Infinix ZERO 20 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพโดยเฉพาะกับกล้องหน้า มาพร้อมกับสโลแกน “Capture Your Own Story from ZERO 20” ถือว่าเป้นรุ่นแรกของโลกที่มากับกล้องหน้าความละเอียด 60MP มีระบบกันสั่น OIS โดยกล้องหน้าสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียด 2K 30fps ได้ด้วยนะครับ เอาใจสาย Vlog โดยเฉพาะเลย ส่วนกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 108MP จัดเต็มจริงๆทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลยครับ
SPEC Infinix ZERO 20
- หน้าจอ AMOLED Cinematic Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080×2400 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 90Hz
- รองรับ 4G LTE
- ชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G99
- GPU Mali G57
- RAM 8 GB รองรับเทคโนโลยี Extended RAM
- ROM 256 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 12
- ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียง DTS audio (เมื่อเสียบหูฟัง)
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W
- ราคา 8,999 บาท
แกะกล่องเช็คของ
ชุดที่ผมรีวิวจะพิเศษหน่อยนะครับ เพราะเป็นรุ่นที่ร่วมมือพัฒนากับทาง Discovery นะครับจะมากับชุดบันเดิ้ลใหญ่นิดนึง โดยภายในกล่องใหญ่จะมีไม้เซลฟี่ / กล่องแข็งใช้งานเป็นสแคตน / รูปภาพที่ถ่ายจากทีมงาน Discovery ประมาณนี้นะครับที่เพิ่มเข้ามา
ส่วนอุปกรณ์พื้นฐานภายในกล่องจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Infinix ZERO20
- Adapter ขนาด 45W
- สาย USB-C
- เคสซิลิโคนใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Infinix ZERO20 มาพร้อมกับหน้าจอแบบ AMOLED Cinematic Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080×2400 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 90Hz หน้าจอถือว่าแสดงผลได้คมชัดสวยงาม มีโหมดถนอมสายตามาให้ ผ่านการรองรับจากทาง TÜV Rheinland
หน้าจอทรงติ่งหยดน้ำ ภายในจะติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 60 ล้านพิกเซลมาให้ พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS และจะมีเซนเซอร์พร้อมกับลำโพงสนทนา (ใช้งานเป็นลำโพงตัวที่สองได้ด้วย)
ด้านล่างตัวเครื่องจะมี รูหูฟังขนาด 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB-C และลำโพงตัวเครื่อง
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของถาดซิมการ์ด ถาดซิมจะเป็นแบบ 3 สล็อตนะครับ รองรับ 2 SIM+1 MicroSD
ด้านบนจะเป็นช่องลำโพง และไมค์ตัดเสียงรบกวน
ฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power / ส่วนของปุ่ม power จะติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้วย
กรอบเหลี่ยมชุบโครเมี่ยม ด้านหลังจะเป็นพื้นเรียบๆ การวางตำแหน่งกล้องแบบ Symmetrical Geometric Design โดยชูวงแหวนเลนส์คู่และมีไฟ LED ตัวเครื่องเน้นความบางและเบา
ขนาดตัวเครื่อง 164.43×76.66×7.98 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม เมื่อถือใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Infinix ZERO20 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย XOS 12 เมนูและ UI เน้นความเรียบง่าย ฟังก์ชั่นพิเศษก็จะมี โซเชียลเทอร์โบช่วยให้การใช้งานโซลเชียลเร็วขึ้น / XClone สำหรับการใช้งานแอพคู่ และมีโหมดสำหรับเด็กเพื่อจำกัดแอพและเวลาในการใช้งาน
ประสิทธิภาพการทำงาน
Infinix ZERO20 เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G99 / GPU Mali G57 เป็นชิปที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักนะครับ เรื่องการใช้งานทั่วไปไม่ต้องกังวลครับใช้งานไหลลื่นแน่นอน ส่วนการเล่นเกมจะมีโหมดเกมมาให้ ตัวเครื่องมีระบบระบายความร้อนแบบ VC Liquid-cooled Three-dimensional Cooling System
หน่วยความจำ
- RAM 8 GB รองรับเทคโนโลยี Extended RAM สามารถเพิ่มได้อีก 5GB
- ROM 256 GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำ MicroSD
จากที่ทดสอบเล่นเกม เล่นได้ไหลลื่นดี ตัวเครื่องจัดการความร้อนได้ดีเช่นกัน
กล้องถ่ายรูป
กล้องหน้า ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS และระบบ AUTO FOCUS กล้องหน้ารองรับการถ่ายวีดีโอ 2K 30FPS/1080P 60FPS/1080P 30FPS
กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้
- เลนส์หลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล
- เลนส์อัลตร้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- เลนส์วัดความลึก 2 ล้านพิกเซล
โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ใช้โหมด auto
แบตเตอรี่
Infinix ZERO20 ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W สามารถชาร์จจาก 0-75% ภายใน 30 นาที ระบบแบตเตอรี่และการชาร์จผ่านการรองรับจาก TÜV Rheinland Security Certified มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยไปได้เลยครับ ภายในกล่องแถมที่ชาร์จเร็วมาให้ภายในกล่อง ระยะการใช้งานของแบตต่อการชาร์จหนึ่งรอบถือว่าจัดการพลังงานได้ดีครับ
สรุป
ช่วงหลังๆเหมือนทาง Infinix เริ่มจับทางลูกค้าได้แล้ว โดยจะแบ่งกลุ่มลูกค้าหลักสองกลุ่มคือ สายเกม และสายถ่ายภาพ โดยรุ่นนี้เน้นเรื่องการถ่ายภาพเป็นหลักและเอาใจกลุ่มที่ถ่าย VLOG จากกล้องหน้าด้วยระบบกันสั่น OIS ด้วย ส่วนการถ่ายวีดีโอสามารถถ่ายความละเอียดสูงถึง 2K กันเลยทีเดียว
ตัวเครื่องสวยงาม สเปคที่ให้มาครบครัน ใครชอบการถ่ายภาพรุ่นนี้น่าจะเหมาะสม น่าจะตอบโจทน์ท่านได้แน่นอนครับ