าสามารถเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่ต้องการได้ พร้อมทั้งปรับประสิทธิภาพ ต้นทุน และความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสม ด้วยการสนับสนุนผู้ผลิต SSD หลายราย เวสเทิร์น ดิจิตอล มั่นใจว่า ลูกค้าสามารถเข้าถึงตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลของตน เสริมสร้างความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความเป็นเลิศในอุตสาหกรรม
“เมื่อเวิร์กโหลดมีความซับซ้อนมากขึ้น และ AI เร่งให้โครงสร้างพื้นฐานต้องตอบสนองรวดเร็วมากขึ้น องค์กรที่ประสบความสำเร็จในอนาคตคือผู้ที่สามารถขยายระบบอย่างชาญฉลาด ไปได้เร็วกว่า และพร้อมใช้งานได้อย่างมั่นใจ ด้วยห้องปฏิบัติการ Open Composable Compatibility Lab (OCCL) 2.0 และนวัตกรรมใหม่ของเราในด้านแพลตฟอร์ม เราไม่ได้เพียงแค่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางของดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ที่แยกส่วนได้และควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ ทั้งยังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนสถาปัตยกรรมแบบเปิดและยืดหยุ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวได้ตามความต้องการของข้อมูลที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง” คุณเคิร์ต ชาน (Kurt Chan) รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจแพลตฟอร์มของ เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าว
พบกับเราที่งาน Computex: ร่วมสัมผัสอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล
ขอเชิญเยี่ยมชมบูธของ เวสเทิร์น ดิจิตอล ที่งาน Computex ในกรุงไทเป ระหว่างวันที่ 20 – 23 พฤษภาคม 2568 ณ บูธ J1303a ฮอลล์ 1 โซน Storage and Management Solutions ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการหนานกัง เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
แพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลแบบ NVMe-oF “OpenFlex Data 24” ของ เวสเทิร์น ดิจิตอล, คอนโทรลเลอร์ RapidFlex™ NVMe-oF, แพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริด “Ultrastar Data102” และ “Ultrastar Transporter” จะถูกจัดแสดงภายในงานเช่นเดียวกัน
