กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 8 มกราคม 2568 – มีอะไรใหม่: ภายในงาน CES ปีนี้ อินเทลได้มีการประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมทั้งประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ที่ถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicles: SDVs) โดยปัจจุบันนี้อินเทลได้มีการนำเสนอแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์แบบครอบคลุมตั้งแต่การประมวลผลประสิทธิภาพสูง กราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การจัดการพลังงาน ไปจนถึงโซลูชันโซนัลคอนโทรลเลอร์ (Zonal Controller) พร้อมสภาพแวดล้อมการออกแบบเสมือน (Intel® Automotive Virtual Design Environment: VDE) ที่พัฒนาร่วมกับ Amazon Web Services (AWS) แนวคิดใหม่ของอินเทลในครั้งนี้จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความท้าทายด้านต้นทุนและความสามารถในการขยายประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถพัฒนาและปรับใช้ SDV ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรที่ดียิ่งขึ้น
“Intel Automotive กำลังนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนในการปฏิวัติ SDV ผ่านแนวคิด Whole-Vehicle Platform และผสานการทำงานบนคลาวด์ ในการช่วยนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรที่สามารถลดต้นทุนรวมในการพัฒนาและการใช้งาน พร้อมทั้งช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถพลิกโฉมอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรมากยิ่งขึ้น” นายแจ็ค วีสต์ (Jack Weast) นักวิชาการ รองประธาน และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายยานยนต์ของอินเทล กล่าว
เหตุใด Whole-Vehicle Platform จึงมีความสำคัญ: แพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์แบบครอบคลุมของอินเทลช่วยลดความซ้ำซ้อนและช่องโหว่ในด้านประสิทธิภาพจากสถาปัตยกรรมยานยนต์แบบแยกส่วนแบบดั้งเดิม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบ ทำให้สามารถลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมยกระดับสมรรถนะของยานยนต์
เพื่อให้แพลตฟอร์มนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อินเทลได้เปิดตัว Adaptive Control Unit (ACU) สำหรับระบบส่งกำลังของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแอปพลิเคชันโซนัลคอนโทรลเลอร์ (Zonal Controller Applications)
เกี่ยวกับ Adaptive Control Unit: ACU U310 คือหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่สนับสนุนการรวมฟังก์ชันที่ต้องทำงานแบบเรียลไทม์ มีความปลอดภัยระดับสูง และมีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (X-in-1) ไว้ในชิปเดียว ซึ่งต่างจากไมโครคอนโทรลเลอร์หรือโซนัลคอนโทรลเลอร์รุ่นเก่าที่ประมวลผลตามลำดับเวลาและต้องประสบกับข้อจำกัดในการจัดการโหลดงานหลายรูปแบบเนื่องจากประสิทธิภาพการประมวลผลแบบกำหนดได้ยังไม่เพียงพอ ในทางตรงกันข้าม อุปกรณ์ ACU รุ่นใหม่จากอินเทล มาพร้อมกับพื้นที่ลอจิกที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระของอัลกอริทึมควบคุมเรียลไทม์ออกจากแกนประมวลผล (CPU cores) เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพที่เสถียร มีความปลอดภัยจากการรบกวน (Freedom from Interference – FFI) และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างแม่นยำแม้ในขณะที่รวมงานหลายรูปแบบของไมโครคอนโทรลเลอร์ไว้ในหน่วยควบคุมโซนัลตัวเดียว โครงสร้าง “Dual-brain” นี้ช่วยให้การจัดการโหลดงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย ความมั่นคงทางไซเบอร์ และประสิทธิภาพโดยรวม
เมื่อใช้งานในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของยานยนต์ ACU U310 จะช่วยซัพพอร์ตโซลูชันอัลกอริทึมขั้นสูงที่ช่วยลดการใช้พลังงานของยานยนต์จากแบตเตอรี่ โดยปรับแรงดันไฟฟ้าแรงสูงและความถี่การควบคุมให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่และสภาพถนนของผู้ขับขี่แต่ละราย
นอกจากนี้ ACU ยังช่วยลดต้นทุนต่อกิโลวัตต์และเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน โดยสามารถกู้คืนพลังงานที่สูญเสียในระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าได้สูงถึง 40% ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพได้ระหว่าง 3% ถึง 5% ในการทดสอบ WLTP (Worldwide Harmonized Light Vehicles Test Procedure) ผลลัพธ์คือระยะการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น การชาร์จที่รวดเร็วขึ้น และประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนอุปกรณ์ของยานยนต์ (BOM) ขนาดมอเตอร์ไฟฟ้า และต้นทุนแบตเตอรี่ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม
- Stellantis Motorsports เลือกอินเทลเป็นพันธมิตรหลักด้านเทคโนโลยี โดยนำเทคโนโลยี Adaptive Control มาใช้ในระบบควบคุมอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันในสนามแข่ง เช่น การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าและการกู้คืนพลังงานในช่วงเบรก ซึ่งอินเวอร์เตอร์มีบทบาทสำคัญใน Formula E ที่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็สามารถแปลงเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ
- Karma Automotive ประกาศสนับสนุน ACU ของอินเทลโดยได้พัฒนาอินเวอร์เตอร์ร่วมกันที่มาพร้อมกับอัลกอริทึมควบคุม Optimal Pulse Pattern เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับโปรไฟล์การขับขี่ที่หลากหลายถึง 4 รูปแบบ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ เช่น Torque Ripple Reduction และ Range Boost
- ด้วยความสามารถในการตั้งโปรแกรมได้ ACU จึงกลายเป็นโซนัลคอนโทรลเลอร์ที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ครั้งแรก ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับโครงสร้างยานยนต์และการใช้งานที่แตกต่างกัน ความยืดหยุ่นนี้ช่วยลดความซับซ้อนในห่วงโซ่อุปทานและการผลิต BOM ของยานยนต์ พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ได้อย่างราบรื่น
โครงสร้างของรุ่นถัดไปถูกเสริมด้วย AI ภายในอย่างไร: อินเทลได้ประกาศเปิดตัวกราฟิก Intel® Arc™ ซีรีส์ B รุ่นที่สองสำหรับยานยนต์ ซึ่งพัฒนาจาก SDV System-on-chips (SoC) รุ่นแรกที่ปรับปรุงด้วย AI ของอินเทล โดยจะมีการผลิตในช่วงปลายปี 2025 โซลูชันนี้จะมอบประสิทธิภาพการคำนวณสูงที่จำเป็นสำหรับงาน AI ที่ซับซ้อนในยานยนต์ ระบบอินเตอร์เฟซระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร (HMI) รุ่นใหม่ และประสบการณ์ที่สมจริงในยานยนต์ พร้อมทั้งการเล่นเกมบนพีซีระดับ AAA และเมื่อจับคู่กับ SoC SDV ที่ได้รับการเสริมด้วย AI ของอินเทล โซลูชันนี้จะมอบประสิทธิภาพที่ปรับขยายได้สำหรับงาน AI ที่ซับซ้อน โดยได้รับการสนับสนุนจากระบบนิเวศ AI ที่กว้างขวางของอินเทล
อินเทลและ AWS ปฏิวัติการพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์อย่างไร: อินเทลและ AWS ได้เปิดตัว Intel Automotive Virtual Development Environment บน AWS ซึ่งเป็นแนวทางที่เปลี่ยนแปลงวงการยานยนต์ ช่วยให้การทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งเดียวกันตั้งแต่คลาวด์จนถึงรถยนต์ โซลูชันใหม่นี้ช่วยแก้ปัญหาตลอดวงจรการพัฒนายานยนต์ ทำให้วิศวกรสามารถสลับไปมาระหว่างการตั้งค่าฮาร์ดแวร์เสมือนและฮาร์ดแวร์จริงได้อย่างราบรื่น โดยบูรณาการบริการเว็บที่ให้พื้นที่การประมวลผลที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® บน Amazon EC2 และเป็นครั้งแรกที่ผสานรวม SoC สำหรับยานยนต์ SDV ของอินเทลไว้ภายในสภาพแวดล้อมของ AWS ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ Electronic Control Unit (ECU) ราคาแพงหรือบอร์ดสำหรับนักพัฒนา ความร่วมมือนี้มอบโซลูชันที่รวมเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังช่วยเร่งนวัตกรรม ลดต้นทุนการวิจัยและพัฒนา และเพิ่มความเร็วในการนำออกสู่ตลาด
เกี่ยวกับข้อได้เปรียบในระดับระบบของอินเทล: แนวทางการพัฒนายานยนต์แบบครบวงจรของอินเทล มอบประโยชน์มากมายให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ เช่น การลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ การพัฒนาอย่างราบรื่น การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน การผสมผสาน AI อย่างไร้รอยต่อ และการลดเวลาในการออกสู่ตลาด ทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนจากห่วงโซ่อุปทานที่กระจายทั่วมุมโลกของอินเทล