ขอนแก่น ประเทศไทย, 14กรกฎาคมพ.ศ.2566 – บริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Huawei Thailand Education Summit 2023 ครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้ธีม Accelerate the Digital Journey of Educationณ จังหวัดขอนแก่น นำเสนอเทรนด์และเทคโนโลยีล่าสุด สำหรับภาคการศึกษา เพื่อหวังเป็นแนวทางในการยกระดับความพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
ศ.ดร.ศุภชัยปทุมนากุลรองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า หน้าที่หลักของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)คือ การพัฒนากำลังคน และการสร้างความเป็นเลิศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของประเทศไทย การที่เราจะพัฒนาประเทศไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้นั้น การพัฒนากำลังคนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกำลังคนด้านดิจิทัล เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานของการพัฒนของทุกอุตสาหกรรม
“ในปีที่ผ่านมา กระทรวง อว. ได้ร่วมกับ หัวเว่ย ประเทศไทยจัดทำสมุดปกขาวสำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทย โดยผลการศึกษาได้ระบุว่า ประเทศไทยจะเผชิญกับการขาดแคลนบุคลากรดิจิทัลถึงกว่า 500,000 คน ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยเฉพาะบุคลากรที่มีทักษะด้าน 5G, IoT, และคลาวด์ ในระดับ ในระดับ 4 (ระดับสูง)
วันนี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นและหัวเว่ย ประเทศไทยในการจัดตั้ง Huawei ICT Academy Support Center ขึ้น ซึ่งตรงกับสิ่งที่กระทรวงเล็งเห็นว่าการสร้างกำลังคนจะต้องเป็นแบบ co-creation ระหว่างผู้ผลิตบัณฑิต และฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดสังคมที่พร้อมสนับสนุนบัณฑิตทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน”
ด้าน รศ.นพ.ชาญชัยพานทองวิยะกุลอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่นขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลซึ่งมหาวิทยาลัยฯได้เริ่มวางเป้าหมายในการพัฒนามหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เป็นSmart Campus และSmart University ที่ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงในเชิงวิชาการเท่านั้นแต่คือการเปลี่ยนแปลงทั้งองค์รวมทั้งคนทั้งแนวคิดและเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญซึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์คือDigital Technology ที่จะเปลี่ยนมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เป็นPaperless หรือDigitalization
“ผมต้องขอขอบคุณที่มีงานในลักษณะนี้ที่นี่ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่เราจะได้เห็นเทรนด์เทคโนโลยีสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและศักยภาพของบริษัทไอทีที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมระดับโลกนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาให้เราสัมผัสกันและจุดประกายไอเดียต่างๆในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละหน่วยงาน”
รศ.นพ.ชาญชัยพานทองวิยะกุลอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
นายเควินเฉิงประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดเผยว่า ภาคการศึกษาเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของหัวเว่ยในประเทศไทย ซึ่งนอกจากการเลือกสรรเทคโนโลยีและโซลูชันที่เหมาะสมกับโจทย์ความต้องการแล้ว หัวเว่ยยังมองถึงการส่งเสริมและพัฒนาให้ครอบคลุมทั้งอีโค่ซิสเต็มส์เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีเพื่อการยกระดับการเรียนการสอนของประเทศ
“เทคโนโลยีที่ดีที่สุดนั้นอาจไม่ใช่สิ่งใช่ที่สุดสำหรับทุกคนเสมอไป ดังนั้นการเลือกสิ่งที่ตรงกับความต้องการจริง และสามารถตอบสนองต่อภารกิจและเป้าหมายของหน่วยงานคือ น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้ดีกว่า ซึ่งในฐานะผู้นำไอซีทีชั้นนำหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์เพื่อนําเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเอไอคลาวด์คอมพิวติ้งและเทคโนโลยีอื่นๆมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาตลอดจนถึงการบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมเร่งสร้างนวัตกรรมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาทรัพยากรทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม”
นายเควินเฉิงประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
ในครั้งนี้ หัวเว่ยยังนำเทคโนโลยีพร้อมด้วยโซลูชันและนวัตกรรมด้านการศึกษามาจัดแสดงให้คณะผู้บริหารสถาบันการศึกษา คณาจารย์และบุคคลากรที่เกี่ยวข้องได้เยี่ยมชมเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีVirtual Reality in 5G Classroom, Intelligent Research Center,Next Generation of Campus Network,Wi-Fi 7, AI Camera ตลอดจนตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเป็นแนวทางให้สถาบันและหน่วยงานต่างๆในการเตรียมพร้อมสำหรับหน่วยงานของตนเอง
พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านไอซีที นำเทคโนโลยีเพื่อการศึกษายุคใหม่ที่น่าสนใจร่วมจัดแสดงภายในงานWUNCA 43 การประชุมเชิงปฏิบัติการ “การดำเนินกิจกรรมบนระบบเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาครั้งที่ 43ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่นในระหว่างวันที่ 10-13 กรกฎาคมที่ผ่านมาด้วย
ในงานเดียวกันนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นและบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดยังได้ลงนามความร่วมมือจัดตั้งโครงการHuawei Academy support Centerซึ่งจะเป็นตัวแทนของหัวเว่ยในการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีแห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นแห่งแรกในประเทศไทยทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนากำลังคนด้านไอซีทีพร้อมเป็นผู้สนับสนุนที่จะส่งผ่านองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่น การจัดอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีต่างๆให้กับอาจารย์และนักเรียน นักศึกษา
รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้นักศึกษาพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันร่วมกันพัฒนากำลังคนที่พร้อมด้วยทักษะด้านเทคโนโลยีในเขตภาคอีสาน เข้าสู่ตลาดแรงงานด้านอุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศโดยมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่https://e.huawei.com/en/talent/ict-academy/#/home, Facebook.com/HuaweiICTAcademyTHหรือติดต่อ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นโทรศัพท์ 043-009700 ต่อ 50525
รศ.นพ.ชาญชัยพานทองวิริยะกุลอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เกียรติเป็นผู้รับมอบประกาศนียบัตรรับรองความร่วมมือจัดตั้ง โครงการHuawei Academy support Centerแห่งแรกของประเทศไทยและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ