- เปิดตัวฟีเจอร์ Einstein Copilotผู้ช่วยการสนทนาด้วยนวัตกรรม Generative AI เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงานและตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่เจาะจง
- ใหม่!Einstein 1 Platformเพื่อการใช้งานร่วมกับ Data Cloud เพิ่มความสะดวกในการสร้างแอปและเวิร์กโฟลว์รูปแบบ low-code ที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอแก่ธุรกิจ
- เผยรายงานล่าสุดจาก IDC ซึ่งคาดการณ์ว่า ระหว่างปีพ.ศ. 2565 – 2571 Salesforce AI Economy จะสร้างรายได้สุทธิ 02 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายได้ของธุรกิจทั่วโลก และสร้างงานใหม่ 11.6 ล้านตำแหน่งทั่วโลก
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 19กันยายน 2566 – Salesforce (เซลส์ฟอร์ซ)บริษัท AI CRM อันดับ 1 ประกาศความก้าวหน้ายิ่งใหญ่ของโซลูชั่น Einstein เทคโนโลยีเอไอภายใต้เอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท และ Data Cloud โซลูชั่นข้อมูลไฮเปอร์สเกลแบบเรียลไทม์ที่งานDreamforce 2023 ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวนี้จะมุ่งพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าพร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานมากยิ่งขึ้น
ผลการศึกษาล่าสุดจาก IDC เผยว่าคลื่นลูกใหม่จาก Generative AI จะช่วยเร่งโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับเซลส์ฟอร์ซและระบบนิเวศของบริษัท โดย IDC คาดการณ์ว่า Salesforce AI Economy จะสร้างรายได้สุทธิ 2.02 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายได้ของธุรกิจทั่วโลก และสร้างงานใหม่ 11.6 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2571
Einstein รุ่นใหม่ล่าสุด สู่การเป็นผู้ช่วยการสนทนาที่น่าเชื่อถือพร้อมทั้งขับเคลื่อนด้วย Generative AI
โซลูชั่น Einstein ของเซลส์ฟอร์ซเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้นวัตกรรมจาก Generative AI อย่างEinstein Copilotซึ่งจะเป็นผู้ช่วยเอไอสำหรับการสนทนา ฟีเจอร์ดังกล่าวติดตั้งอยู่บนแอป CRM ทั้งหมดเพื่อสนับสนุนทุกการใช้งานของลูกค้า โดยฟีเจอร์ Einstein Copilot จะช่วยสร้างเวิร์กโฟลว์การทำงานที่ไร้รอยต่อ พร้อมช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านการใช้ Natural Language ในการถามคำถาม และรับข้อมูลคำตอบที่มีความเกี่ยวข้องและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลเอกสิทธิ์ของเซลส์ฟอร์ซที่ปลอดภัยจาก Data Cloud
นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เจาะจงของแต่ละธุรกิจ เซลส์ฟอร์ซได้เปิดฟีเจอร์Einstein Copilot Studio ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่ง (Customise) ฟีเจอร์ Einstein Copilot ผ่านพร้อมท์ (Prompts)ที่เจาะจง หรือผ่านทักษะและโมเดลเอไอที่เจาะจง ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปิดดีลได้ไวยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับงานบริการลูกค้า ไปจนถึงการปรับแต่งพร้อมท์รูปแบบ Natural Language ให้กลายเป็นโค้ด เป็นต้น มากไปกว่านั้น ฟีเจอร์ Einstein Copilot Studio ยังสามารถตั้งค่าให้ Einstein Copilot สามารถใช้งานนอกแอปพลิเคชันของเซลส์ฟอร์ซได้อีกด้วย เพื่อใช้บนช่องทางติดต่อลูกค้าอื่น ๆ อาทิ ช่องทางเว็บไซต์, Slack, WhatsApp หรือ SMS เพื่อขับเคลื่อนแชทแบบเรียลไทม์
ฟีเจอร์ Einstein Copilot และ Einstein Copilot Studio จะใช้งานภายใต้Einstein Trust Layerซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเอไอที่ปลอดภัยและสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของเซลส์ฟอร์ซ เพื่อสร้างผลลัพธ์อันมีคุณภาพจากเอไอโดยอ้างอิงจากข้อมูลลูกค้า ในขณะเดียวกันยังสามารถรักษามาตรฐานความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลบริษัทไปพร้อมกันสำหรับธุรกิจที่ใช้งาน
ใหม่! Einstein 1 Platform ใช้คู่กับ Data Cloud รองรับ Big Data และขับเคลื่อน Low-Code Metadata บนแอปพลิเคชันเอไอ
Einstein 1 Platform สร้างขึ้นบนเฟรมเวิร์คเมตาดาต้าของเซลส์ฟอร์ซ โดยเป็นอีกขั้นของความก้าวหน้าสำหรับData CloudและEinsteinแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยบริษัทต่าง ๆ เชื่อมต่อ จัดระเบียบ และทำความเข้าใจข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชันเซลส์ฟอร์ซต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังสร้างการมองเห็นข้อมูลที่ทั่วถึงของทั้งองค์กร ไม่ว่าข้อมูลจะมีโครงสร้างอย่างไรในระบบภายใน ทั้งยังสามารถช่วยองค์กรในการปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้และข้อมูลการดำเนินการโดยใช้บริการแพลตฟอร์มแบบ low-code อื่น ๆ อาทิ:
- การใช้Einsteinสำหรับคาดการณ์และสร้างเนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ
- การใช้Flowสำหรับการทำออโตเมชั่น
- การใช้Lightningสำหรับส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งานหรือ user interfaces
Date Cloud รุ่นใหม่ล่าสุดถูกผสานเข้ากับ Einstein 1 Platform เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปลดล็อกการใช้ข้อมูลในการสร้างโปรไฟล์ลูกค้าพวกเขาให้สมบูรณ์และมีความเป็นหนึ่งเดียว พร้อมส่งมอบประสบการณ์ CRM แบบใหม่ให้แก่ผู้ใช้งาน
- Data at Scale: Einstein 1 Platform รองรับข้อมูลเมตาดาต้า (Metadata-enabled objects) เป็นพันรายการ โดยแต่ละอ็อบเจ็กต์สามารถมีแถวได้หลายล้านล้านแถว นอกจากนี้Marketing CloudและCommerce Cloudยังมีการอัปเกรดใหม่ให้สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์มนี้อีกด้วย
- Automation at Scale: ข้อมูลจำนวนมหาศาลสามารถถูกนำไปใช้งานได้ทันทีในรูปแบบเซลส์ฟอร์ซออบเจ็กต์บน Einstein 1 Platform โฟล์วต่าง ๆ ของงานสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา สูงสุด 20,000 เหตุการณ์ต่อวินาที และยังสามารถโต้ตอบกับระบบอื่น ๆ ภายในองค์กร รวมถึงระบบเดิมที่มีอยู่ผ่าน Mulesoft
- Analytics at Scale: โครงสร้างข้อมูลของข้อมูลเมตาดาต้า (Metadata Schema) แบบทั่วไปบน Einstein 1 Platform และแอคเซสโมเดลช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกและโซลูชั่นวิเคราะห์มากมายของเซลส์ฟอร์ซ อาทิ Reports and Dashboards, Tableau, CRM Analytics, และ Marketing Cloud Report สามารถใช้งานข้อมูลเดียวกันได้อย่างทั่วถึง
“เราอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลตลอดเวลาความสำคัญและการที่ AI เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะ AI จะเข้ามาปฏิวัติพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์และนำไปสู่ยุคเศรษฐกิจใหม่” คุณอามิท ซักซีน่า รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียน เซลส์ฟอร์ซกล่าวต่ออีกว่า “ในเวลานี้ ธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องควบคุมและประเมินถึงความเหมาะสมของการใช้งาน AI, Data และ CRM เพื่อสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า ในขณะเดียวกันยังต้องสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าของพวกเขาได้เช่นกัน ความไว้วางใจของลูกค้ามีผลต่อแบรนด์ได้ ดังนั้นความสามารถในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมต่อลูกค้าจึงมีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจแห่งอนาคต”
ไฮไลท์สำคัญอื่น ๆ จากงาน Dreamforce 2023:
- Slack เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานอย่างชาญฉลาด
- นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาบน Slack จะนำเอาเอไอ, ระบบออโตเมชั่น และการแบ่งปันความรู้มารวมไว้ในที่เดียว เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน
- Slack AI มาพร้อมความสามารถในการสรุปเธรดต่าง ๆ, สรุปไฮไลท์บนชาแนล, และค้นหาคำตอบภายในข้อความทั้งหมดของผู้ใช้
- Workflow Builderรุ่นพัฒนาจะช่วยให้ทีมสามารถสร้างระบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใด ๆ โดยใช้งานตัวเชื่อมต่อจาก Google, Asana, Jira และแพลตฟอร์มอื่น ๆ
- Slack listsจะช่วยติดตามงาน, ติดตามคำขอคัดแยก(Triage requests) และติดตามการจัดการโปรเจ็คข้ามสายงานได้
- นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาบน Slack จะนำเอาเอไอ, ระบบออโตเมชั่น และการแบ่งปันความรู้มารวมไว้ในที่เดียว เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน
- Einstein สำหรับ Net Zero Cloud เพื่อช่วยให้การทำรายงานเกี่ยวกับ ESG ง่ายขึ้นสำหรับบริษัทต่างๆ
- ฟีเจอร์ Einstein สำหรับ Net Zero Cloud นั้นจะแนะนำข้อมูลที่เชื่อถือได้ตอบสนองต่อคำสั่งหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายงาน ESG แบบเรียลไทม์ โดยการตอบสนองต่างๆ จะอ้างอิงมาจากข้อมูลที่อยู่ในกรอบการรายงานโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถที่จะปรับปรุงกระบวนการเขียนรายงาน ESG ได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น Einstein สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูล ESG ของบริษัทที่ถูกเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว หรืออาจดึงข้อมูลจากเอกสารที่อัปโหลดเอาไว้ก่อนหน้านี้ (เช่น รายงานผลกระทบกว่าหนึ่งหมื่นฉบับ เอกสารการปฏิบัติตามข้อกำหนด) หรืออาจใช้ประโยชน์จากข้อมูล Net Zero Cloud อื่นๆ เช่น ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท เป็นต้น Einsteinจะใช้ข้อมูลนี้ระบุลงไปในแต่ละส่วนรายงาน ESG สำหรับปีล่าสุดโดยอัตโนมัติ
- Salesforce ขยายความร่วมมือทางอุตสาหกรรม เปิดตัวพาร์ทเนอร์ชิพกับ Google, AWS, McKinsey, Databricks, Genesys และ Snowflake:
- Google partnership: เปิดตัวการใช้งานรูปแบบ Bidirectional Integration ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรวมบริบทจาก Salesforce และ Google Workspace เข้าด้วยกัน ผู้ใช้จะสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างไร้รอยต่อทั่วทั้งแพลตฟอร์มผ่านผู้ช่วย Generative AI ของ Salesforce และ Google Workspace, Einstein Copilot และ Duet AI
- AWS partnership: เปิดตัว Bring Your Own Lake (BYOL) และ Bring your Own Large Language Model (BYO LLM) ซึ่งเป็นการผสานโซลูชั่นระหว่าง AWS และ Salesforce Data Cloud สร้างขึ้นบน AWS โดยนำ Generative AI ที่มีอยู่ของเซลส์ฟอร์ซเข้ามาพาร์ทเนอร์ด้วย ซึ่งการผสานโซลูชั่นดังกล่าวนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรวมข้อมูลของตนผ่าน Data Cloud และบริการของ AWS ได้อย่างไร้รอยต่อและมีความปลอดภัย เพื่อใช้ประโยชน์จากชุดโมเดลพื้นฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่บน Amazon Bedrock และ Amazon SageMaker อย่างปลอดภัยภายในแพลตฟอร์มเซลส์ฟอร์ซ
- McKinsey partnership: เปิดตัวการนำเทคโนโลยี Einstein และ Data Cloud ของเซลส์ฟอร์ซมาผสานเข้ากับโมเดลและเอไอของ McKinsey โดยการร่วมงานกันครั้งนี้จะช่วยเร่งการเปิดตัว Generative AI ที่น่าเชื่อถือสำหรับการขาย การตลาด การพาณิชย์ และการบริการ
- Databricks partnership: เปิดตัวการแชร์ข้อมูลแบบไร้รอยต่อระหว่าง Salesforce Data Cloud และ Databricks Lakehouse ที่จะช่วยลดต้นทุนและลดความซับซ้อนในการย้ายและคัดลอกข้อมูลสำหรับลูกค้า รวมทั้งสร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ช่วยปลดล็อกการใช้ข้อมูลเชิงลึกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อการส่งมอบประสบการณ์ของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น
- Snowflake partnership: เปิดตัววางจำหน่าย Bring Your Own Lake (BYOL) ซึ่งเป็นเครื่องมือการแชร์ข้อมูลผ่าน Snowflake Data Cloud จาก Salesforce Data Cloud ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและส่งเสริมการนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้งาน เสริมความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนการทำงานด้วยข้อมูลหรือ Data-driven ให้แก่ลูกค้า
- Genesys partnership: เปิดตัว CX Cloud โซลูชั่นการจัดการความสัมพันธ์และประสบการณ์ลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอแบบครบวงจร ซึ่งเป็นการผสานระบบระหว่าง Genesys Cloud CXTM และ Salesforce Service Cloud เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์ลูกค้าและประสบการณ์พนักงานแบบครบวงจรให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม:
- เกี่ยวกับ Einstein Copilot และ Copilot Studio ไปที่newsroom post
- เกี่ยวกับ Einstein 1 Platform ไปที่newsroom post
- เกี่ยวกับ Slack Productivity Platform ไปที่newsroom post
- เกี่ยวกับ IDC Salesforce Economy Study ไปที่newsroom post
- เกี่ยวกับ Einstein สำหรับ Net Zero Cloud ไปที่newsroom post