หัวเว่ยจัดงานสัมนาHealthcare Summit ครั้งแรกในไทย ลุยโชว์ศักยภาพเทคโนโลยีระดับโลก เสริมศักยภาพวงการแพทย์ไทย

กรุงเทพฯ30พฤษภาคม พ.ศ.2566– บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Healthcare Summit Thailandซึ่งถือเป็นมหกรรมงานอัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีเพื่อการแพทย์และสุขภาพครั้งสำคัญในไทย โดยได้เปิดเผยถึงเทรนด์ที่น่าสนใจล่าสุดและนวัตกรรมใหม่ๆในภาคอุตสาหกรรมสาธารณสุขมุ่งหวังผลักดันให้บุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาและบริการที่ดีที่สุด รวมไปถึงเทคโนโลยีระดับโลกมุ่งผลักดันอุตสาหกรรมภาคสาธารณสุขไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลสามารถประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีไปจนถึงพัฒนาโซลูชันและแอปพลิเคชันด้านการดูแลผู้ป่วย

นายเดวิดหลี่ประธานกรรมการบริหารบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า “ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านบริการและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อตอกย้ำเป้าหมายในการมุ่งสู่เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคนี้ภายใต้วิสัยทัศน์Thailand 4.0 ทำให้เรามุ่งให้ความสำคัญกับการเร่งยกระดับรากฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นอันดับแรก ๆ ”

ภารกิจของหัวเว่ยคือการ “เติบโตในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย” ซึ่งหัวเว่ยจะเน้นไปใน2ทิศทางหลักอันดับแรกคือการเน้นเพิ่มขีดความสามารถของพันธมิตรและระบบนิเวศของอุตสาหกรรมสาธารณสุขในประเทศไทยผ่านโครงการและแผนงานต่างๆ พร้อมทั้งแนะนําแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากประสบการณ์ของภาคอุตสาหกรรมระดับโลกให้แก่ประเทศไทยอันดับที่สองคือหัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นจัดหาโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนลูกค้าและสนับสนุนเป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรม

ในปัจจุบันหัวเว่ยมีผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรและได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น พยาธิวิทยาดิจิทัล (Digital Pathology), หอพักผู้ป่วยอัจฉริยะ(Smart Ward) และระบบจัดการโรงพยาบาลเสมือน(Hospital Operation Center หรือDigital Twin) ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของโครงสร้างเทคโนโลยีที่โดดเด่นจากหัวเว่ย เช่น 5G, Wi-Fi6และเทคโนโลยี all-flash Storage นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีพันธมิตรในอุตสาหกรรมมากกว่า 3,000 รายรองรับการให้บริการแก่องค์กรด้านสาธารณสุขมากกว่า 5,000 แห่งในประเทศต่าง ๆ กว่า 90 ประเทศทั่วโลก

ด้าน ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ วิทูรกลชิตผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศไทยและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทสบายอินฟราสตรัคเจอร์จำกัดได้เปิดเผยว่า “สาเหตุที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีในการแพทย์ยุคใหม่ก็เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการรักษาคนไข้ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการเช่นด้านการรอคิวการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวการยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของผู้ป่วยและการเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น”

ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ยังระบุว่าระบบการเชื่อมโยงข้อมูลคนไข้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อทั้งในและนอกโรงพยาบาล น่าจะเกิดขึ้นภายในเวลา 5 ปีรวมไปถึงการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของสถานพยาบาลต่างๆโดยไม่ละเมิดด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าแนวโน้มเรื่องการนำเทคโนโลยี Internet of Medical Things (IOMT) ในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้นตลอดจนเรื่องบิ๊กดาต้าการวิเคราะห์ข้อมูล และการบริโภคในตลาดการแพทย์ (Consumerism in the medical market)ที่จะมีทั้งในมุมที่ดีและไม่ดีทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยาและเครื่องมือทางการแพทย์ได้ง่ายมากขึ้นและการแพทย์ทางไกลจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องพึ่งการมีระบบที่ดีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและยังรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับคนไข้ได้ด้วย

 

“หัวเว่ยมั่นใจและพร้อมที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมสาธารณสุขไทยเราจะเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมสาธารณสุขและสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างรากฐานทางดิจิทัลบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ทั้งนี้เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศไทยให้แข็งแกร่งที่สุด” นายเดวิดกล่าวปิดท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *