Sennheiser Accentum Plus Wireless มาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยมกับค่าตัวเบาๆเพียง 8,990 บาท จุดเด่นของรุ่นนี้คือมาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาด 37mm (Dynamic Transducer)ช่วยถ่ายทอดคุณภาพเสียงชัดเจนมีพลัง ตัวหูฟังมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Adaptive Noise Cancellation แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ชม. ต่อการชาร์จแบตหนึ่งรอบ รองรับชาร์จเร็ว(Quick charge) ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชม.
SPEC Sennheiser Accentum Plus Wireless
- ไดร์เวอร์ขนาด 37mm (Dynamic Transducer)
- ระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Adaptive Noise Cancellation
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2
- Speaker frequency range : 10 Hz to 22 kHz
- Supported codecs : SBC, AAC, aptX™, aptX adaptive™, mSBC,
CVSD - Mic pick-up pattern : 2 mics, beamforming for noise
reduction - รองรับการใช้งานควบคุม Touch control
- แบตเตอรี่ 800mAh สามารถใช้งานได้ 50 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งรอบ
- รองรับชาร์จเร็ว(Quick charge) ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชม.
- ราคา 8,990 บาท รับประกัน 2ปี มีสองสีให้เลือก ได้แก่ Black และ White
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวหูฟัง
- เคสกระเป๋าผ้า
- สาย USB-C
- สายหูฟัง 3.5มม.
- คู่มือการใช้งาน
การออกแบบดีไซน์
Sennheiser Accentum Plus หูฟังครอบหัวแบบ Full Size ที่มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา วัสดุโดยรวมคือพลาสติกนะครับ ดีไซน์คล้ายๆกับ Momentum 4 พอสมควร จุดเด่นของการออกแบบลักษณะนี้คือ สามารถสวมใส่สบายกระชับหัว สีที่ผมรีวิวคือสีดำนะครับ
ขนาดหูฟังอยู่ที่ 165 x 195 x 48 มม. น้ำหนัก 227 กรัม
ตรงส่วนของเฮดแบนด์จะเป็นซิลิโคนที่มีความหนาเป็นพิเศษ ช่วยให้เวลาสวมใส่ไม่กดทบทับหัวเราจนเกินไป
ฟองน้ำมีความนุ่นสวมใส่ได้ทั้งวันสบายๆ
ตัวครอบหูสามารถปรับองศาได้เยอะพอประมาณ ช่วยให้สวมใส่กระชับขึ้น
ตัวครอบหูฟังด้านขวา จะรองรับ Touch control สำหรับทัชสั่งงาน คู่มือจะแจ้งรายละเอียดชัดเจน
และด้านขวาเช่นกันด้านล่างจะมีปุ่ม MAIN BUTTON สำหรับควบคุมการทำงานของหูฟังทั้งการเชื่อมต่อ และสำหรับปิด-เปิด มีไฟแสดงสถานะการทำงานให้ทราบ
ด้านล่างฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB-C และช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย 3.5มม.
การใช้งาน
สำหรับการเชื่อมต่อจะเป็นแบบ Bluetooth 5.2 หรือใช้งานผ่านสาย 3.5 มม. ก็ได้เช่นกันนะครับ ถ้าใช้งานผ่านสมาร์ตโฟนแนะนำให้ติดตั้งแอพเพื่อการปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียดนั้นเอง แอพชื่อว่า Sennheiser Smart Control นั้นเอง
เมื่อติดตั้งแล้วจะเข้าไปตั้งค่าต่างๆได้อย่างละเอียดมาก ทั้งระบบตัดเสียงรบกวน, ปรับแต่ง EQ, รวมไปถึงการอัพเดทเฟริมแวย์รุ่นใหม่ๆด้วย
คุณภาพเสียง
จากที่ผมทดสอบการใช้หูฟังมาหนึ่งเดือนเต็ม คุณภาพเสียงถือว่าได้ตามเกณฑ์มาตราฐานของทาง Sennheiser โหมด Sound Personalization ไว้ใจได้เสมอครับ โทนเสียงจะเน้นไปทางฟังสบาย เน้นโทนกลางจะเด่นมากๆ มีเบสบ้างแต่ไม่ได้ลูกใหญ่จนกลบรายละเอียดย่านอื่นไปหมด เป็นหูฟังที่ฟังสบายฟังได้ตลอดวันครับ ถือว่าดีมากในเรทราคานี้
จุดเด่นที่น่าสนใจ
- รองรับ Codec: SBC, AAC, aptX และ aptX HD
- ไมค์สองตัว มีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้ เสียงสนทนาหรือพูดคุยเวลประชุมชัดเจนดี
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่เชื่อมต่อเสถียรขึ้น
- ไดร์เวอร์ขนาด 37mm (Dynamic Transducer) ช่วยขับเสียงให้มีพลัง
- มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 50 ชม. เมื่อใช้โหมดตัดเสียงรบกวน
- หูฟังมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
- ราคา 8,990 บาท รับประกันยาวๆ 2ปี