กรุงเทพฯ 1 มีนาคม2567 –แคนนอน อิงค์ ประกาศเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าบริษัทฯ ได้รับการยกย่องจากCDP[1] องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในสหราชอาณาจักรด้านการบริหารงานด้วยความโปร่งใสและความเป็นผู้นำด้านโครงการริเริ่มเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับการประเมินในระดับ A ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุด
CDP ได้ประเมินบริษัทรายใหญ่และรัฐบาลทั่วโลกเกี่ยวกับความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยประเมินจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยและการตอบคำถามที่ส่งถึงบริษัทเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยได้เพิ่มจำนวนบริษัทเป้าหมายให้มากขึ้นทุกปี จนกระทั่งในปัจจุบันมีองค์กรมากกว่า 24,000 แห่งทั่วโลกที่ยอมเปิดเผยข้อมูลผ่านแบบสอบถามในปี 2566 และนับเป็นปีที่ 3 ที่แคนนอนติดอันดับ A-List ในหมวดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยก่อนหน้านี้ได้รับการจัดอันดับใน A List เมื่อปี 2559 และ 2563
การดำเนินงานภายใต้ปรัชญาเคียวเซทำให้แคนนอนมุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมอย่างสมดุลระหว่างการยกระดับไลฟ์สไตล์และการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”“ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร”“สารเคมี” และ “ความหลากหลายทางชีวภาพ”ด้วยการกำหนดมาตรการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับเกณฑ์ SBTi[2] แคนนอนได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2[3] ทั้งหมดที่ 42%และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 33 ทั้งหมด (หมวดที่ 1 และ 113) ที่ 25%ภายในปี 2573 โดยกำหนดให้ปีฐานคือปี 2565
เมื่อปี 2551แคนนอนได้ตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดอายุการใช้งานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์เฉลี่ย 3% ต่อปีและสามารถบรรลุเป้าหมายแล้วถึง 44.4%[4] โดยเฉลี่ยที่ปีละ 3.95%4 (ตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2566) นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ (ขอบเขต 1-3) ภายในปี 2593 ด้วยการดำเนินแผนงานต่างๆ เช่น การใช้พลังงานทดแทนและกิจกรรมประหยัดพลังงานที่ไซต์การผลิต และการหมุนเวียนทรัพยากรขั้นสูง รวมถึงการใช้ซ้ำผลิตภัณฑ์และการรีไซเคิล
แคนนอนจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการเพื่อช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกภาคส่วนของสังคม