- บ้านสมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็มกับแพล็ตฟอร์ม SmartThings ระบบบ้านอัจฉริยะ
- สมาร์ทโฮมไอโอทีและระบบไฟไอโอทีไร้สายอัจฉริยะ
กรุงเทพฯ8พฤศจิกายน2566 – ครั้งแรกของการจับมือระหว่างสี่แบรนด์ยักษ์ใหญ่วงการHome & Living ระดับประเทศอย่างซัมซุง – เอสบีดีไซน์สแควร์ – คอปเปอร์ไวร์ด – ฟิลิปส์ฮิวประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญเนรมิตSmart Home Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทยด้วยบ้านสมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็มกับแพล็ตฟอร์มSmartThings ระบบบ้านอัจฉริยะที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฮมไอโอทีและระบบไฟไอโอทีไร้สายอัจฉริยะมอบความสะดวกสบายให้คนไทยเข้าถึงสมาร์ทโฮมรูปแบบใหม่แบบครบวงจรณเอสบีดีไซน์สแควร์สาขาคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC)
พิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอสบีเฟอร์นิเจอร์เผยว่าจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคสู่ยุค“Life is connected everywhere” ทำให้เกิดการพัฒนาแนวคิด “Connect Your Home” ให้สามารถใช้ชีวิตเชื่อมต่อกับบ้านได้ในทุกที่ทุกเวลาแม้จะไม่ได้อยู่บ้านก็ตามความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการส่งมอบบริการสมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็มแบบครบจบในที่เดียวย้ำความเป็นThe Best Smart Home Design Solutions Destination ทั้งยังได้ร่วมสร้างสรรค์Smart Home Flagship Store แห่งแรกของไทยขึ้นที่เอสบีดีไซน์สแควร์สาขาคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) ให้ลูกค้าที่เข้าชมได้รับประสบการณ์ตรงนำสู่การสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่สมาร์ทยิ่งขึ้นโดยผู้บริโภคจะได้เห็นSmart Home ที่เพียบพร้อมด้วยการออกแบบตกแต่งBuilt-in Furniture ในทุกห้องทั้งห้องครัวห้องอาหารห้องนั่งเล่นห้องทำงานห้องนอนผสานการติดตั้งอุปกรณ์IoT อัจฉริยะจากแบรนด์พันธมิตรและสามารถควบคุมการทำงานผ่านแพล็ตฟอร์มSmartThings เพียงแพล็ตฟอร์มเดียวสำหรับเอสบีดีไซน์สแควร์Behavior journey ของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญการถอดรหัสข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาLifestyle Shopping Experience คือจุดริเริ่มบริการใหม่ๆอย่างไม่หยุดยั้งและได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็นLife Connect ซึ่งเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้และพร้อมจะสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆให้กับลูกค้าอยู่เสมอเพื่อย้ำถึงวิสัยทัศน์แห่งผู้นำ
“ปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่างมีความต้องการเกี่ยวกับTotal interior solutions ครอบคลุมทั้งเรื่องเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินงานออกแบบตกแต่งและงานระบบต่างๆภายในบ้านซึ่งในตลาดปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถให้บริการในแบบครบทั้งระบบจึงเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดด้วย “สมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็ม”แบบครบวงจรที่สุดของไทยซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าทำให้คนไทยเข้าถึงการมีSmart Home ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยการสั่งงานบนแอปพลิเคชันเดียว”นายพิเดชกล่าว
เจนนิเฟอร์ซองประธานบริษัทไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์จำกัดกล่าวว่า “ทุกวันนี้ผู้คนอาศัยอยู่ในโลกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วซัมซุงมีแนวทางการดำเนินงานในการจุดประกายแรงบันดาลใจและสร้างวิถีแห่งอนาคตด้วยความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอบรับวิสัยทัศน์ของซัมซุงที่ว่า“Bring Calm to Our Connected World” โดยภารกิจของซัมซุงคือการนำความสงบมาสู่โลกที่เชื่อมต่อผ่านศูนย์กลางการควบคุมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้านั่นก็คือSmartThings แพล็ตฟอร์มที่จะช่วยบริหารจัดการชีวิตท่ามกลางอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายภายในบ้านในชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้นสะดวกสบายขึ้นเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นบ้านสมาร์ทโฮมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในปัจจุบันซัมซุงเชื่อว่าการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่หลากหลายจะช่วยผลักดันSmartThings Ecosystem ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและมีความแข็งแกร่งมากขึ้นโดยโครงการนี้จะมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่สมาร์ทง่ายและสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแท้จริง”
SmartThings คือระบบบ้านอัจฉริยะระดับท็อปของโลกที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างง่ายดายและราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัสสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์IoT สูงสุด200 ชนิดปัจจุบันSmartThings ได้เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกมากมายกว่า5,000ชนิดจาก300แบรนด์สามารถตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหมดในที่เดียวด้วยSmartThings บนสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, สมาร์ตวอทช์, ทีวีและตู้เย็นโดยโหลดได้ทั้งAndroid และIOS ทำให้บ้านมีความทันสมัยฉลาดสะดวกรวมถึงช่วยควบคุมการใช้พลังงานอย่างเห็นผลด้วยAI Energy Mode ที่ช่วยประหยัดค่าไฟสูงสุด 70% ทำให้เป็นเบอร์หนึ่งในการช่วยลดค่าไฟในแต่ละเดือน
โดยSmartThings เป็นแพล็ตฟอร์มที่คนนิยมใช้ทั่วโลกการันตีด้วยยอดดาวน์โหลดแล้ว288ล้านครั้งทั่วโลกและมีผู้ใช้มากกว่า2.4 ล้านคนทั่วประเทศไทย
ปรเมศร์เหรียญเจริญสุขประธานบมจ.คอปเปอร์ไวร์ดเผยว่า “ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์คอปเปอร์ไวร์ดมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีพร้อมตอบสนองลูกค้าทุกเพศทุกวัยให้มีไลฟ์สไตล์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลายหมวดหมู่มากกว่า2,000รายการจาก200แบรนด์ตั้งแต่เซ็นเซอร์อัจฉริยะไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านSmart Home และมอบความยืดหยุ่นในการปรับแต่งโซลูชันบ้านอัจฉริยะตามความต้องการของผู้บริโภคซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์IoT หลากหลายแบรนด์ชั้นนำจากคอปเปอร์ไวร์ดอาทิAqara, Switchbot ,Nanoleafเพื่อส่งมอบโซลูชันสำหรับที่อยู่อาศัยที่ทันสมัยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบยุคใหม่”
จาร์กันนาธานศรีนิวาสานกรรมการผู้จัดการบริษัทซิกนิฟายคอมเมอร์เชียลประเทศไทยจำกัดกล่าวว่า
“เป็นเวลากว่า 71 ปีในประเทศไทยที่ฟิลิปส์ส่งมอบนวัตกรรมและแสงสว่างที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ให้กับคนไทยตลอดมาจากการเป็นแบรนด์หลอดไฟและโคมไฟLED อันดับ1ในใจผู้บริโภคคนไทยกว่า23ปีซ้อนปัจจุบันIoT มีบทบาทในการอำนวยความสะดวกให้ชีวิตผู้คนฟิลิปส์ในฐานะผู้นำด้านแสงสว่างระดับโลกมีนวัตกรรมระบบไฟไอโอทีอัจฉริยะเพื่อบ้านชั้นนำระดับท็อปของโลกอย่างPhilips Hue (ฟิลิปส์ฮิว) ซึ่งช่วยยกระดับแสงไฟในบ้านเพื่อตอบทุกไลฟ์สไตล์พร้อมประหยัดพลังงานความร่วมมือในครั้งนี้เราต้องการมอบความสุขและความสบายให้กับคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นแบรนด์มาอย่างยาวนานและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทซิกนิฟายผู้บริหารแบรนด์Philips lighting ที่ว่า
“Brighter lives, Better world” เพื่อชีวิตที่สดใสของผู้คนและเพื่อโลกที่น่าอยู่กว่าเดิมซึ่งฟิลิปส์ฮิวนั้นถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรกับแพล็ตฟอร์มSmartThings ในระดับโลกอยู่แล้วเราจึงยิ่งรู้สึกยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในพันธมิตรรายสำคัญในอีโคซิสเต็มนี้ที่ร่วมกันขับเคลื่อนSmart Home ในประเทศไทยโดยฟิลิปส์ฮิวจะช่วยให้คนไทยได้เปิดประสบการณ์การใช้Smart IoT Lighting ที่มีคุณภาพสูงใช้งานง่ายสะดวกสบายเพิ่มความปลอดภัยให้บ้านรองรับกับพันธมิตรIoT มากมายระดับโลกและมีระบบCloud server ที่เสถียรระดับโลกรวมถึงช่วยโลกลดการใช้พลังงานโดยนอกจากบ้านที่สวยมีสไตล์และสมาร์ทแล้วฟิลิปส์ฮิวยังเข้ามาเติมเต็มในส่วนของ “อารมณ์”และ”ความสนุกสนาน” ที่บ้านอีกด้วยผ่านการตั้งค่าแสงแบบซีนต่างๆทั้งแบบสำเร็จรูปและเลือกตั้งค่าเองอีกทั้งผู้บริโภคสามารถพบกับประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับโดยสามารถ
Sync แสงไฟกับหนัง, เกมConsole & PC และเสียงเพลงเช่นSpotify เป็นต้นยิ่งช่วยสร้างประสบการณ์แสงแบบDynamic ให้กับเจ้าของบ้านและเพื่อนที่มาบ้านต้องWow ไปด้วยกัน”
Smart Home Flagship Store แบ่งออกเป็น3โซน
Zone 1: Pantry room
สร้างโมเมนต์ธรรมดาให้เป็นโมเมนต์ที่ไม่มีวันลืมด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมวัตถุดิบที่สามารถจัดเตรียมได้ก่อนถึงบ้านหรือจะสร้างบรรยากาศของการทำอาหารให้สนุกสุดเหวี่ยงอีกทั้งเรื่องซักผ้าไม่ต้องกลายเป็นเรื่องไกลถึงหลังบ้านอีกต่อไปควบคุมการซักผ้าที่ทั้งประหยัดและสะดวกสบายปล่อยให้เรื่องซักผ้าเป็นเรื่องของคุณผู้ชายได้เลย
Zone 2: Bedroom
เปลี่ยนห้องนอนให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสุดล้ำไม่ว่าจะพักผ่อนหรือทำกิจกรรมความบันเทิงต่างๆสร้างAmbient ให้ห้องดูชิคด้วยซีนไฟหลากหลายแบบสร้างโรงหนังส่วนตัวด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยพร้อมเพลิดเพลินกับสื่อความบันเทิงที่สะดวกสบายที่สุดยกระดับความบันเทิงที่บ้านสู่บทใหม่ด้วยการSync แสงไฟไปกับหนังเกมหรือเสียงเพลงเพิ่มอรรถรสอย่างที่ไม่เคยมีมาอีกทั้งช่วยให้เข้านอนได้อย่างไร้กังวลเพียงปลายนิ้วสัมผัส
Zone 3: Living room
สร้างมุมพักผ่อนในห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่สุดชิลที่เจ้าของและสัตว์เลี้ยงสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจด้วยระบบอัตโนมัติภายในห้องที่จะช่วยควบคุมทุกอย่างภายในห้องได้อย่างง่ายดายทำให้การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
ผู้สนใจอยากสัมผัสประสบการณ์สมาร์ทโฮมเต็มรูปแบบสามารถเยี่ยมชมได้ที่เอสบีดีไซน์สแควร์สาขาคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
#LifeConnectedwithSmartThingsEcosystem
#เชื่อมต่อเพื่อชีวิตที่สมาร์ท
#SmartHomeDesignSolutions
#ดีไซน์โซลูชันส์เพื่อชีวิตที่สมาร์ท